คาด ต่างชาติเที่ยวไทย ไตรมาส 4 ปี 2558 อาจจะขยายตัวที่ร้อยละ 2.6-6.9 ส่วนทั้งปียังได้เป้า 30.19 ล้านคน
- เดือนแรกของช่วงไฮซีซั่น (ไตรมาส 4) ปี 2558 คือ เดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยผ่าน 5 สนามบินหลัก (คิดเป็นร้อยละ 80 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดในแต่ละเดือน) คาดว่าน่าจะเติบโตที่ร้อยละ 5 ซึ่งชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า ขณะที่ ภาพรวมตลอดช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง ด้วยฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่นักท่องเที่ยวชาวจีนตลาดหลักได้รับแรงกระตุ้นจากมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า แต่ปีนี้ไม่มีมาตรการดังกล่าว และเมื่อประกอบกับในช่วงไฮซีซั่นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงอื่น ทำให้ชาวจีนบางตลาดอาจจะลดลง นอกจากนี้ ความท้าทายในปัจจุบัน คือ การแข่งขันที่หลายประเทศต่างมีมาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวศักยภาพ
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงคาดว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 นี้ จะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ของไทยจำนวนประมาณ 7.68-8.00 ล้านคน เติบโตร้อยละ 2.6-6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 (ที่ขยายตัวร้อยละ 7.3) ส่งผลให้ทั้งปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 30.19 ล้านคนขยายตัวร้อยละ 21.7 จากปีที่แล้ว
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การจัดงานเมกะอีเว้นท์ในช่วงปลายปี เช่น กีฬา เทศกาลประจำปี จะดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริการายใหม่ๆ ให้เข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตลาดยุโรปบางกลุ่มที่อาจจะเพิ่งวางแผนเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะหนุนให้การท่องเที่ยวภูเก็ตในช่วงปลายปีนี้ให้คึกคักยิ่งขึ้น
ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปี การท่องเที่ยวของไทยจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ที่ชาวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางเข้ามาในหลายพื้นที่ของไทย และก่อให้เกิดเม็ดเงินสะพัดภายในประเทศมากกว่าช่วงอื่นของปี โดยแหล่งท่องเที่ยวแต่ละพื้นที่ของไทยในช่วงไฮซีซั่นนั้นมีความคึกคักแตกต่างกัน เช่น แหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ได้รับความนิยมจากตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรป อาทิ เยอรมนี อังกฤษ และฝรั่งเศส ขณะที่ตลาดนักท่องเที่ยวชาวเอเชียก็ยังน่าจะเป็นจีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่โดยมากนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวยังกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ชลบุรี (พัทยา) เป็นต้น
ทั้งนี้ แม้ในช่วงไฮซีซั่นปี 2558 จะมีหลายปัจจัยท้าทายที่ต้องติดตามไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์นักท่องเที่ยวชาวยุโรปที่บางตลาดอาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในปีนี้ (อาทิ รัสเซีย กลุ่มแกนดิเนเวีย เป็นต้น) แต่นักท่องเที่ยวบางตลาดก็ยังคงมีแผนที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย (เช่น เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน เป็นต้น) อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจของตลาดสำคัญอันดับ 1 อย่าง จีน ที่มีแนวโน้มชะลอตัวในปีนี้ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อกำลังซื้อและความเชื่อมั่นของชาวจีนบางกลุ่ม เป็นต้น
ช่วงไฮซีซั่นปี 2558 คาดมีต่างชาติเที่ยวไทยประมาณ 7.68-8.00 ล้านคน “ภาคใต้” ยังเป็นปลายทางยอดนิยมอันดับต้นๆ
สถานการณ์ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2558 นั้น มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยจำนวน 22,135,871 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.8 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงเป็นตลาดหลักอันดับ 1 (มีจำนวน 6,115,705 คน) รองลงมา ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ตามลำดับ
- ตลาดยุโรปใต้หนุนการท่องเที่ยวไทยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2558 นี้ นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปที่เป็นตลาดสำคัญในช่วงไฮซีซั่น ของไทย เนื่องจากมีการใช้จ่ายต่อทริปสูงกว่าตลาดอื่น ด้วยจำนวนวันพำนักกว่า 10 วันต่อทริป (สูงกว่าค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 วันต่อทริป) โดยในช่วง9 เดือนแรกของปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปยังคงติดลบอยู่ที่ระดับร้อยละ 9.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งแรงฉุดมาจากตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียที่หดตัวไปแล้วกว่าร้อยละ 40 อย่างไรก็ดี บางตลาดอย่าง เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และยุโรปใต้ยังคงเติบโตเป็นบวก โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีและสเปนที่ขยายตัวเป็นเลขสองหลัก (ร้อยละ 13.9 และร้อยละ 33.7 ตามลำดับ) นอกจากนี้ ตลาดอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา อิสราเอล และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยังคงเติบโตเป็นเลขสองหลัก
- ในเดือนตุลาคม 2558 ต่างชาติเข้ามาเที่ยวไทยผ่าน 5 สนามบินหลัก เติบโตชะลอลง เมื่อพิจารณาสถิติชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยผ่าน 5 ท่าอากาศยานหลัก (สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่) ซึ่งมีสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมดของไทยในแต่ละเดือน โดยคาดว่าในเดือนตุลาคม 2558 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยผ่าน 5 สนามบินข้างต้น เพิ่มขึ้นที่ร้อยละ 5 ซึ่งชะลอลงจากช่วงก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวมตลอดช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยมีแนวโน้มเติบโตชะลอลง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลของฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยการขยายตัวน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับโมเมนตัมของช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวจะทยอยเข้ามาไทยเพิ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาคมจนถึงสิ้นสุดฤดูกาลท่องเที่ยวในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า
โดยตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เติบโตเฉลี่ยเป็นเท่าตัวในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2558 นั้น ในช่วงไตรมาส 4 ของปีนี้อาจจะเติบโตไม่โดดเด่นเท่ากับช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 ที่ทางการไทยมีมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวชาวจีนทำให้ฐานเปรียบเทียบสูงกว่าปกติ และเมื่อประกอบกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวจีนในช่วงไฮซีซั่นของไทยที่ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องปรับตัวสูงขึ้นกว่าช่วงอื่น (เช่น ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบิน ค่าห้องพัก เป็นต้น) ทำให้บางตลาดอาจจะลดลงด้วยปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายมีผลต่อแผนการเดินทางท่องเที่ยว แต่แน่นอนว่าคงไม่กระทบตลาดชาวจีนระดับบน ขณะที่ ตลาดนักท่องเที่ยวจีนโดยรวมจะกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีหน้า
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า หากสถานการณ์ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยยังคงโมเมนตัมเช่นนี้ต่อเนื่อง ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทยจำนวนประมาณ 7.68-8.00 ล้านคน เติบโตร้อยละ 2.6-6.9 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2557 (ที่ขยายตัวร้อยละ 7.3) ส่งผลให้ทั้งปี 2558 มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมทั้งสิ้น 30.19 ล้านคนขยายตัวร้อยละ 21.7 จากปีที่แล้ว
- “ภาคใต้” ปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติในช่วงไฮซีซั่นปี 2558 นี้
พื้นที่ที่คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจะเลือกเดินทางไปในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ (โดยไม่รวมพื้นที่กรุงเทพฯ ที่เป็นปลายทางทางเที่ยวอันดับต้นๆ ในทุกช่วงของปี) น่าจะยังคงเป็นภาคใต้ โดยมีตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรปเป็นแรงหนุนสำคัญไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี ฝรั่งเศส เป็นต้น อีกทั้ง ตอนนี้ธุรกิจสายการบินจากต่างประเทศได้มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินประจำและเที่ยวบินเช่าเหมาลำมายังหลายพื้นที่ภาคใต้ของไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แล้ว เช่น ภูเก็ต กระบี่ และสุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย) ขณะเดียวกันภาคตะวันออกของไทย อย่าง ชลบุรี (พัทยา) น่าจะได้รับแรงหนุนจากการเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวจีนและน่าจะคึกคักต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งด้วยการเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ของท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภาที่ช่วยอำนวยความสะดวกเรื่องการเดินทางได้มาก นอกจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือของไทย เช่น เชียงใหม่ ก็ยังมีแนวโน้มที่นักท่องเที่ยวจีนจะเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดคาราวานนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน (ตอนใต้) มีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภาคเหนือของไทยเพิ่มขึ้น
- พฤติกรรมนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยช่วงไฮซีซั่นนิยมจับจ่ายซื้อสินค้า/ของฝากของที่ระลึก
ขณะที่ เมื่อพิจารณาในมุมของพฤติกรรมการใช้จ่ายของชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี พบว่า การจับจ่ายเพื่อซื้อสินค้าและของที่ระลึก มีสัดส่วนเป็นอันดับ 2 รองจากค่าใช้จ่ายด้านที่พัก (ซึ่งแตกต่างจากช่วงเวลาอื่นของปีที่ส่วนใหญ่จะใช้จ่ายไปกับค่าอาหารและเครื่องดื่มเป็นอันดับ 2) อาจจะด้วยนักท่องเที่ยวมีการวางแผนหรือชำระเงินสำหรับค่าใช้จ่ายหลักไปแล้ว (ค่าที่พัก) จึงทำให้สามารถใช้จ่ายสำหรับกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวเนื่องได้ ซึ่งน่าจะช่วยส่งสัญญาณให้ผู้ประกอบการธุรกิจค้าปลีกที่เกี่ยวเนื่องหันมาจัดแคมเปญส่งเสริมการขายเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เช่น ตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีกำลังซื้อสูงที่เดินทางมาไทยนิยมซื้อของฝากของที่ระลึก สินค้าแฟชั่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องประดับ เป็นต้น
โค้งสุดท้ายปี' 58 : ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์รับต่างชาติเที่ยวไทยช่วงไฮซีซั่นไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 เป็นช่วงเวลาทองสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยผู้ประกอบการอาจปรับกลยุทธ์รับการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวต่างชาติแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ดังนี้
- ผู้ประกอบการในภูเก็ตเตรียมพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกามีพฤติกรรมการท่องเที่ยวหลายวัน วางแผนล่วงหน้ายาวนาน และไม่เปลี่ยนแผนการท่องเที่ยวหากสถานการณ์ในไทยยังคงสงบเรียบร้อย ซึ่งส่งอานิสงส์ต่อธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในภูเก็ต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริการห้องพัก ซึ่งส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวต่างชาติจองล่วงหน้า โดยภาพรวมของอัตราการเข้าพักในภูเก็ตเดือนกันยายนปี 2558 อยู่ที่ร้อยละ 61.42 เติบโตจากเดือนกันยายนปี 2557 ที่อยู่ที่ร้อยละ 59.00 นับเป็นสัญญาณที่ดีต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตในช่วงปลายปีนี้
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การจัดงานเมกะอีเว้นท์ในช่วงปลายปี เช่น กีฬา เทศกาลประจำปี จะดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริการายใหม่ๆ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวภูเก็ตมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การเติบโตของตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนระดับกลาง ซึ่งมีการใช้จ่ายไม่สูงนักเมื่อเปรียบเทียบกับนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกา ที่เริ่มท่องเที่ยวยังจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น อาจส่งผลให้นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดยุโรปและอเมริกาที่ต้องการท่องเที่ยวแบบสงบและเป็นส่วนตัวที่เพิ่งวางแผนในช่วงปลายปีนี้ เปลี่ยนจุดหมายปลายทางไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น กระบี่ พังงา เป็นต้น แทน
ดังนั้น ความท้าทายของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในภูเก็ต จึงอยู่ที่การรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับบนไว้ ด้วยการคงมาตรฐานการให้บริการต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับบน ทั้งนี้ การที่ภาครัฐผลักดันให้ไทยเป็น Marina Hub น่าจะเอื้อให้ภูเก็ตยังสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวระดับบนไว้ได้ในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กลุ่มนักท่องเที่ยวเรือยอร์ช
- ผู้ประกอบการในเชียงใหม่วางแผนรับมือการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทย นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดเอเชียระยะใกล้ เช่น จีน มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เป็นต้น มีแนวโน้มวางแผนท่องเที่ยวกระชั้นมากขึ้น รวมถึงจองการเดินทางหรือที่พักล่วงหน้าก่อนออกเดินทางไม่นาน ดังนั้น ผู้ให้บริการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอาจจัดแพ็คเกจร่วมกับพันธมิตรมอบโปรโมชั่นส่วนลดกระตุ้นการตัดสินใจใช้บริการในนาทีสุดท้ายจากนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มตลาดเอเชียระยะใกล้ดังกล่าว
โดยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 นักท่องเที่ยวชาวจีน น่าจะท่องเที่ยวเชียงใหม่คึกคัก ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของคนไทยที่นิยมท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ต้องวางแผนรับมือการให้บริการนักท่องเที่ยวทั้งต่างชาติและคนไทยจำนวนมากอีกด้วย
ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนวางแผนท่องเที่ยวกระชั้นมากขึ้น และนิยมเดินทางด้วยตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยวยังจังหวัดเชียงใหม่ผ่านเส้นทาง R3A จากชายเเดนจีน ผ่านลาว เข้าสู่ไทย ดังนั้น การท่องเที่ยวตามรอยการรีวิวผ่านสื่อออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ กระทู้ บล็อก เป็นต้น จึงน่าจะได้รับความนิยม และมีแนวโน้มใช้บริการนำเที่ยวลดลง ภาวะดังกล่าว ผู้ให้บริการนำเที่ยวในเชียงใหม่อาจให้ความสำคัญกับการเจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่นๆ เช่น ผู้เดินทางเพื่อติดต่อธุรกิจ นักท่องเที่ยวกลุ่มองค์กรที่เดินทางเป็นหมู่คณะ เป็นต้น
ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ จาก : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย