"คมนาคม" คาดสำรวจเส้นทางรถไฟไทย-จีนแล้วเสร็จสิ้น ส.ค.นี้ ชี้ตัวเลขเงินกู้และแนวทางการร่วมลงทุนยังไม่ชัด มั่นใจประชุมครั้งหน้า 10-12 ก.ย.สรุปแน่ ด้านธนารักษ์จ้างเอกชนเร่งศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในพื้นที่รถไฟมักกะสัน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการรถไฟไทย-จีน หรือรถไฟทางคู่ขนาด 1.435 เมตร ความเร็วปานกลาง ว่า ภายในเดือน ส.ค.58 จะสรุปผลการสำรวจออกแบบในเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอย-นครราชสีมา-หนองคาย และแก่งคอย-มาบตาพุด ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย และช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ส่วนช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย จะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ ส่วนกรอบในด้านวงเงินลงทุน ตัวเลขเงินกู้และแนวทางร่วมทุนคาดว่าจะสรุปได้ในการประชุมครั้งหน้าระหว่างวันที่ 10-12 ก.ย.2558 นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม กล่าวว่า รูปแบบการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ไทย-จีน ได้มีการเสนอรูปแบบร่วมทุน แบบเป็นนิติบุคคลเฉพาะกิจ หรือ SPV โดยจะมี 2ส่วน คือ การเดินรถและการติดตั้งระบบรวมทั้งการจัดหาขบวนรถ ในส่วนการร่างสัญญาการก่อสร้างไทยจะตั้งคณะทำงานขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งยังมีปัญหาติดขัดด้านข้อกฎหมายที่ไม่ตรงกัน กรณีเกิดผิดสัญญาหรือเบี้ยวหนี้จะแก้ไขอย่างไร ซึ่งต้องพิจารณาให้ครอบคลุมทุกประเด็น
นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า กรมได้ขอเงินกองทุนศึกษาความเป็นไปได้การร่วมทุนภาครัฐและเอกชน จากสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เพื่อจ้างเอกชนมาศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนในพื้นที่รถไฟมักกะสัน รวมถึงรูปแบบลงทุน เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า และผลกระทบสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะใช้เวลาแล้ว 4 เดือนจึงแล้วเสร็จ ขณะเดียวกัน กรมธนารักษ์ได้แจ้งกับทาง ร.ฟ.ท.ให้เร่งส่งมอบพื้นที่ให้กับกรมธนารักษ์ไว้ จากเดิมส่วนแรก 140 ไร่ จะโอนได้ภายใน 2 ปี ก็ให้โอนภายใน 1 ปีครึ่ง และส่วนที่สอง 170 ไร่ จากเดิมจะโอนภายใน 5 ปี ก็ให้โอนภายใน 2-3 ปี เพื่อจะได้นำที่มาให้เอกชนเช่าลงทุนได้เร็วขึ้น อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างแก้ไขสัญญาที่เกี่ยวกับการเช่าที่ราชพัสดุ กรณีของภาครัฐเช่ากันเองให้ได้นาน 99 ปี และกรณีรัฐให้เอกชนมาเช่าที่ของรัฐก็จะให้ได้ 50 ปี จากเดิมได้ 30 ปี ซึ่งจะทำให้เอกชนสนใจมาลงทุนในที่มักกะสันมากขึ้น.

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.thaipost.net