วี.เอ็ม.พี.ซี ฟันธงอสังหาฯ ศรีราชา โตไม่หยุด
เจาะลึกอสังหาฯ โซนตะวันออก ผ่าน บิ๊กบอส วี.เอ็ม.พี.ซี. "ปริญญา เธียรวร" ฟันธงโตไม่หยุด ระบุทำเล ศรีราชาราคาที่ดินพุ่ง 30 - 40% ชี้เทรนด์จะเกิดคลัสเตอร์การอยู่อาศัยใหม่ขึ้น พร้อมเดินหน้าลงทุนโครงการใหญ่พื้นที่ 12 ไร่ ในทำเลไข่แดงศรีราชา รับดีมานด์คนไทยและต่างชาติที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ยังมีอีกมาก
ตลาดที่อยู่อาศัยในภาคตะวันออกทั้งระยอง-ชลบุรีมีการเติบโตอย่างคึกคัก โดย "ชลบุรี" ถือเป็นจังหวัดที่ถูกจัดว่ามีขนาดของตลาดอสังหาริมทรัพย์ใหญ่รองจากกรุงเทพฯ ที่นอกจากพัทยา บางแสน บริเวณท่าเรือแหลมฉบังแล้ว อีกโซนที่ได้ชื่อว่าเป็นไข่แดงก็คือ "ศรีราชา" มีทั้งดีเวลลอปเปอร์ท้องถิ่นและจากส่วนกลางกรุงเทพฯ ทั้งอยู่นอกและในตลาดหลักทรัพย์ฯ เข้าไปซื้อที่ดินตอกเสาเข็มผุดโครงการรองรับดีมานด์ของตลาดอย่างคึกคัก ส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่กลุ่มลูกค้าคนไทยและญี่ปุ่นเป็นหลัก
โครงการที่อยู่อาศัยที่นี่มีทั้งประเภทแนวสูงคอนโดมิเนียม และแนวราบประเภทบ้านจัดสรร สำหรับเหตุผลที่ทำให้ศรีราชาน่าสนใจเข้าไปลงทุนนั้น นายปริญญา เธียรวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด กล่าวให้ความเห็นว่า ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพด้านการลงทุนและการขนส่ง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึก ประกอบกับรัฐบาลให้การสนับสนุนด้านการส่งออก และการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม อีกทั้งยังได้ทุ่มงบประมาณในการลงทุนด้านระบบสาธารณูปโภคและการขนส่ง เพื่อการเดินทางสู่จุดสำคัญต่างๆ อาทิ การขยายถนนสาย 344 เป็น 10-12 เลน ที่กำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะช่วยอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลมฉบังได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้พื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น มาบตาพุด ก็ได้ขยายพื้นที่อีก 2 - 3 หมื่นไร่ สู่อุตสาหกรรมสีเขียวที่มีมูลค่าสูงขึ้นจากเดิมจะเน้นการลงทุนในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับปิโตรเคมี
“เห็นได้ชัดว่าภาคตะวันออกเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ ผมว่าจะมีงบลงทุนใหม่จากภาครัฐวิ่งไปหามาบตาพุดผลดีที่จะตามมาก็คือ การลงทุนในอุตสาหกรรมจะเติบโตมากเมื่อระบบสาธารณูปโภคมีความพร้อม และทุกอย่างจะวิ่งไปสู่ภาคการผลิต” นายปริญญา กล่าว พร้อมกับระบุว่า การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบใหม่รวมถึงการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษีของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในด้านต่างๆจะช่วยสนับสนุนให้เกิดการลงทุนที่มากขึ้นในโซนตะวันออก “กทม.เป็นเมืองหลวง ...ภาคตะวันออก ก็เป็นเมืองท่า” ภาพนี้จะมีความชัดเจนขึ้น
ราคาที่ดินพุ่ง 30 - 40% / เกิดคลัสเตอร์ที่อยู่อาศัยใหม่ๆด้วยที่ภาคตะวันออกเป็นโซนที่มีโรงงานทั้งที่เป็นของคนไทย และนักลงทุนชาวต่างชาติมากสุดในประเทศ ส่งผลให้เกิดคลัสเตอร์การอยู่อาศัยใหม่ๆ ขึ้น ในโซนศรีราชา ส่วนความเคลื่อนไหวในการซื้อหรือการเปลี่ยนมือที่ดินก็มีค่อนข้างมากทำให้ราคาที่ดินขยับเพิ่มอย่างน้อย 30-40% ซึ่งการบูมของการพัฒนาที่อยู่อาศัยนั้นจะมีทั้งนักพัฒนาท้องถิ่นและนักพัฒนาอสังหาฯ จากส่วนกลาง สะท้อนภาพชัดว่าตลาดมีดีมานด์ แต่ในขณะเดียวกันการแข่งขันก็สูงด้วย โดยเฉพาะทำเลศรีราชาตลาดยังมีดีมานด์ เพราะที่อยู่อาศัยที่สร้างขึ้นรองรับคนทำงานในนิคมอุตสาหกรรม จะต่างจากพัทยา ที่เป็นเมืองท่องเที่ยวแต่ปัจจุบันตลาดค่อนข้างจะชะลอตัว เนื่องจากตลาดใหญ่จะเป็นต่างชาติ
เดินหน้าลงทุนที่ดิน 12 ไร่ ทำเลไข่แดงศรีราชาจากศักยภาพของโซนตะวันออก โดยเฉพาะศรีราชา ในย่านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน นั้นถือว่าเป็นทำเลไข่แดงของศรีราชาที่อยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากที่สุดไม่ว่าจะเป็น โรงเรียน โรงพยาบาล ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า จากความพร้อมของทำเลที่มีต่อการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัทได้ซื้อที่ดิน 12 ไร่ใกล้กับโรบินสัน ศรีราชา และห่างจากโรงพยาบาลพญาไทเพียง 300 เมตรมาเพื่อก่อสร้างอาคารสูง 43 ชั้น ปัจจุบันได้เริ่มลงมือก่อสร้างแล้ว โดยได้รับการสนับสนุนจากทางธนาคารกรุงเทพ, บริษัทไทยบาวเออร์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างงานเข็มฐานรากและ บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จำกัด เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอาคาร กำหนดแล้วเสร็จในอีก 3 ปีข้างหน้า
“โครงการดังกล่าว ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของบริษัทฯ ที่เราได้ให้ความสำคัญทั้งในด้านการออกแบบภายในโดยเน้นการออกแบบตกแต่งที่สวยงาม และสอดคล้องรองรับต่อความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ฟังก์ชั่น ด้วยวัสดุที่ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ ส่วนภายนอกโครงการก็เน้นพื้นที่สีเขียวที่มีมากกว่า 1 ไร่ มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นกลุ่มลูกค้าระดับ B+ ที่ทำงานในนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มคนไทย 30% และอีก 70% จะเป็นลูกค้าชาวต่างชาติ โดยในอนาคตอันใกล้นี้โครงการดังกล่าวจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะสามารถรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโซนภาคตะวันออกซึ่งถือเป็นทำเลแห่งการลงทุน และการจ้างงาน และเป็นทำเลที่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้อย่างมหาศาลต่อไป” ปริญญา กล่าวในตอนท้าย