ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม และนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ได้เปิดแถลงข่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ทำเนียบรัฐบาล โดย ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า ได้เล่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฟังใน ครม.ถึงตัวเลขเศรษฐกิจต่างๆ หลังรับฟัง นายกฯจึงให้นำทีมมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ซึ่งจะเห็นว่าช่วงนี้เป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างแท้จริง เพราะประเทศใหญ่ลดการนำเข้า ทำให้การส่งออกของประเทศต่างๆได้รับผลกระทบทั้งหมด การส่งออกนั้นลดลงทั้งโลก

“ประเทศไทยนั้นโชคดี การส่งออกลดลงเฉลี่ย 5% ใน 6 เดือน โดยการส่งออกอยู่ที่ 56% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เมื่อการส่งออกลดลงไป 5% ก็ถือว่ากระทบให้จีดีพีลดลงประมาณ 2.5-2.6% แล้ว แต่ไทยได้ตัวชดเชยคือยอดการท่องเที่ยวที่เติบโต 28% ซึ่งสัดส่วนการท่องเที่ยวอยู่ที่ 12% ของจีดีพี หากลองคูณกันจะได้คืนมา 3.5-4% ฉะนั้นการเติบโตของภาคท่องเที่ยวจะมากกว่าภาคส่งออกที่ลดลงไป ขณะที่ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่จะทำให้เติบโตได้ในระดับ 3% คือการใช้จ่ายของรัฐบาลและการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งการลงทุนภาคเอกชนในไตรมาสแรกของไทยขยายตัวได้ 4% จะเห็นว่าเศรษฐกิจของไทยยังไม่ได้หยุดลง การลงทุนยังเดินอยู่ เป็นเรื่องแปลกแต่จริงที่ 6 เดือนแรกอนุมัติโรงงานไปกว่า 2,000 แห่ง ทั้งขยายกำลังการผลิตและขยายโรงงาน เพราะธุรกิจยังเดินได้อยู่”

ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวใน ครม.ถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบที่ผู้อำนวยการสำนักงานทางเศรษฐกิจต่างๆที่สังกัดกระทรวง ทบวง กรม ออกมาแถลง จะต้องเชื่อมโยงให้ทราบว่ามีแนวทางแก้ไขอย่างไร และเมื่อเทียบกับประเทศอื่นติดลบด้วยเหมือนกันหรือไม่ และให้กระทรวงไปกำชับผู้อำนวยการสำนักต่างๆที่จะออกมาแถลงตัวเลขทางเศรษฐกิจ จะต้องมีรายละเอียดให้ทราบว่าสาเหตุที่ตัวเลขเศรษฐกิจติดลบเป็นผลกระทบมาจากประเทศอื่นอย่างไรบ้าง และจะแก้ไขอย่างไร.

ขอบคุณข้อมูลจาก : ไทยรัฐออนไลน์