นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังหารือกับสภานักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน ว่า นักลงทุนสหรัฐฯ ยังสนใจใช้ไทยและอาเซียนเป็นฐานในการผลิต โดยขอให้ภาครัฐเร่งรัดใน 3 ประเด็น คือ

1. ส่งเสริมขีดความสามารถด้านการแข่งขัน 2. เร่งแผนงานโครงการเศรษฐกิจดิจิตอลให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด 3. เร่งปฏิรูปด้านการเมือง

ซึ่งขณะนี้นักธุรกิจสหรัฐฯมีความมั่นใจต่อเสถียรภาพการเมืองและเศรษฐกิจไทย มีความเข้าใจรัฐบาล จึงมีแผนขยายการลงทุนในไทยต่อเนื่อง โดยล่าสุดปีที่ผ่านมา นักลงทุน สหรัฐฯยื่นขอส่งเสริมการลงทุน 130,000 ล้านบาท ได้รับอนุมัติแล้ว 58,000 ล้านบาท นับเป็นประเทศที่มีสัดส่วนการลงทุนในไทยมากเป็นอันดับ 2 รองจากญี่ปุ่น “ผมมองว่า ในแง่ของภาคธุรกิจของสหรัฐฯ ไม่ได้มองว่ากรณีที่ไทยยังถูกจัดอยู่ในประเทศที่มีการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ขั้นที่เป็นเทียร์ 3 ของรายงานการค้ามนุษย์ จะเป็นอุปสรรคต่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและสหรัฐฯ เพราะมีความพยายามแก้ไขปัญหา”
นายอเล็กซานเดอร์ ซี. เฟลด์แมน ประธานสภานักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน กล่าวว่า นักลงทุนสหรัฐฯต้องการให้ประเทศไทยเข้าร่วมการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ที่จะส่งผลดีต่อไทย โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ ที่ไทยมีความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำในอาเซียน รวมถึงต้องการให้ไทยเร่งสนับสนุนและให้สิทธิประโยชน์แก่ธุรกิจวิจัยและพัฒนา เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางวิจัยและพัฒนาในเชิงอุตสาหกรรม เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการแข่งขันมากขึ้น ด้าน นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยหลังให้คณะนักธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน เข้าพบ ว่า ยังไม่ได้หารือถึงการเจรจาข้อตกลงความร่วมมือเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ซึ่งไทยจะประเมินข้อสรุปดังกล่าวอีกครั้งว่ามีผลดีผลเสียอย่างไร นอกจากนี้ ได้ย้ำกับนักธุรกิจสหรัฐฯถึงความพยายามแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ว่ามีความจริงจังและจริงใจ โดยขอให้นักธุรกิจกว่า 29 บริษัท ร่วมชี้แจงทำความเข้าใจเพื่อให้ไทยไม่ถูกเข้าใจผิด จากผู้บริโภคและกระทบต่อภาพลักษณ์ของสินค้าไทย.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์