"กลุ่มอรรถกระวี" ปักหลัก "สวนเพลิน มาร์เก็ต" มูลค่า 2,000 ล้าน ยึดพระราม 4
“กลุ่มอรรถกระวี” เปิดเกมรุกค้าปลีก พลิกโฉมที่ดินผุด “สวนเพลิน มาร์เก็ต” ยึดทำเลทองย่านพระราม 4 เจาะกลุ่มครอบครัว รับคอนโดมิเนียมเกิดใหม่ บริษัทต่างๆ และพนักงานออฟฟิศนับหมื่น ทุ่มงบกว่า 2,000 ล้าน ชูจุดเด่น “อินดัสเทรียล ลอฟท์” จำลองบรรยากาศสถานีรถไฟสายแรกยุคสมัยรัชกาลที่ 5 เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง คัดสรรกว่า 250 ร้านค้า แม็กเน็ตเพียบ พร้อมลานกิจกรรมขนาดใหญ่ ย้ำแผนหยิบที่ดินสะสมย่านพระราม 4 และพระราม 9 อีกหลายแปลง รุกสมรภูมิต่อเนื่อง เน้นนโยบายพัฒนาอย่างยั่งยืน
ร.อ.อติชาติ อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร บริษัท อรรถเคหพัฒน์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทเล็งเห็นศักยภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องของย่านพระราม 4 อีกทั้งในปัจจุบันขนาดที่พักอาศัยและสถานที่ทำงานต่างๆ มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด จึงตั้งใจพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้เป็นเสมือนบ้านอีกหลัง เป็นที่พักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันได้
ทั้งนี้ กลุ่มเป้าหมายหลักของ “สวนเพลิน มาร์เก็ต” ได้แก่ กลุ่มครอบครัวและชาวต่างชาติที่พักอาศัยย่านสุขุมวิทและพระราม 4 และพนักงานบริษัท เนื่องจากจุดที่ตั้งของโครงการในรัศมี 2-5 กิโลเมตร มีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่จำนวนมาก อาทิ อาคารมาลีนนท์ อาคารสำนักงานใหญ่บริษัทเอสโซ่ จำกัด อาคารสิรินรัตน์ อาคารสำนักงานทีโอที อาคารมโนรม อาคารกรีนทาวเวอร์ มีพนักงานออฟฟิศรวมมากกว่า 10,000 คน
นอกจากนี้ ยังอยู่ท่ามกลางแหล่งที่พักอาศัย โครงการคอนโดมิเนียม ทั้งย่านพระราม 4 ต่อเนื่องถึงย่านสุขุมวิท ทั้งโครงการที่มีอยู่เดิมและโครงการเกิดใหม่ ซึ่งคาดว่าในอนาคตจะมีผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างหนาแน่น
“ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาบริษัทฯได้เริ่มพัฒนาที่ดินหลายแปลง ทั้งโครงการ A Square และ Warehouse 26 บนถนนสุขุมวิท 26 จนมาถึง “สวนเพลิน มาร์เก็ต” พระราม 4 เป็นถนนสายหลักสายหนึ่งของกรุงเทพฯซึ่งมีศักยภาพทางเศรษฐกิจมาก เราจึงไม่อยากให้ที่ดินของครอบครัวที่ถูกปล่อยว่างทิ้งไว้ยาวนานกว่า 80 ปีไม่ถูกใช้ประโยชน์ ทั้งที่มีจุดเด่นในแง่ผู้อยู่อาศัยและผู้สัญจรไปมาหนาแน่น ดูจากตึกรามบ้านช่อง คอนโดมิเนียมจำนวนมากและยังต่อแถวรอขึ้นอีกหลายโครงการ ซึ่งปัจจุบันในย่านพระราม 4 ยังไม่มีโครงการที่สามารถตอบโจทย์ลักษณะนี้รองรับ” ร.อ.อติชาติกล่าว
โครงสร้างและตัวอาคาร“สวนเพลิน มาร์เก็ต” ตกแต่งในสไตล์ อินดัสเทรียล ลอฟท์ จำลองบรรยากาศสถานีรถไฟ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากด้านหลังของโครงการเป็นทางรถไฟสายแรกของประเทศไทย ที่เรียกว่า“สายปากน้ำ” ซึ่งก่อสร้างเมื่อสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การออกแบบจึงใช้อิฐมอญแดงผสมผสานกับเหล็กกล่องสีดำ มีจั่วหลังคาสูงโปร่งเหมือนสถานีรถไฟในอดีต รวมถึงพื้นของโครงการมีลายเส้นคล้ายกับรางรถไฟพาเข้าสู่โซนต่างๆ ชูคอนเซ็ปต์ “เพลินจิต เพลินใจ เพลินช้อป เพลินชิม” เปลี่ยนไลฟ์สไตล์แห่งการช้อปปิ้งให้สะดวกสบาย ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมดเกือบ10,000 ตารางเมตร โดยสร้างลานกิจกรรมขนาดใหญ่ 700 ตร.ม.เพื่อให้ทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกัน เป็นเสมือนห้องนั่งเล่น และบ้านหลังที่ 2 ครบทุกไลฟ์สไตล์ ทุกกิจกรรม เช่น อีเว้นท์ คอนเสิร์ต ฯลฯ
ลักษณะอาคารออกแบบเป็น Closed Mall 2 ชั้น มีร้านค้ากว่า 250 ร้านโดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ เพื่อให้สะดวกในการเลือกใช้บริการ ประกอบด้วยโซน Food & Beverage พบกับศูนย์อาหาร ร้านอาหารและเครื่องดื่มที่คัดสรรร้านชื่อดัง ทั้งในอดีตและปัจจุบัน สามารถนั่งรับประทาน หรือสั่งกลับบ้านได้ (Take home) เช่น ข้าวหมูแดงนายไทร, เตี๋ยวหน้าคลัง, คินนิคุ กิวด้ง เป็นต้น อีกทั้งมีสตาร์บัคส์ ไดร์ฟ ทรู แห่งแรกใจกลางเมือง, นิตยาไก่ย่าง, เซน ร้านอาหารญี่ปุ่น, ซานตาเฟ่ร้านสเต็ก, T24 ร้านอาหารที่เปิดบริการ 24 ชม., ร้านชาบูวัน
โซน Fashion เสื้อผ้าและเครื่องประดับ คัดสรรสินค้าที่มีสไตล์โดดเด่น และมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ในราคาไม่สูงเกินเอื้อม จากแบรนด์ที่โด่งดังในโลกออนไลน์ รวมทั้งแบรนด์ดังที่มีชื่อเสียง ส่วนคนรักต้นไม้ และสัตว์เลี้ยง ต้องไม่พลาดโซน Plant & Pet ที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้ามาในมอลล์ได้ ครบครันทั้งอุปกรณ์สำหรับการดูแลสัตว์เลี้ยงสุดโปรด และคลินิกรักษาสัตว์โดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พรั่งพร้อมด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และสินค้าสำหรับคนรักสวน
ตอบสนองทุกความต้องการสำหรับโซน Health &Beauty ที่จะช่วยดูแลสุขภาพและความงาม ทั้งร้านทำเล็บ คลินิกทันตกรรม โซน Home Décor สำหรับคนรักการแต่งบ้าน โซน Hobby สำหรับผู้ที่ชอบของสะสมและงานอดิเรก และครบเครื่องเรื่องเทคโนโลยีกับโซน IT& Gadgets ที่พร้อมให้บริการสินค้าไอทีทั้ง โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์เสริมต่างๆ
ล่าสุดเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองให้สะดวกสบายขึ้น สวนเพลิน มาร์เก็ต ยังได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ Makro Food Service ที่จะมาเปิดให้บริการเป็นแห่งแรกบนถนนพระราม 4
“จุดเด่นของสวนเพลินมาร์เก็ตนอกจากทำเลที่ตั้งแล้ว ยังมีร้านค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ร้านอาหารเสื้อผ้าแบรนด์ดังไปจนถึงร้านขนาดเล็กจากโลกออนไลน์จับจ่ายใช้สอยได้ง่าย ในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึง พื้นที่จอดรถรองรับถึง 300 คัน สามารถเดินทางมาได้สะดวกจากทุกเส้นทาง ไม่ว่าจะใช้ทางด่วนขั้นที่ 1 ลงท่าเรือ-อาจณรงค์ เข้าถนนพระราม 4 เพียง 15 นาที หรือจากรถไฟฟ้าใต้ดินศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์และ BTS สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์” ร.อ.อติชาติกล่าว
ร.อ.อติชาติกล่าวอีกว่า บริษัทฯ ยังมีที่ดินขนาดใหญ่บริเวณพระราม 4 และพระราม 9 อีกหลายแปลง ที่อยู่ในแผนการลงทุนและพัฒนา โดยแนวทางการพัฒนาที่ดินจะเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยและผู้มาใช้สอยโครงการเพื่อเป็นการสร้างงานและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับสังคม