นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 20 ส.ค.58 นี้ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) จะเปิดรับสมัครสมาชิกเข้ากองทุนฯ ผ่านสาขาธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่งคือ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 3,000 สาขา โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้รับสมัครสมาชิกคนแรกของ กอช.ที่ทำเนียบรัฐบาล ทั้งนี้ กอช.จัดตั้งขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่ประกอบอาชีพอิสระและไม่มีสวัสดิการใดๆ กับรัฐบาล ต้องการรับเงินบำนาญ ก็สามารถสมัครเป็นสมาชิกของ กอช.เพื่อรับเงินบำนาญหลังจากอายุเกินกว่า 60 ปี โดยผู้มีสิทธิ์ต้องมีสัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และไม่เกิน 60 ปี แต่ปีแรกได้อนุญาตให้ผู้สมัครที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป มีสิทธิ์ออมเงินกับกองทุนได้ 10 ปี นับจากวันที่เป็นสมาชิก ทำให้ปีแรกจะมีอายุเกิน 60 ปี สามารถสมัครสมาชิก กอช.ได้ด้วย
“ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ขณะที่ประชากรวัยเด็กและวัยแรงงานลดลง คาดว่าปี 63 จำนวนผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น มีสัดส่วนสูงถึง 15% หรือ 10.5 ล้านคนจากประชากรทั้งประเทศ 65 ล้านคน และในจำนวนนี้ เป็นประชากรวัยแรงงาน 40 ล้านคน แต่ในจำนวนแรงงานทั้ง 40 ล้านคน เป็นแรงงานนอกระบบถึง 25 ล้านคน ที่ยังขาดหลักประกัน ซึ่งประเมินว่า จะมีแรงงานที่มีศักยภาพในการออมประมาณ 10 ล้านคน และเข้าสู่ระบบการออมประมาณ 30% หรือ 3 ล้านคน โดยระยะแรก หรือภายในสิ้นปี 58 นี้ คาดว่าจะมีสมาชิกใหม่และสมาชิกที่รับโอนมาจากกองทุนประกันสังคมราว 600,000 คน ปี 59 เพิ่มเป็น 1.5 ล้านคน และ 3 ล้านคนในปีที่ 5 ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องการสร้างหลักประกันในวัยเกษียณให้แรงงานนอกระบบผ่านระบบการออมของ กอช.” นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการ กอช.กล่าวว่า การจ่ายเงินเข้ากองทุนนั้น สมาชิกจะต้องส่งเงินสะสมขั้นต่ำ 50 บาท แต่ไม่เกินปีละ 13,200 บาท โดยสมาชิกไม่จำเป็นต้องส่งเงินสะสมทุกเดือน ขณะที่รัฐบาลจะใส่เงินสมทบตามสัดส่วนเงินสะสมและตามช่วงอายุของสมาชิก โดยอายุสมาชิกระหว่าง 15-30 ปี รัฐจ่ายเงินสมทบให้ 50% ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 600 บาท อายุ 30-50 ปี รัฐจ่ายเงินสมทบให้ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 960 บาท ส่วนอายุสมาชิก 50 ปีขึ้นไป รัฐจะใส่เงินสะสมให้ 80% ของเงินสะสม แต่ไม่เกินปีละ 1,200 บาท และเมื่อสมาชิกอายุ 60 ปีขึ้นไป จะได้รับบำนาญรายเดือนตลอดชีวิตตามผลตอบแทนของการออม.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์