หมกเม็ดรัฐสูญรายได้ คปพ.จีบิกตู่ ยกเลิกพรบ.ปิโตรเลียม เปิดทางมั่วอนุมัติให้สัมปทาน นัดรวมพลใหญ่9กรกฎาคม เล็งล่าชื่อคัดค้านทุกรูปแบบ

นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงานไทย (คปพ.) เปิดเผย เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ว่า คปพ.ได้เปิดแถลงการณ์เพื่อรวม พลังงานประชาชนไทย กู้วิกฤติพลังงานครั้งสำคัญด้วยการขอเชิญชวนประชาชนร่วมเดินทางมาลงชื่อเพื่อเสนอต่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ถอนพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับกระทรวงพลังงานออกจากการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาและหรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันที่ 9 ก.ค.นี้ตั้งแต่เวลา 9.30 น.เป็นต้นไปและหลังจากนั้นจะเดินทางไปแสดงตนต่อที่รัฐสภาเพื่อเข้าชื่อร่วมกันเสนอสนช.หยุดยั้งกฏหมายดังกล่าวต่อไปเพื่อประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ “ขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับที่(…) พ.ศ. …และร่างพ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียมรวม 2 ฉบับของกระทรวงพลังงานได้ผ่านความเห็นชอบจากครม.ไปแล้วและได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกฤษฎีกาก็จะส่งไปสนช.เพื่อตราเป็นพระราชบัญญัติใช้ต่อไปนั้นที่ผ่านมาคปพ.ได้คัดค้านและทำหนังสือถึงนายกฯไปแล้ว ด้วยการขอให้ถอนร่างกฏหมายดังกล่าวออกจากการพิจารณาของกฏษฎีกาทันทีและนำร่างกฏหมายที่จัดทำโดยเครือข่ายปฏิรูปพลังงาน(คปพ.)เสนอต่อครม.เพื่อจัดทำประชาพิจารณ์ในร่างกฏหมายของภาคประชาชนแต่จวบขณะนี้คำร้องขอประชาชนยังคงถูกเมินเฉย” นายปานเทพ กล่าว ด้าน นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลังและแกนนำคปพ.กล่าวว่า เป็นความเสี่ยงของรัฐบาลนี้หากปล่อยให้กฏหมายดังกล่าวผ่านออกไปด้วยมีความไม่โปร่งใสหลายด้านทั้งการเร่งรีบโดยไม่ยอมรับร่างกฏหมายของภาคประชาชนทั้งที่รัฐบาลเองก็สั่งให้มาทำการศึกษาร่วมกัน ขณะเดียวกันไม่มีการนำเสนอกลับมายังครม.ให้พิจารณาอีกครั้งและที่สำคัญสุดรัฐบาลจะเสี่ยงที่อาจจะเกิดการทุจริต ฉ้อราษฎบังหลวงที่สืบเนืองจากกฏหมายกระทรวงพลังงานฉบับนี้ค่อนข้างสูงเนื่องจากฏหมายกระทรวงพลังงานที่เขียนไว้เป็นการเปิดให้มีการใช้ดุลยพินิจการให้เอกชนได้สิทธิ์สำรวจปิโตรเลียมทำให้กระบวนการจะนำไปสู่ความไม่โปร่งใส ขณะที่ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี แกนนำคปพ.กล่าวว่า กฎหมายปิโตรเลียมของกระทรวงพลังงานมีการชิงออกก่อนโดยไม่แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแต่กลับเพิ่มปัญหา เช่นด้านภาษีด้านปิโตรเลียมมีมาตรฐานต่ำกว่าประมวลรัษฎากร แต่กลับลดภาษีเงินได้ปิโตรเลียมลงจาก 50% เหลือ 20% ของกำไรสุทธิ ทางด้าน นายอิฐบูรณ์ อ้นวงศา แกนนำคปพ.กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดร่วมคัดค้าน กฏหมายปิโตรเลียมของกระทรวงพลังงานได้ด้วยการทำหนังสือส่งให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่งในวันเดียวกัน อย่างไรก็ตามกฏหมายของกระทรวงพลังงานแม้ว่าจะมีการเปิดช่องให้ใช้ระบบแบ่งปันผลผลิตหรือ PSC แต่กลับพบว่ามีมาตรฐานต่ำกว่าประเทศอาเซียนแม้ว่ากระทรวงฯได้พยายามชี้ให้เห็นว่าใช้โมเดลของพื้นที่พัฒนาร่วมไทยมาเลเซีย(JDA) แต่หากพิจารณาจะพบว่ารัฐโดยปิโตรนาสของมาเลเซียได้ประโยชน์จริงแต่ไทยเป็นการยกให้เอกชนรับไปอีกทอดหนึ่งที่สุดแล้วก็หนีไม่พ้นระบบสัมปทาน ในขณะที่ พ.ท.พญ.กมลพรรณ ชีวพันธ์ศรี แกนนำ คปพ.กล่าวว่า หากกฏหมายฉบับนี้ผ่านไปได้รัฐบาลเองก็จะอยู่ไม่ได้เช่นกันเพราะสิ่งที่ภาคประชาชนเรียกร้องเป็นการรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติดังนั้นหากจะมีการนำตัวไปปรับทัศนคติก็พร้อมแต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการต่อต้านรัฐบาล

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : www.scholarship.in.th

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือพิมพ์แนวหน้า