พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธาน เปิดท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าเพื่อให้บริการประชาชนใช้ในการสัญจรไปมาว่า กรมเจ้าท่าได้เปิดท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการใช้บริการขนส่งสาธารณะ โดยการพัฒนาท่าเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา กรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานหลักในการขยายและปรับปรุงท่าเรือเดิมในแม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพฯ นนทบุรี รวม 19 แห่ง แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ดำเนินการให้เสร็จในปีนี้ 3 ท่า ได้แก่ ท่าเรือพระปิ่นเกล้า ท่าเรือสาทร ท่าเรือนนทบุรี ระยะที่ 2 ดำเนินการให้เสร็จในปีหน้า 6 ท่า ได้แก่ ท่าเรือพระราม 7 ท่าเรือบางโพ ท่าเรือเทเวศร์ ท่าเรือพรานนก ท่าเรือราชวงศ์ และท่าเรือสี่พระยา
สำหรับระยะที่ 3 ดำเนินการให้เสร็จในปี 2562 จำนวน 10 ท่า ได้แก่ ท่าเรือปากเกร็ด ท่าเรือพระนั่งเกล้า ท่าเรือพระราม 5 ท่าเรือเกียกกาย ท่าเรือพายัพ ท่าเรือกรุงธน ท่าเรือพระอาทิตย์ ท่าช้าง ท่าเตียน และท่าราชินี ซึ่งเป็นการพัฒนาท่าเรือให้เข้ากับวิถีชีวิตยุคใหม่ มีสิ่งอำนวยความสะดวก และมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการให้บริการ เพื่อเป็นการยกระดับท่าเรือโดยสารเป็นสถานีเรือ เป็นต้น และท่าเรือสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เป็นจุดเชื่อมต่อกับรถโดยสารประจำทางหลากหลายเส้นทาง มีผู้ใช้บริการจำนวนมากต่อวัน นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า ปัจจุบันระบบการขนส่งโดยสารสาธารณะทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณผู้ใช้บริการที่สูงขึ้น เพราะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาการจราจรในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และยังสามารถชมบรรยากาศ 2 ฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยา อันเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง รัฐบาลจึงได้มีนโยบายในการพัฒนาระบบขนส่ง โดยสารสาธารณะของประเทศ และได้มอบให้กรมเจ้าท่ารับผิดชอบ.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์