ทองร่วง!! 8 วันติด จากดอลลาร์แข็งกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนก.ย. นี้ เช้านี้ในประเทศบาทยังอ่อน ทองลง 150
ราคาทองคำนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกัน 8 วันทำการ แตะระดับดต่ำสุดในรอบ 5 ปีที่ระดับ 1,083 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องมาจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง หนุนการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
เมื่อวานทองคำร่วงลงหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ในช่วงเช้าและเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากนั้น นักวิเคราะห์มองว่า สาเหตุที่ราคาทองคำปรับลงแรงเป็นผลจากทองคำหลุดแนวรับสำคัญทางเทคนิคจากคำสั่งขายตัดขาดทุนของโปรแกรมซื้อขายอัตโนมัติ ซึ่งการร่วงลงหนักของทองคำในทางเทคนิคดังกล่าว เป็นผลมาจากได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำและหันไปซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง รวมถึงสกุลเงินดอลลาร์ ทั้งนี้ เฟดไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมานับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2549 ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์การเงินในสหรัฐ ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกันยายนนี้
นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยดัชนีดอลลาร์ปรับขึ้นแตะที่ ระดับ 97.96 ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์ มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ส่วนรายงานจากกองทุน SPDR Gold Trust ว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 โดยเมื่อวันศุกร์กองทุนขายสุทธิไป 11.63 ตัน และเมื่อวานนี้ขายสุทธิ 1.79 ตัน คงเหลือปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำ 694.46 ตันซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี สะท้อนให้เห็นความต้องการทองคำของนักลงทุนรายใหญ่และนักลงทุนสถาบันในสหรัฐและยุโรปอ่อนแอ และมีมุมมองทางลบต่อทิศทางราคาทองคำ
ทางด้านราคาทองคำในประเทศ เมื่อวานนี้ ทองในประเทศได้รับผลกระทบจากการร่วงลงของทองคำตลาดต่างประเทศ โดยเปิดตลาดทองร่วง 350 บาทหลังจากนั้นปรับขึ้นติดต่อกัน 2 ครั้งรวม 150 บาท และสรุปราคาทั้งวันพบว่าทองปรับลดลง 200 บาท ต่อเนื่องเปิดตลาดเช้าวันอังคาร ทองร่วงอีก 150 บาท ซึ่งชดเชยราคาที่ปรับขึ้นเมื่อวาน ทำให้ราคาเปิดซื้อขายทองของวันนี้เป็นราคาเปิดตลาดซื้อขายทองเมื่อวานนี้ ส่วนสาเหตุที่ทองในประเทศลดลงได้ไม่มากเหมือนตลาดโลกเนื่องมาจากการอ่อนค่าของเงินบาทแตะระดับ 34.49 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งแนวโน้มเงินบาทในวันนี้ยังมีทิศทางอ่อนค่าต่อเนื่อง
บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มราคาทองคำทางเทคนิค ทองคำมีแนวรับที่ 1,094 และ 1,083 ดอลลาร์ต่อออนซ์ตามลำดับ เครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณขายมากเกินไป (Oversold) ทำให้คาดว่าราคาทองคำมีการฟื้นตัวทางเทคนิคเมื่อลงไปที่แนวรับดังกล่าว ความต้องการทองคำแท่งในเอเชียยังคงอ่อนแอทั้งจากจีนและอินเดีย รวมทั้งกองทุน SPDR คาดยังไม่กลับมาซื้อ ทำให้การฟื้นตัวของราคาทองคำยังคงเปราะบาง โดยมีแนวต้านที่ 1,120 และ 1,130 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ อังคาร 21 ก.ค. ทองลง 150 บาท ทองคำแท่งขาย 18,100 ทองรูปพรรณขาย 18,500
ประกาศราคาทอง ชนิด 96.5% ประจำวันอังคารที่ 21 กรกฏาคม 2558 ครั้งที่ 1 เวลา 09.25 น. จาก สมาคมค้าทองคำ(Gold Traders Association) เปิดตลาดวันนี้ ทองลง 150 บาท จากปิดตลาดเมื่อวานนี้(วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม 2558) โดย
- ทองคำแท่ง รับซื้อคืนบาทละ 18,000 และขายออกที่บาทละ 18,100
- ทองรูปพรรณ รับซื้อคืนบาทละ 17,737.20 และขายออกที่บาทละ 18,500
ส่วนตลาดทองคำนิวยอร์ก(COMEX-Commodity Exchange) ปิดตลาดเมื่อคืนวันศุกร์(20) พบว่าร่วงลง 25.1ดอลลาร์ ที่ระดับ 1,106.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเป็นการร่วงลงติดต่อกัน 8 วันทำการ เนื่องได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ทางด้านทองคำตลาดฮ่องกง เปิดตลาดเช้าวันนี้ (21) พบว่าร่วงลง 129 ดอลลาร์ฮ่องกง ที่ระดับ 10,318 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อตำลึง
ขอบคุณข้อมูลจาก : MTS Gold