ครม.เห็นชอบ “ท่องเที่ยว” คืนเงิน nดึงภาพยนตร์นอกถ่ายทำในไทย พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยในรูปแบบมาตรการคืนเงิน (Cash Rebate) แต่มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาไปหารือกับกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เนื่องจากกระทรวงการท่องเที่ยวเสนอวงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อนำมาจ่ายคืนให้กับกองภาพยนตร์ต่างประเทศที่นำเงินมาใช้จ่ายในไทยภายใต้เงื่อนไขที่ต้องใช้จ่ายเงินในไทยไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท ก็จะคืนเงินสดให้ 15% ในช่วง 3 ปี โดยคาดว่าจะได้ผลตอบแทนคืนกลับมา 3-4 เท่า หรือมีเงินมาลงทุนถ่ายทำภาพยนตร์ในไทย 1,500-2,000 ล้านบาท ซึ่ง ครม.มีการวิเคราะห์ว่าเป็นการลงทุนที่เยอะเกินไปสำหรับผลตอบแทนจำนวนดังกล่าว “มีข้อเสนอจากคลังและสำนักงบประมาณให้ดูมาตรการลดภาษีเพื่อจูงใจ แต่ทั้งนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลายคนก็มองว่ามาตรการคืนเงินสดจะจูงใจมากกว่า เพียงแต่ต้องไปดูเงื่อนไขการคืนเงินที่ชัดเจน รวมทั้งต้องไปดูด้วยว่าวงเงินที่ขอมา 500 ล้านบาทสำหรับใช้ 3 ปีนั้น ควรแยกให้เป็นปีต่อปีได้หรือไม่” ทั้งนี้ นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้เสนอว่าเงินที่จะคืนให้กับกองถ่ายภาพยนตร์ต่างประเทศนั้นจะต้องรวบรวมและนำหลักฐานค่าใช้จ่ายมาเบิกได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าเช่าอุปกรณ์ค่าจ้างแรงงานคนไทย ค่าสถานที่ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายหลังการถ่ายทำและอื่นๆ ซึ่งต้องมีใบเสร็จที่มีใบกำกับภาษีที่ชัดเจน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงวัฒนธรรม สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)ต่างเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยระบุด้วยว่า นอกจากทำให้กองภาพยนตร์ต่างประเทศมาลงทุนถ่ายภาพยนตร์ในไทย 1,500-2,000 ล้านบาทต่อปีแล้ว ยังก่อให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจกว่า 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี โดยเสนอว่าภาพยนตร์ที่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในไทยตั้งแต่ 30 ล้านบาทขึ้นไป จะคืนเงินสดให้ในอัตรา 15% และถ้าเป็นภาพยนตร์ที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมจะคืนเพิ่มอีกไม่เกิน 10% และยิ่งถ้ามีการจ้างงานคนไทยในตำแหน่งสำคัญ เช่น นักแสดงหลักนักแสดงรอง ผู้กำกับ และผู้ช่วยผู้กำกับ จะเพิ่มคืนเงินให้อีกไม่เกิน 5% แต่ทั้งหมดนี้จ่ายคืนไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อเรื่อง นอกจากนี้ เสนอให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแก่นักแสดงต่างชาติเป็นการถาวรด้วยจากที่จะหมดกำหนดสิ้นปี 2558 นี้.

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : ไทยรัฐออนไลน์