นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแนวทางการสร้างความเชื่อมั่น และกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคในช่วงครึ่งปีหลังว่า กรมอยู่ระหว่างการหารือกับห้างสรรพสินค้า ในการจัดมหกรรมลดราคาสินค้าครั้งใหญ่อีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าแฟชั่น เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า หลังจากปลายปีที่ผ่านมาค่อนข้างประสบความสำเร็จอย่างมาก คาดจะดำเนินการได้ในช่วงเดือน ต.ค.58 ซึ่งจะช่วยประชาชนลดค่าครองชีพ และกระตุ้นกำลังซื้อได้เป็นอย่างดี “ในช่วงวันพาณิชย์ 20 ส.ค. นี้ กรมจะจัดงานลดราคาสินค้าด้วย โดยนำสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภคมาจำหน่ายในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ส่วนการจัดงานร่วมกับห้างอยู่ระหว่างการหารือรายละเอียดการจัดงานว่าเป็นอย่างไร เพื่อผู้บริโภคได้รับประโยชน์”
นอกจากนี้ จะหารือกับห้างสรรพสินค้าในการดูแลราคาอาหารปรุงสำเร็จ (จานด่วน) โดยขอให้ห้างยังคงดำเนินโครงการหนูณิชย์ พาชิม ในพื้นที่ของศูนย์อาหารภายในห้างไปจนถึงเดือน พ.ย.นี้ เพื่อดูแลราคาอาหารจานด่วนให้กับประชาชนได้มีทางเลือกในการกินอาหารภายในห้าง รวมทั้งมีแผนจะขยายสาขาหนูณิชย์ พาชิม ทั่วประเทศ ตั้งเป้าจากนี้ไป 1 ปีจะมีสาขาหนูณิชย์ พาชิม 10,000 ร้าน จากปัจจุบันที่มีร้านหนูณิชย์ พาชิม 3,000 ร้าน โดยยึดโมเดลหนูณิชย์ พาชิมที่ไปเปิด จ.บุรีรัมย์ มาเป็นตัวอย่างในการขยายสาขาไปยังจังหวัดต่างๆ ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีทางเลือกในการทานอาหารจานด่วนราคาไม่เกิน 35 บาทต่อจาน นายบุณยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับการดูแลราคาสินค้า หลังราคาน้ำมันดีเซลปรับตัวลดลงในรอบ 6 ปี 3 เดือน โดยปรับลดเหลือ 22.89 บาท/ลิตรนั้น เร็วๆนี้กรมจะเชิญผู้ผลิตสินค้าในกลุ่มสินค้าหนักมาสอบถามสถานการณ์ต้นทุนสินค้า ว่าจะสามารถปรับลดราคาลงมาได้อีกหรือไม่ แต่ต้องยอมรับว่ายังมีตัวแปรสำคัญอีกตัวที่มีผลต่อราคาสินค้าว่าจะลดลงได้หรือไม่ คือค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงมา ทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์