สคร.จี้ รสก.สรุปสถานะบริษัทลูก 120 แห่ง ชี้ชะตา "ยุบ-เลิก-อยู่ต่อ" พร้อมชง คนร.ภายในกันยายนนี้ หลังพบกว่า 50% ขาดทุน โชว์ผลงานนำส่งรายได้พุ่งกว่า 1.6 แสนล้านบาท เกิน 100% ของเป้าหมาย อานิสงส์เรียกนำส่งรายได้ระหว่างกาล เงินงอก 4 หมื่นล้านบาท นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ได้เร่งรัดให้รัฐวิสาหกิจ 56 แห่ง เร่งทบทวนสถานะของบริษัทลูกที่รัฐวิสาหกิจนั้นถือหุ้นตั้งแต่ 25% ขึ้นไปที่มีอยู่ 120 แห่ง ว่าควรจะยุบ เลิก หรือจะมีอยู่เท่าไร ตามนโยบายของคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานมอบหมายให้รัฐวิสาหกิจไปสำรวจข้อมูลตั้งแต่การประชุมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 โดยจะพยายามให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งส่งรายงานมาให้ สคร. เพื่อเสนอที่ประชุม คนร.ภายในเดือนกันยายนนี้
"การสำรวจสถานะของบริษัทลูกรัฐวิสาหกิจเนื่องจากพบว่าบริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่กว่า 50% ประสบปัญหาขาดทุน บางบริษัทขาดทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดกิจการ จึงอยากให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งมีการทบทวนบริษัทลูกที่มีอยู่ หากจะให้อยู่ต่อไปต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมต้องอยู่" นายกุลิศกล่าว นายกุลิศกล่าวว่า ปีงบประมาณ 2558 รัฐวิสาหกิจมีเป้าหมายการนำส่งรายได้แผ่นดินจำนวน 1.2 แสนล้านบาท พบว่าการนำรายได้ส่งสะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณถึงเดือนสิงหาคม 2558 (11 เดือนของปีงบประมาณ) รัฐวิสาหกิจนำส่งแล้วจำนวน 119,140 ล้านบาท คิดเป็น 99.28% ของเป้าหมายการนำส่งทั้งปี คาดว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 รัฐวิสาหกิจจะนำส่งรายได้รวมทั้งสิ้น 126,854 ล้านบาท คิดเป็น 105.71% ของเป้าหมายการนำส่งทั้งปี "การนำส่งรายได้ดังกล่าวยังไม่รวมกรณีเรียกให้นำส่งรายได้ระหว่างกาลเพิ่มอีก 4 หมื่นล้านบาท ตามนโยบายของนายสมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยรวมแล้วรายได้ของรัฐวิสาหกิจในปีงบ 2558 จะอยู่ที่ 1.5-1.6 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายประมาณ 30% โดยการเรียกรายได้ระหว่างกาลนี้เป็นกรณีพิเศษ ทำปีงบ 2558 เพียงปีเดียว โดยในปีงบ 2559 ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1.2 แสนล้านบาทใกล้เคียงปีนี้" นายกุลิศกล่าว นายกุลิศกล่าวว่า สำหรับภาพรวมการเบิกจ่ายงบประมาณของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้ง 46 แห่ง ที่ตั้งเป้าเบิกจ่ายงบลงทุนปี 2558 ที่ 3.5 แสนล้านบาท คาดว่าจะอยู่ที่ 60% โดยพบว่ารัฐวิสาหกิจกว่า 11 แห่ง ใช้ระบบบัญชีปีปฏิทิน ล้วนเป็นรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) มีการเบิกจ่ายไปได้กว่า 70% รัฐวิสาหกิจอีก 35 แห่งใช้ระบบบัญชีแบบปีงบประมาณซึ่งเหลืออีก 14 วัน น่าจะเบิกจ่ายได้เพียง 40% โดยพบว่าบางแห่งมีการเบิกจ่ายช้ากว่ากำหนดมาก ดังนั้นจะหารือกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในการวางแนวทางและกำหนดให้รัฐวิสาหกิจตั้งงบลงทุนให้เป็นไปตามข้อเท็จจริง และตามความต้องการในปีนั้น จะได้ไม่ต้องมาขอปรับลดงบอยู่บ่อยๆ หรือเบิกจ่ายได้พาดเป้าหมายขนาดนี้ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชน รูปภาพหน้าปกจาก : thaipublica.org