ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเร็วๆนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้สั่งการให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และกระทรวงแรงงาน ร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารเงินกองทุนประกันสังคม เพื่อนำมาลงทุนในกองทุนตามนโยบายรัฐบาลที่คาดว่า จะให้ผลตอบแทนสูง เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทุนอื่นๆ ที่จะจัดตั้งในอนาคต เช่น กองทุนด้านสาธารณสุข กองทุนด้านการศึกษา เพื่อเป็นการสนับสนุนการดำเนินการตามนโยบายพัฒนาที่สำคัญของรัฐบาล และขณะเดียวกันกองทุนประกันสังคมก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่สูงด้วย ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรียังสั่งให้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ร่วมกับกระทรวงพลังงาน ทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 โดยให้เชิญคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาการบังคับใช้ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คณะกรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน สภาปฏิรูปแห่งชาติและกลุ่มผู้มีความเห็นต่างร่วมรับฟังความคิดเห็น และสร้างความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับร่างกฎหมายทั้งสองฉบับ
นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนา ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (กพข.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายว่า ภายใน 2 ปี จะเพิ่มอันดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยจากอันดับที่ 30 เป็นอันดับที่ 27 หรือเพิ่มขึ้น 3 อันดับ จากการจัดอันดับของสถาบันการจัดการนานาชาติ (ไอเอ็มดี) ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (ทีเอ็มเอ) ในฐานะประธานอนุกรรมการชุดการจัดการข้อมูลและการสื่อสารประชาสัมพันธ์ กพข. กล่าวว่า กพข.ได้ตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 6 ชุด เพื่อจัดทำแผนเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศระยะเร่งด่วนช่วงปี 2558-2559 เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ชัดเจนใน 2 ปี เช่น อนุกรรมการด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจมหภาค ที่มีนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นประธาน เป็นต้น.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์