ตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง แม้จะเป็นตลาดใหญ่ แต่ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาเจอปัญหาหนี้สินครัวเรือนรุมเร้า ทำให้ผู้ซื้อจำนวนไม่น้อยถูกปฏิเสธสินเชื่อในวันที่โครงการสร้างเสร็จและต้องยื่นขอสินเชื่อจริง ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัวรับมือ รวมถึงบริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ ที่งัดกลยุทธ์รับมือด้วยการดึงแบงก์เช็กสถานะการเงินของลูกค้าก่อนจองห้องชุด ลดการปฏิเสธสินเชื่อ นายพงษกานต์ อานนท์วัฒนากร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัท ไตร พร็อพเพอตี้ กล่าวว่า บริษัทเน้นเจาะตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง-ล่าง ระดับราคาล้านต้นๆ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกระแสข่าวว่าถูกปฏิเสธสินเชื่อมากขึ้น จึงใช้กลยุทธ์ดึงแบงก์มาร่วมตรวจสภาพการเงินของลูกค้าก่อนจองคอนโดมิเนียม เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกค้าจะถูกปฏิเสธสินเชื่อเมื่อยื่นกู้ตอนก่อสร้างเสร็จ จึงทำให้ยอดขายที่เกิดขึ้นในช่วงที่ตึกยังสร้างไม่เสร็จ สามารถโอนได้จริง และถูกปฏิเสธสินเชื่อน้อยมาก สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการจองห้องชุด แต่อาจยังมีประวัติทางการเงินไม่ดีนัก ทางแบงก์ก็จะแนะนำวิธีการที่ลูกค้าควรแก้ไข พร้อมแนะนำการเก็บเงินออมที่จะสร้างประวัติทางการเงินที่ดีให้กับลูกค้า เพื่อง่ายต่อการยื่นกู้จริง รวมถึงยังกำหนดสัดส่วนเงินดาวน์ไว้ที่ 10-12% จึงลดความเสี่ยงลูกค้าทิ้งดาวน์ในช่วงตึกใกล้เสร็จ
ขณะที่ภาพรวมเศรษฐกิจครึ่งปีหลังแม้ว่าจะยังชะลอตัว แต่มองว่าคอนโดมิเนียมกลุ่มล้านต้นๆ ที่เจาะเรียลดีมานด์ยังไปได้ จึงมีแผนจะเปิดตัวคอนโดมิเนียมใหม่อีก 1-2 โครงการ มูลค่าโครงการละ 400-500 ล้านบาท ปัจจุบันมีที่ดินแล้ว ล่าสุดเปิดตัวพราว 3 แจ้งวัฒนะ เป็นอาคารสูง 8 ชั้น จำนวน 170 ห้องชุด พื้นที่ 23-54 ตารางเมตร (ตร.ม.) เริ่มต้น 1.29 ล้านบาท หรือ 5.5 หมื่นบาท/ตร.ม. มียอดขายแล้ว 30% ทั้งนี้ ในทำเลแจ้งวัฒนะ มีทั้งผู้ประกอบการรายเล็กและรายใหญ่เปิดขายโครงการ โดยโครงการของรายเล็กส่วนใหญ่จะอยู่ในซอย เป็นอาคารชุด 8 ชั้น ราคาเฉลี่ยไม่เกิน 6-7 หมื่นบาท/ตร.ม. ตกแต่งพร้อมอยู่ ส่วนโครงการของรายใหญ่จะอยู่ริมถนนแจ้วัฒนะ เป็นตึกสูง 20-30 ชั้น ราคาค่อนข้างสูง ซึ่งแนวโน้มราคาขายคอนโดมิเนียมย่านแจ้งวัฒนะจะขยับได้อีก 10-20% ต่อปี

หมายเหตุ : ภาพประกอบบทความ บางภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเนื้อหาแต่อย่างใด Photo credit by : picpost.postjung.com

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.reic.or.th