"อนันตพร"พร้อมปรับราคาเอ็นจีวีสะท้อนต้นทุน ชี้ปตท.ขาดทุนสะสมมานานหลักแสนล. ด้าน"เทวินทร์"รับตำแหน่งวันแรกเสนอแก้ปัญหา2 ทาง ตั้งกองทุนอุ้มกลุ่มรายได้น้อย-ขึ้นราคาพร้อมปล่อยค่าโดยสารขึ้นตาม พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจเยี่ยมบริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ว่า จากการรับฟังภาพรวมการทำงานของปตท.พบว่าปัจจุบันได้ดำเนินการดูแลประชาชนให้ใช้ราคาพลังงานที่เหมาะสม ขณะเดียวกันเนื่องจากอยู่ในตลาดหลักทรัพย์จึงต้องดูแลผู้ถือหุ้นเช่นกัน โดยปัจจุบันราคาน้ำมัน ก๊าซที่จำหน่ายโดยปตท.ก็เป็นไปตามกลไกตลาด ไม่ได้ช้ากว่าผู้ค้าน้ำมันรายอื่น มีเพียงก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์(เอ็นจีวี) ที่ปัจจุบันยังไม่สะท้อนต้นทุนจริง แต่รัฐบาลได้ปรับราคาอยู่ที่ 13.50 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) "ตั้งแต่ปี 2545-2546 ปตท.ได้แบกรับภาระในการอุดหนุนเอ็นจีวีถึงปัจจุบันสะสมกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งส่วนนี้คือกำไรที่จะส่งเข้ารัฐ ดังนั้นควรทำราคาให้เหมาะสม โดยกระทรวงพลังงานจะมีการพิจารณาราคาทุกเดือน เพื่อให้สะท้อนต้นทุนจริง"พล.อ.อนันตพรกล่าว พล.อ.อนันตพรกล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าสัญญาสัมปทานแหล่งบงกช ในอ่าวไทย ที่จะหมดสัญญาช่วงปี2565-2566นั้น ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)กำหนดให้มีข้อสรุปว่าจะต่ออายุหรือให้รายอื่นลงทุนเดือนมิถุนายน2559 โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ(ชพ.) อยู่ระหว่างหาข้อสรุปเรื่องนี้
นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ซึ่งเริ่มทำงานอย่างเป็นทางการวันแรก กล่าวว่า ปตท. มีแนวคิดเสนอแนวทางการดูแลราคาเอ็นจีวีในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ 2 แนวทาง เพื่อรองรับร่างปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้าฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) โดยกำหนดให้รัฐวิสาหกิจที่ทำการค้าเหมือนภาคเอกชนต้องอยู่ภายใต้พ.ร.บ.ดังกล่าวคือ 1.การตั้งกองทุนเพื่อมาอุดหนุนราคาเอ็นจีวี สำหรับรถโดยสารสาธารณะ 2.ให้ปรับขึ้นราคาค่าเอ็นจีวีให้สะท้อนต้นทุนพร้อมกับปรับค่าราคาค่าโดยสารสาธารณะ เพราะหากปตท.ต้องปฏิบัติตามพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าฯแล้ว แต่ยังมีการอุดหนุนราคาก๊าซเอ็นจีวีแบบในปัจจุบัน จะทำให้บริษัทน้ำมันรายอื่นฟ้องร้องปตท.ขายต่ำกว่าทุนได้ “ยังไม่รู้ว่าปตท.จะต้องเข้าพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า ฯ เมื่อไร แต่ถ้าเข้าแล้ว ปตท.จะไม่สามารถอุดหนุนราคาได้แบบในปัจจุบัน เพราะจะเข้าข่ายผิดกฎหมายทันที ตอนนี้ราคาเอ็นจีวีขายต่ำกว่าต้นทุน โดยในส่วนของรถโดยสารสาธารณะ อยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท ส่วนราคาสำหรับรถยนต์ทั่วไปอยู่ที่ 13.50 บาท ขณะที่ราคาต้นทุนแท้จริงกิโลกรัมละ14 - 15 บาท จึงต้องเสนอ 2 แนวทางในการดูแล ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ว่าทางภาครัฐจะเลือกแนวทางไหน ส่วนรูปแบบกองทุนฯจะเป็นอย่างไร ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอแนวทางจากภาครัฐก่อน”นายเทวินทร์กล่าว สำหรับภาวะราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องอยู่ในระดับประมาณ 40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรลทำให้ ปตท. ได้ปรับแผนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าด้วยการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ถือเป็นการเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยแผนการลงทุนระยะยสั้น 1 ปี ปตท.เตรียมปรับลดงบประมาณลงทุนลง มีความยืดหยุ่นตามทิศทางราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้จะทบทวนแผนลงทุน 5 ปีและ20 ปีเช่นกัน ส่วนโครงการก่อสร้างคลังสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) สถานีที่ 2 งบลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2560 ล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษาการก่อสร้างสถานีคลัง แอลเอ็นจี หน่วยที่ 3 เสนอให้กระทรวงพลังงานพิจารณาถึงความเหมาะสมและความจำเป็น ว่าควรจะลงทุนก่อสร้างหรือไม่ในนอนาคต ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชน รูปหน้าปกจาก : siamsport.co.th