ผักสดราคาพุ่งรับกินเจ พาณิชย์ลงพื้นที่คุมเข้มราคาสินค้า

กรมการค้าภายใน เตรียมเชื่อมโยงผักสดสู่ผู้บริโภคช่วงเทศกาลกินเจ พร้อมจำหน่ายสินค้า อาทิ น้ำมันพืช น้ำตาลทราย ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด 10-20% ตลอดช่วงกินเจ 9 วัน ยอมรับเป็นปกติที่ราคาผัก ผลไม้ที่เกี่ยวข้องจะปรับราคาขึ้นช่วงเทศกาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดผัก ในช่วงเทศกาลกินเจ 2558 เพื่อช่วยดูแลค่าครองชีพประชาชน โดยกิจกรรมเชื่อมโยงผักจากเกษตร/ตลาดกลางสู่ผู้บริโภค จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-21 ต.ค. 2558 ภายใต้ชื่องาน “ผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภค...เทศกาลกินเจ” ซึ่งนอกจากจำหน่ายผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภคแล้ว จะมีการนำสินค้าจำเป็นในช่วงเทศกาลกินเจมาจำหน่ายด้วย เช่น น้ำมันพืช น้ำตาลทราย เป็นต้น โดยจะจำหน่ายในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป 10-20% ซึ่งงานดังกล่าวจะเปิดตัววันแรกในวันที่ 13 ต.ค. 2558 นี้ ส่วนสถานการณ์ราคาขายปลีกผักสดในตลาดทั่วไป ในกรุงเทพฯ ของกรมการค้าภายใน ก่อนถึงเทศกาลกินเจนั้น พบว่า สถานการณ์ผัก ณ วันที่ 8 ต.ค. 2558 ผักใบส่วนใหญ่มีราคาสูงขึ้น เมื่อเทียบราคาคาเฉลี่ยจากเดือนก.ย. 2558 โดย ผักคะน้าคละ ราคาขายปลีกปรับสูงขึ้นจาก กก.ละ 27.20 บาท เป็นเฉลี่ย กก.ละ 35-40 บาท, ผักบุ้งจีนคละ ราคาสูงขึ้นจาก กก.ละ 18.20 บาท เป็นกก.ละ 20-25 บาท,ผักกวางตุ้งคละ ราคาสูงขึ้นจาก กก.ละ 23.93 บาท เป็น กก.ละ 25-30 บาท ส่วน กะหล่ำปลีคละ ราคาขึ้นจากกก.ละ 18.66 บาท เป็น กก.ละ 20-25 บาท และถั่วฝักยาว ราคาสูงขึ้นจาก กก.ละ 29.30 บาท เป็น กก.ละ 45-50 บาท ขณะที่ราคาผักชี ราคาขายปลีกปรับสูงขึ้นจาก ขีดละ 12.45 บาท มาเป็นขีดละ 20-21 บาท เนื่องจาก อากาศแปรปรวนและมีฝนตกชุก ส่งผลให้ผลผลิตมีความเสียหาย ออกสู่ตลาดปริมาณน้อยลงและต้นหอม ราคาล่าสุดอยู่ที่ขีดละ 8-9 บาท สูงขึ้นจากเดือน ก.ย. ที่มีราคาขีดละ 7.50 บาท นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจเป็นปกติที่ราคาผัก ผลไม้ ที่เกี่ยวข้องจะปรับราคาขึ้น เช่น กุยช่าย ผักชี แต่ก็มีผัก ผลไม้บางชนิดที่ปรับราคาลง เช่น มะละกอ ผักกาดหอมแก้วมังกร อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงก็ได้ให้กรมการค้าภายใน ดูแลในเรื่องค่าครองชีพของประชาชนในช่วงเทศกาลกินเจ โดยการเชื่อมโยงผักสดจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง สำหรับกิจกรรม ผักสดจากสวนสู่ผู้บริโภค...เทศกาลกินเจ จะมีขึ้นที่ตลาดสด และตลาดกลางผักและผลไม้ รวม 11 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งในเขตกรุงเทพมหานคร ประชาชนสามารถซื้อสินค้าได้ที่ ตลาดสด 4 แห่งได้แก่ ตลาดศูนย์การค้ามีนบุรี ตลาดอ่อนนุชเฟรชมาร์ท ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดแฮบปี้แลนด์ ส่วนในภูมิภาคจะมีกิจกรรมในตลาดสด 4 แห่ง ได้แก่ ตลาดสดศูนย์การค้ากำแพงเพชร จ.กำแพงเพชร ตลาดบางลำพู จ.ขอนแก่น ตลาดศูนย์การค้ารังสิต จ.ปทุมธานี และตลาดศาลายา จ.นครปฐม อีกทั้งยังมีการจำหน่ายในตลาดกลางผักและผลไม้อีก 3 แห่ง ได้แก่ ตลาดศรีนคร จ.นครสวรรค์ ตลาดไท จ.ปทุมธานี และตลาดย่าโมจ.นครราชสีมา รวมถึงจะมีการจำหน่ายที่เครือข่ายของกรมการค้าภายใน ได้แก่ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ ยังได้กำหนดให้ผู้บริหารกระทรวง ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด รวมถึงได้ส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจสินค้าเป็นประจำ เพื่อติดตามสถานการณ์ ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิด ให้ประชาชนเกิดความมั่นใจดูแลภาวะราคาสินค้าไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แนวหน้า