บลจ.กสิกรไทยเชียร์เข้าลงทุนตลาดหุ้นญี่ปุ่น

นายนาวิน อินทรสมบัติ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวดีขึ้นต่อเนื่อง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP) ไตรมาสแรกขยายตัวได้ 1.0% สูงกว่าที่เคยประเมินไว้ก่อนหน้าและถือเป็นตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาสแรก ที่ดีที่สุดในรอบ 2 ปี ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจอื่นๆ อาทิ อัตราการใช้จ่ายภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 7.40% แสดงถึงการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ขณะที่การใช้จ่ายภาคครัวเรือนซึ่งคิดเป็นสัดส่วนถึงกว่า 60% ของ GDP ก็ปรับตัวดีขึ้นในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 14 เดือน สอดคล้องกับรายได้ของครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ด้านดัชนีความเชื่อมั่นผู้ผลิตของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในเดือนมิถุนายน และปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ค้าปลีกปรับตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี ล้วนเป็นสัญญาณเชิงบวกของเศรษฐกิจญี่ปุ่น ว่าได้ฟื้นตัวจากภาวะซบเซาหลังการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปี 2557 ที่ผ่านมา บลจ.กสิกรไทยยังมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเชื่อว่าหุ้นญี่ปุ่นยังคงมีแนวโน้มปรับตัวได้ดีในระยะยาว จากปัจจัยหนุนหลายด้าน อาทิ การปรับขึ้นค่าแรงพนักงานเป็นอัตราสูงที่สุดในรอบหลายปีของบริษัทญี่ปุ่นขนาดใหญ่ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อกำลังซื้อภายในประเทศ การเพิ่มสัดส่วนการเข้าซื้อหุ้นที่ระดับประมาณไม่เกิน 25% ของกองทุนบำนาญญี่ปุ่น (GPIF) ซึ่งถือเป็นกองทุนที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดในโลกกว่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินไว้เช่นเดิม โดยเฉพาะวงเงินเข้าซื้อสินทรัพย์ 80 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นญี่ปุ่นเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยที่นักลงทุนควรจะต้องติดตามคือ กรณีวิกฤติทางการเงินในประเทศกรีซ รวมถึงความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้นจีนจากแรงเทขายของนักลงทุนรายย่อยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบในเชิงจิตวิทยามายังตลาดหุ้นในญี่ปุ่นทำให้เกิดความผันผวนในระยะสั้นด้วย นักลงทุนที่ต้องการทำกำไรระยะสั้นจึงอาจชะลอการลงทุนในช่วงนี้ ส่วนนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะยาว อาจใช้ความระมัดระวังในช่วงที่ตลาดปรับฐานโดยทยอยเข้าลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นได้ เนื่องจากยังมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของหุ้นญี่ปุ่นในระยะยาว นายนาวินกล่าวว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายปันผลกองทุนเปิดเค ญี่ปุ่น หุ้นทุน (K-JP) ในอัตรา 0.25 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2557-30 มิถุนายน 2558 กองทุนดังกล่าวจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียน ณ เวลา 08.00 น. ของวันที่ 30 มิถุนายน 2558 และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 นี้ รวมมูลค่าเงินปันผล 179 ล้านบาท