บมจ.ศุภาลัย ลุยพัฒนาคอนโดฯใหม่ “ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย” บนทำเลรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู (ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี - มีนบุรี) เชื่อมต่อสู่ MRT สายสีม่วง (บางซื่อ – บางใหญ่) โดยมีห้องพักอาศัยขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 32.0 - 68.0 ตร.ม. ราคาเริ่มเพียง 1 ล้านกว่าบาทเท่านั้น

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู (แคราย - มีนบุรี) เป็นระบบคมนาคมที่จะเอื้อประโยชน์ต่อการเดินทางของผู้พักอาศัยย่านแคราย ปากเกร็ด และมีนบุรี สามารถเข้าสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกรวดเร็วมากขึ้นด้วยการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเส้นทางอื่นๆ โดยคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณต้นปี 2563 ทำให้เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูงในอนาคต บริษัทฯ จึงได้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแห่งใหม่ “ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย” มูลค่าโครงการประมาณ 1,100 ล้านบาท เพื่อรองรับความต้องการด้านที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคในทำเลดังกล่าว

“ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย” เป็นคอนโดมิเนียมที่บริษัทฯ พัฒนาโครงการบนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ โดดเด่นด้วยทำเลศักยภาพ ติดถนนติวานนท์ อีกทั้งใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีชมพู (ศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี - มีนบุรี) สถานีแครายเพียง 340 เมตร และสามารถเชื่อมต่อรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนงามวงศ์วาน แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ อาทิ เซ็นทรัลพลาซา รัตนาธิเบศร์ เอสพลานาด เทสโก้ โลตัส และเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เป็นต้น

จุดเด่นของโครงการยังมีการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง (บางซื่อ – บางใหญ่) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งกำลังเริ่มทดลองระบบคมนาคมในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ และเตรียมเปิดให้บริการช่วงเดือนมีนาคม 2559 อีกทั้ง อีกทั้งตัว โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย เป็นโครงการที่ทำห้องออกมาเป็นทรงขนาดใหญ่ทั้งหมดเริ่มต้นที่ 32 ตารางเมตร เป็นต้นไปเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆในย่านแล้วจะเป็นห้องขนาดเล็กเกือบทั้งหมด

ขณะที่การออกแบบตัวอาคารสูง 33 ชั้น (รวมดาดฟ้า) 1 อาคาร ภายใต้แนวคิด Smart Growth คือ การเติบโตอยู่อาศัยอย่างสมบูรณ์ โดยมองว่า จังหวัดนนทบุรี เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรือง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้แหล่งคมนาคม เป็นทางเลือกที่อิสระสำหรับการเดินทาง มีสถานีขนส่งมวลชน มีโครงข่ายถนนที่เชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์ จึงออกแบบอาคารให้มีเอกลักษณ์โดดเด่นทันสมัย มีการจัดผังอาคารเป็นรูปตัวแอล (L) อีกทั้งคำนึงถึงการประหยัดพลังงาน ด้วยการวางผังอาคารตามทิศเหนือ-ใต้ เพื่อหลบทิศทางแดดและเปิดรับลมธรรมชาติ รวมถึงเลือกใช้วัสดุประหยัดพลังงาน อาทิเช่น หลอดไฟ LED ทั้งโครงการ สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ และกระจกเขียวตัดแสง

เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บริเวณรอบโครงการด้วยสวนพักผ่อนทั้งชั้นสระว่ายน้ำและสวนลอยฟ้า (Roof Garden) นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครันภายในโครงการ อาทิ สระว่ายน้ำระบบเกลือแบบ Infinity Edge ห้องออกกำลังกาย ห้องซาวน่า ตลอดจนระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ระบบป้องกันอัคคีภัย Smoke & Heat Detector และ Fire Alarm

บริษัทฯ กำหนดเปิดตัวโครงการศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย ในวันที่ 16 - 18 ตุลาคม 2558 ณ สำนักงานขายโครงการ โดยมีห้องพักอาศัย 422 ยูนิต ร้านค้า 2 ยูนิต สำหรับห้องพักอาศัยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 32.0 – 68.0 ตร.ม. แบบ Studio 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ราคาเริ่มเพียง 1 ล้านกว่าบาท โดยมอบสิทธิพิเศษ ฟรี! เครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย (เฉพาะยูนิตที่บริษัทฯกำหนด) พร้อมพบข้อเสนอสุดพิเศษให้เลือกรับเฟอร์นิเจอร์ครบชุด+ส่วนลดพิเศษ หรือ ส่วนลดพิเศษ 2 เท่า 160,000 – 320,000 บาท

ราคาของ โครงการศุภาลัย ลอฟท์ สถานีแคราย เฉลี่ยราคาอยู่ที่ประมาณ 57,500 ล้านบาทเท่านั้น ส่วนของราคาของแต่ละแบบห้องชุด มีรายละเอียดังนี้

  • Studio 32 - 35 ตารงเมตร ราคา 1.85 - 2.43 ล้านบาท
  • 1 ห้องนอน 46 - 49 ตารางเมตร ราคา 2.61 - 3.39 ล้านบาท
  • 2 ห้องนอน 56.5 - 68 ตารางเมตร ราคา 3.28 - 4.55 ล้านบาท

สำหรับลูกค้าท่านใดที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยที่ถูกใจในราคาที่คุ้มค่า บนทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้าสถานีแคราย ขอเชิญชมห้องตัวอย่างได้ที่สำนักงานขาย พร้อมสอบถามข้อมูลโทร.(02)589-7999 หรือ 1720 กด 79 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.supalai.com

สำหรับผลกการดำเนินในช่วง 9 เดือนแรก มียอด Pre-Sale 15,000 ล้านบาท จากเป็าทั้งปีที่ตั้งไว้ 23,000 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีนี้จะได้ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้อยุ่ที่ 21,000 ล้านบาท สาเหตุที่ต่ำกว่าเป้าเพราะ เป้าที่ประมาณการเป็นเป้าที่วางเมื่อไตรมาส 4 ปีที่แล้วซึ่งช่วงนั้นคิดว่าปี 2558 จะเป็นปีที่ดีกว่าปีก่อนหน้าแต่ในความจริงไม่ได้เป็นไปตามที่คาดไว้ โดยในช่วงไตรมาส 4 นี้ จะมีการเปิดโครงการใหม่แนวราบ 2โครงการ และคอนโด 2 โครงการรวมโครงการใหม่ล่าสุดนี้ด้วย ส่วน Backlog รอโอนมีอยู่ประมาณ 38,000 ล้านบาท ปีนี้การโอนกรรมสิทธิ์ไม่มีปัญหาผ่านไปได้ด้วยดีมีหลุดดาวน์ไปเพียง 1-3% เท่านั้นและห้องเหล่านั้นสามารถ Resale ได้ทั้งหมด