นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงเศรษฐกิจไทยขณะนี้ว่า เป็นโจทย์ที่ยากเหมือน ถูกรุมเร้าด้วย 3 โรค คือ 1.ไข้หวัดใหญ่ที่ได้รับเชื้อจากความผันผวน ของเศรษฐกิจโลก 2.โรคข้อเข่าเสื่อม จากการไม่ได้ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การผลิต และการลงทุนประเทศช่วงที่ผ่านมา 3. โรคขาดความเชื่อมั่น ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการขยายตัวเศรษฐกิจ “ข่าวร้ายที่มากกว่าข่าวดี ทำให้คนในประเทศเป็นโรคขาดความเชื่อมั่น การลงทุน การใช้จ่ายชะงักหมด แต่เราได้แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ไปในระดับหนึ่งแล้ว ทั้งการปฏิรูปโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ เสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาคอยู่ในระดับที่ดี แต่มีปัญหาระยะยาวที่โครงสร้างการผลิต และปัญหาระยะสั้นที่รุมเร้า เช่น ภัยแล้ง แต่นายกรัฐมนตรีได้สั่งให้แก้ปัญหาเร่งด่วนแล้ว” ส่วนการใช้นโยบายการเงินกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น นโยบายการเงินเป็นส่วนที่คอยพยุงเศรษฐกิจไว้ หากพิจารณาสภาพคล่อง อัตราแลกเปลี่ยน และอัตราดอกเบี้ย จะเห็นว่าเครื่องมือทั้ง 3 อยู่ใน ฝั่งการผ่อนคลาย ค่าบาทอ่อนช่วยการส่งออกได้ระดับหนึ่ง แต่เศรษฐกิจจีนที่ซบเซาและการปรับความต้องการสินค้าในตลาดโลก มีผลมากกว่าค่าเงินบาท
ทำให้การส่งออกยังติดลบ และจะทอดเวลาไปอีกระยะ ส่วนการปรับ ครม.เศรษฐกิจจะช่วยเรื่องความเชื่อมั่นหรือไม่ และมีโอกาสที่ตนจะเข้ามารับตำแหน่งหรือไม่ นายประสารกล่าวว่า เมื่อเศรษฐกิจไทยมีโจทย์หนักมากที่ต้องเร่งแก้ อย่าไปพูดอะไรที่บั่นทอนกำลังใจคนทำงาน หากเปรียบกับฟุตบอล ตอนนี้เราต้องการตัวพลิกเกม แต่ไม่มีใครรู้ว่าคนที่ลงไปนั้นจะเป็น คนพลิกเกมจริงหรือไม่ นายประสารยังฝากถึงนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ว่า เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจาก พนักงาน ธปท.ทำงานเป็นทีมเวิร์ก นอกเหนือจากงานใน ธปท.สิ่งที่ต้องทำให้ดีคือ การประสานนโยบายกับรัฐบาลกับหน่วยงานอื่น อย่างสอดคล้อง เพื่อดูแลทั้งการขยายตัวและเสถียรภาพเศรษฐกิจ.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์