ผอ.ไทยพิพัฒน์ ร่วมกับ 6 องค์กรธุรกิจชั้นนำ ระดมเงินตั้งต้น 120 ล้านบาท เป็นทุนแรกเริ่มโครงการลงทุนสุนทาน เพื่อพัฒนาสังคมแบบยั่งยืน เผย ในปีนี้น่าจะมีองค์กรเข้าร่วมเพิ่มขึ้น ส่วนทุนประเมิน คาด ขยายพันล้าน ภายในปีนี้... วันที่ 22 ก.ค. 2558 ดร.พิพัฒน์ ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการสถาบันไทยพิพัฒน์ กล่าวเปิดตัวโครงการลงทุนสุนทาน (Philanthropic Investments) ที่โรงแรม ดิ โอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ โดยมี ดร.อาณัติ อาภาภิรม กรรมการบริหารและประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดการ รถไฟฟ้าบีทีเอส นายดิลลิปรัจ ราชากาเรีย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด นายทิฆัมพร เปล่งศรีสุข ประธานกรรมการบริหาร แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ นายจำรูญ ชินธรรมมิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ เคเอสแอล กรุ๊ป และนางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มทิสโก ซึ่งทั้ง 6 องค์กรธุรกิจชั้นนำได้จับมือเป็นหุ้นส่วนด้วย ในส่วนของแนวคิดการลงทุนสุนทาน เป็นอีกทางเลือกของการทำ CSR อย่างยั่งยืน โดยเป็นการสนับสนุนทุนหรือทรัพยากร ที่ทำให้สามารถใช้ในการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องหรือจนกว่าโครงการจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ การลงทุนสุนทาน จึงเป็นการนำเงินหรือทรัพย์สินมาเป็นทุน เพื่อหาดอกผลนำไปใช้จ่าย ในการให้ความช่วยเหลือแก่สังคมในด้านต่างๆ โดยที่ทุนหรือเงินต้นยังคงอยู่ ซึ่งแตกต่างจากการช่วยเหลือสังคมในแบบการทำบุญหรือการบริจาค ที่สิ่งเหล่านั้นเป็นการมอบเงินหรือสิ่งของแก่สังคมโดยตรง แต่การลงทุนสุนทาน เป็นการช่วยเหลือสังคมได้ไม่รู้จบ สามารถพัฒนาขับเคลื่อนสังคมได้
ด้าน ดร.พิพัฒน์ กล่าวว่า ในส่วนของโครงการลงทุนสุนทานที่มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ สืบเนื่องมาจากสถาบันไทยพัฒน์ ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมจัดอันดับประเมินหลักทรัพย์ และได้ Universe ในส่วนของ ESG100 คือ 100 หลักทรัพย์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของสังคม สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และจากตรงนั้นก็เลยคิดว่า น่าจะมีการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรม จึงเป็นที่มาของการตั้งกองทุนขึ้นมา โดยได้ทาง ทิสโก้ ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการบริหารจัดการ มาดูแลในส่วนของเงินลงทุน ที่จะก่อให้เกิดดอกผลอย่างต่อเนื่อง สำหรับการตั้งเป้าในช่วงเริ่มต้น ภายในปีนี้คิดว่า น่าจะได้แนวร่วมมากกว่า 6 องค์กรตั้งต้น และอย่างน้อยๆ น่าจะมีองค์กรธุรกิจที่สนใจเข้ามาใช้การลงทุนลักษณะนี้ในการทำ CSR ของตัวเอง ซึ่งเบื้องต้น ทุนประเมินในวันนี้ 120 ล้าน และน่าจะขยายในระดับพันล้านภายในปีนี้


ขณะที่ ดร.อาณัติ กล่าวว่า บีทีเอส เป็นการดำเนินธุรกิจที่ตอบโจทย์คนกรุง เพื่อมีวิถีชีวิตที่ดีกว่า และบีทีเอสก็มี CSR ให้ทำเยอะ ไม่ว่าจะเป็น โครงการคลินิกลอยฟ้า หนูด่วนชวนกินเจ บีทีเอสกรุ๊ปอนุรักษ์ช้างไทย ตลอดจนมอบทุนนักเรียนดีเด่นแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ให้กับโรงเรียนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยในส่วนของการลงทุนระยะต้น 20 ล้าน คิดว่า ถ้าเป็นระยะแรก งบคงยังไม่พอ อาจใช้งบส่วนตัวเพิ่มเติม แต่ในระยะต่อไป โครงการยืดยาวขึ้น การจัดงบประมาณก็จะเปลี่ยนไป ก็จะ ยั่งยืนขึ้น นอกจากนี้ นางอรนุช เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในฐานะผู้บริหารจัดการกองทุน จาก 6 องค์กร องค์กรละ 20 ล้าน ซึ่งจะได้มา 120 ล้านนั้น วางแผนว่าจะตั้งกองทุนให้แล้วเสร็จภายในเดือนหน้า รับวันแม่แห่งชาติ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องท้าทายว่าจะทำได้หรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์โดยหลักๆ ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจ ภาวะตลาดด้วย บางทีก็พูดยาก ไม่ชัดเจน แต่คาดว่า ถ้าปีหน้าดีขึ้น ก็จะเห็นเป็นรูปเป็นร่างว่ามีอะไร ออกมารูปแบบไหน

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์