เทคโนโลยีเป็นเรื่องที่ไม่เคยหยุดยั้ง ทุกวันจะมีเรื่องราวใหม่ๆ ถูกคิดค้นขึ้นอยู่เสมอ และเป็นเหตุปัจจัยทำให้โลกเปลี่ยนในทุกวัน งาน SCG innovative Exposition 2015 ครั้งนี้ชูแนวคิดหลักคือเป็นงานแสดงนวัตกรรมที่ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวคิด Innovation that cares อันหมายถึงการดูแลใส่ใจในทุกๆ ส่วน เริ่มตั้งแต่ สุขภาพ ที่อยู่อาศัย สังคม สิ่งแวดล้อม ที่จัดขึ้น ณ เอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 -30 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งสามารถลงทะเบียนร่วมงานออนไลน์ที่ innoexpo.scg.co.th ก่อนมาที่งาน เพราะนอกจากจะสะดวกแล้ว ยังมีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลมากมายอีกด้วย เช่น iPad Pro, iPhone6s, Gift Voucher 10,000 บาท โดยภายในงานจะมีไฮไลท์หลักๆ ดังต่อไปนี้

ก้าวแรกที่เดินเข้ามาในงานก็มีจุดต้อนรับด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ เพราะทันทีที่ลงทะเบียนจะได้รับ Inno Wristband ที่ฝังรหัส RFID เก็บข้อมูลของเราไว้ในระบบคอมพิวเตอร์ ตัวช่วยสำคัญในการค้นหาสไตล์ที่เราชอบ พร้อมทั้งเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ตามจุดต่างๆ ซึ่งระบบจะประมวลผลอัตโนมัติในรูปแบบ Interactive หรือใครลงทะเบียนล่วงหน้าไว้แล้ว ก็เดินเข้าไปรับ Inno Wristband ได้ที่จุดลงทะเบียนหลักเลยค่ะ

จุดลงทะเบียนหลักเพื่อรับ Wristband

สแกน Wristband ตอบคำถาม ก็จะทราบสไตล์การแต่งบ้านที่ตรงกับตัวเรา

Living in Trend

เริ่มต้นตื่นตากันก่อนในโซน Architecture of Tomorrow กับ Bloom : The Room for Living สถาปัตยกรรมต้นแบบที่สร้างขึ้นด้วย เทคโนโลยี 3D printing ซึ่งเป็นผลงานการวิจัยร่วมระหว่าง เอสซีจี กับ University of California, Berkeley สหรัฐอเมริกา ตั้งคู่กับผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดคือ Helix : family Cocoon ต้นแบบที่อยู่อาศัยแห่งอนาคตอันได้แรงบันดาลใจมาจากเปลือกหอย fusiform ขึ้นรูปด้วยเทคโนโลยี 3D Extrusion printing ทำจากวัสดุสูตรพิเศษที่สามารถรับแรงอัดได้มากกว่าคอนกรีตทั่วไปถึง 3 เท่า สามารถขึ้นรูปได้หลากหลายตามจินตนาการของเหล่าสถาปนิก และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เพียงเท่านั้นยังมีอีกหนึ่งผลงานจาก 3D printing คือ Corolla : 3D Breathable Façade ที่ได้แรงบันดาลใจมากลีบดอกไม้เป็นนวัตกรรมสำหรับหุ้มอาคารที่ช่วยสร้างการหมุนเวียนอากาศและรับแสงบางส่วนเข้าสู่ภายในอาคาร

Bloom : The Room for Living

Helix : family Cocoon

Corolla : 3D Breathable Façade

จากสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต พาเข้าสู่โหมดเทรนด์ของที่อยู่อาศัยกับ Trend Station ซึ่งแบ่งเป็น 4 สไตล์หลักๆ ด้วยกัน คือ

  • Authentic เรียบเท่
  • BioSMART สะอาดสะอ้าน
  • Ecoficient ใกล้ชิดกับธรรมชาติ
  • Influence หรูหราและโดดเด่น

สามารถเดินออกมาสัมผัสบรรยากาศจำลองการตกแต่งของแต่ละสไตล์ในโซน Unit Living Pods ซึ่งเป็นโซนเอ้าท์ดอร์หนึ่งเดียวของงาน โดยจัดเป็นบ้านโมดูล่าที่ใช้ Light weight precast concrete ผนังสำเร็จรูปน้ำหนักเบาเป็นวัสดุก่อสร้าง ภายในจำลองการตกแต่งตามสไตล์ทั้ง 4 แบบ 4 หลัง เริ่มที่หลังแรก Ecoficient จำลองการตกแต่งห้องครัวพร้อมมุมรับประทานอาหารเพื่อการใช้งานที่คล่องตัว ต่อด้วย Authentic ห้องนอนดีไซน์เท่ๆ ในพื้นที่จำกัดแต่จัดวางได้อย่างลงตัว เข้าสู่อีกหลังจัดเป็นห้องน้ำสีขาวสะอาดตาในสไตล์ BioSMART และปิดท้ายด้วยสไตล์ Influence ห้องรับแขกที่ดูโก้หรูอย่างมีเอกลักษณ์โดดเด่นเกินใคร

ห้องตัวอย่างที่สร้างด้วยLight weight precast concrete ผนังสำเร็จรูปน้ำหนักเบา

ภายในตกแต่งในสไตล์ Ecoficient

บ้านในสไตล์ Authentic ห้องนอนเท่ๆแบบคนรุ่นใหม่

Influence สไตล์ที่โก้หรู เป็นที่น่าสนใจ

รูปทรงอาคารสร้างด้วย Light weight precast concrete ตกแต่งทางเดินด้วยไม้Smart Wood

Future Sustainable Home

กลับเข้าสู่โซนอินดอร์อีกครั้งกับนวัตกรรมบ้านแห่งอนาคตเพื่อความยั่งยืน กับ The Nest บ้านต้นแบบที่ออกแบบโดยใช้ผสานแนวคิด 3 ส่วนคือ

  • Smart การใช้เทคโนโลยีมาควบคุมระบบการใช้งานทั้งระบบน้ำและระบบไฟฟ้า
  • Eco โดยออกแบบให้บ้านมีระบบหมุนเวียนอากาศด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเอสซีจี คือ Energy Plus House ซึ่งจะช่วยให้บ้านเย็นสบายเหมาะแก่การอยู่อาศัย
  • สุดท้ายคือ Care โดยออกแบบให้คำนึงถึงความปลอดภัยเพื่อคนทุกวัย ทั้งผู้สูงอายุและเด็ก ในดีไซน์แบบโมเดิร์นทรอปิคอล
  • แต่แค่หน้าจออธิบายภาพอาจจะทำให้เห็นภาพไม่ชัด ลองมาดูภาพแบบสามมิติที่เครื่อง Oculus เทคโนโลยีสุดล้ำที่จะพาเราหายว๊าบไปอยู่ในบ้าน The Nest ของจริงภายในพริบตา

อุโมงค์ความเสื่อมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับผู้สูงวัย

เครื่องวัดจังหวะการทรงตัวของผู้สูงอายุเพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ

จำลองเสียงที่ผู้สูงอายุได้ยิน

เครื่องวัดความสูงที่เหมาะสำหรับการเลือกสุขภัณฑ์ในบ้าน

Eldercare Solution

เดินมาสักพักอาจจะรู้สึกเหนื่อย คงจะเป็นเพราะอายุเราเพิ่มขึ้น เอ๊ะ!! หรือว่าเราคือผู้สูงวัย แต่อย่าเพิ่งตกใจลองมารู้จักผู้สูงวัยกันก่อนกับ โซน Eldercare Solution ซึ่งโซนนี้จัดเป็นไฮไลท์สำคัญของงาน ด้วยการคำนึงถึงสังคมคนไทยซึ่งจะเป็นสังคมผู้สูงอายุในอีก 20 ปีข้างหน้า ส่วนนี้จึงเป็นการเตรียมตัวเพื่อรับมือกับสังคมใหม่ผ่านการวิจัยของเอสซีจี โดยเรียนรู้ขั้นเริ่มต้นที่อุโมงค์ความเสื่อม ที่จำลองการเห็น การได้ยิน และการสัมผัสของกล้ามเนื้อที่เสื่อมตามกาลเวลา ส่วนนี้มีบริการตรวจวัดจังหวะการเดินของผู้สูงวัย วัดระดับความสูงของโถสุขภัณฑ์ที่พอเหมาะกับร่างกายในแต่ละบุคคล เพื่ออำนวยความสะดวกและเกิดความปลอดภัยในการใช้งานอย่างเหมาะสม โดยแบ่งประเภทผู้สูงอายุเป็น 3 กลุ่ม 3 สี เพื่อการดูแลที่ถูกต้อง ทั้งยังจำลองรูปแบบของห้องน้ำเพื่อผู้สูงวัยทั้ง 3 กลุ่มให้เห็นภาพกันชัดๆ

ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มสีเขียว ใช้สุขภัณฑ์ลบมุมเพื่อความปลอดภัย

มีเก้าอี้สำหรับนั่งอาบน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงอุบัติเหตุเมื่ออาบน้ำ

ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุกลุ่มสีส้ม ที่ดูกว้างขวางเพื่อรองรับวีลแชร์

สีเขียว คือ กลุ่มผู้สูงวัยในระยะเริ่มแรกที่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุในกลุ่มนี้จะเน้นวัสดุสุขภัณฑ์ที่ลบเหลี่ยมมุมและทำจากวัสดุที่ช่วยกันกระแทกอย่างอ่างล้างหน้าเรซิ่น พื้นห้องอยู่ในระนาบเดียวกันในระบบ Stepless Floor และมี handrail (ราวจับ) เพื่อช่วยพยุงตัวขึ้นหลังจากนั่งชักโครก

สีเหลือง คือ กลุ่มที่เริ่มมีความเสื่อมของกล้ามเนื้อ แต่ยังสามารถช่วยเหลือตัวเองได้โดยใช้ไม้เท้าเป็นตัวช่วย ซึ่งภายในห้องน้ำต้องมีตัวช่วยอย่างก๊อกน้ำที่ระบบเปิดปิดแบบปัดหัวก๊อกไม่ต้องออกแรงหมุน ที่กดชักโครกยื่นยาวสามารถใช้ศอกกดได้ ติดราวจับรอบๆ เพื่อช่วยพยุงตัวทั้งส่วนอ่างล้างหน้า โถชักโครก และส่วนอาบน้ำ โดยมีเก้าอี้นั่งสำหรับอาบน้ำเป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นสำคัญ ด้วยว่าขณะอาบน้ำจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนอย่างรวดเร็วทำให้เกิดอาการหน้ามืดและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การนั่งอาบน้ำจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้

สีส้ม คือ กลุ่มผู้สูงวัยที่ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยและเป็นกลุ่มที่นั่งวีลแชร์ ภายในห้องน้ำจึงถูกออกแบบให้มีโทนสีที่สว่างง่ายต่อการมองเห็นและมีขนาดกว้างเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเข็นรถเข้าออก ทั้งขนาดประตูที่กว้าง ระดับอ่างล้างหน้าและการติดตั้งกระจกเงาให้ผู้ที่นั่งวีลแชร์สามารถใช้งานได้ มือจับสามารถพับเก็บตามความสะดวก รวมถึงราวกั้นส่วนอาบน้ำที่มีความแข็งแกร่งสามารถรับแรงกระชากเมื่อเกิดอุบัติเหตุได้ถึง 60 กิโลกรัม

แสงไฟ Auto night light ที่จะช่วยให้ผู้สูงอายุมองเห็นเมื่อลุกจากเตียงนอน

ไม่ใช่แค่ในห้องน้ำเท่านั้น แต่ในส่วนอื่นๆ ในบ้านก็สำคัญไม่ต่างกัน เริ่มที่ห้องนอนสำหรับผู้สูงวัยที่ต้องมีเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกในกลางดึกซึ่งพวกเขาต้องตื่นเพื่อเข้าห้องน้ำเป็นกิจวัตร อย่างระบบไฟ Auto night light ที่จะเปิดอัตโนมัติโดยเซ็นเซอร์ตรวจจับที่เตียงนอน การติดราวจับทำมาจากไม้แท้ดูสวยงามแตกต่างจากสเตนเลสสตีลซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนโรงพยาบาลและไม่น่าใช้ ผนังห้องที่ตกแต่งด้วยแผ่น Healthy wall Covering ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษช่วยดูดซับสารระเหยอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง และใหม่ล่าสุดกับพื้นห้องที่ช่วยลดแรงกระแทก (Shock Absorption Floor) ให้ความรู้สึกสบายเท้าเมื่อสัมผัส ปิดผิวด้วยไวนิลมีลวดลายสวยงามเสมือนไม้จริง

หากใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลผู้สูงวัยในบ้าน โซน Eldercare Solution นี้ก็มีบริการให้คำปรึกษาเพิ่มเติมโดยเจ้าหน้าที่นักวิจัยที่มีความรู้มาให้คำแนะนำกันอีกด้วย

Medical for Life

ตื่นตากับเรื่องราวของผู้สูงวัยกันแล้ว แวะเข้ามาชมนวัตกรรมด้านการแพทย์กันบ้างกับโซน Medical for Life ภายในห้องสีขาวหมดจด มีเพียงเก้าอี้ตั้งเด่นพร้อมเครื่องมือแพทย์หลายชิ้น แต่รอสักพักผนังเปล่าสีขาวก็ฉายภาพ Mapping สุดล้ำให้เห็นถึงนวัตกรรมการวิจัยเพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ที่จัดแสดงโชว์อยู่ในโซนนี้ ไม่ว่าจะเป็น ปูนพลาสเตอร์หล่อแบบฟันป้องกันเชื้อโรค เครื่องมือผ่าตัดพังผืดรัดเส้นประสาทที่ผลิตจากพลาสติกเพิ่มประสิทธิภาพในการผ่าตัดและลดต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆที่ผลิตจากพลาสติกโพลีโพรไพลีน ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำเกลือ เข็มฉีดยา

โซน Medical for Life โชว์นวัตกรรมเครื่องมือแพทย์

โมเดลต้นแบบ เฝือกพอลิเมอร์ (Poly-Cast)

สำหรับใครที่เคยใส่เฝือก มักจะรู้สึกอึดอัด เนื่องจากเฝือกแบบที่ส่วนใหญ่ใช้กันจะมีลักษณะแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่น แต่ในวันนี้ได้มีนวัตกรรมใหม่เกิดขึ้นนั่นคือ เฝือกพอลิเมอร์ (Poly-Cast) ซึ่งด้านในผลิตจากพอลิเมอร์คอมพาวด์ที่มีคุณสมบัติอ่อนตัวเมื่ออยู่ในอุณหภูมิสูง 60 องศาเซลเซียสซึ่งมีระดับความร้อนเท่ากับน้ำอุ่น แพทย์สามารถใช้ เฝือกพอลิเมอร์ปรับรูปทรงได้ตามสรีระของผู้ป่วยได้อย่างคล่องตัว และเมื่ออุณหภูมิเย็นลงวัสดุก็จะแข็งตัวอัตโนมัติ โครงสร้างภายในสามารถระบายอากาศได้อย่างคล่องตัว มีสารป้องกันแบคทีเรียและช่วยลดการเกิดกลิ่นอับอีกด้วย ต่างจากเฝือกปูนพลาสเตอร์แบบเดิมๆ ที่เราคุ้นเคยกันมานมนาน

ในอนาคตอันใกล้เราจะได้เห็นเฝือกพอลิเมอร์ในวงการแพทย์อย่างแน่นอน ซึ่งตอนนี้ผ่านกระบวนการวิจัยด้านการออกแบบจนได้ต้นแบบและอยู่ในระหว่างการพัฒนาโดย หน่วยงาน Design Catalyst เอสซีจีเคมีคอล และสัมผัสตัวต้นแบบได้ที่งานนี้เท่านั้น

Everyday Convenience

หลุดมาอีกโซน เห็นผู้คนมากมายในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต แต่เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ร้านขายของแต่เป็นอีกโซนของงานนี้ในชื่อ Everyday Convenience ซึ่งจำลองรูปแบบร้านสะดวกซื้อมาอวดโฉมผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ ที่จะทำให้การใช้ชีวิตเป็นเรื่องง่าย ไม่ว่าจะเป็น Self-Venting Film Eazy Steam บรรจุภัณฑ์ที่สามารถระบายไอน้ำได้ด้วยเองไม่ต้องเปิดถุงก่อนเข้าไมโครเวฟ หรือจะเป็น Fest กรวยน้ำดื่ม Food Grade ที่ผลิตจากวัสดุปราศจากสารพิษ โลหะหนัก และไม่มีสาระเรืองแสงอันเป็นหนึ่งในสาเหตุก่อโรคมะเร็ง

ตรวจสอบรายละเอียดของสินค้าด้วย RFID

โดยความสนุกของโซนนี้ คือ การเลือกสินค้าที่ติดตั้งรหัส RFID แล้วนำไปสแกนดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าจอแสดงผล ไม่เพียงเท่านั้นยังคิดราคาสินค้าได้แบบอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยิบสินค้าออกจากตะกร้าลดระยะเวลาในการช้อปปิ้งได้มากทีเดียว สิ่งที่แตกต่างของ RFID กับบาร์โค้ด คือ RFID สามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่า ประมวลผลดีกว่า และใช้เก็บข้อมูลได้ในหลากหลายรูปแบบ

Fest กรวยน้ำดื่ม Food Grade ทำมาจากกระดาษที่ปราศจากสารเรืองแสง

ฟิล์มเก็บอาหารที่ยืดอายุของอาหารได้นานขึ้น

Printed RFID Paper Label ที่จะช่วยให้ชำระเงินได้เร็วขึ้น

สนุกกับเรื่องบ้าน กับSCG Experience

เข้าสู่โซนสุดท้ายของชั้นหนึ่งกับมุมให้คำปรึกษาจาก SCG Experience เข้าสู่มุม Home knowledge & Idea ส่วนนี้รีบคว้า wristband ที่ได้เมื่อครั้งลงทะเบียนในจุดแรกขึ้นมาสแกนเพื่อค้นหาสิ่งที่ควรทราบล่วงหน้า ก่อนจะสร้างบ้านตามสไตล์และความต้องการของเรา โดยจะมีหน้าจอแสดงผลเป็นกราฟิกอนิเมชั่น เข้าใจง่าย ซึ่ง Home knowledge & Idea จะทำให้เราเข้าใจเรื่องการสร้างบ้านใหม่ การต่อเติมและการปรับปรุงบ้าน ได้ง่ายขึ้น

สำหรับใครที่วางแผนจะสร้างบ้านจริงๆ ไม่ใช่แค่คิดไว้ในจินตนาการต้องมาที่มุม Innovation Consult อีกหนึ่งมุมดีๆ สำหรับคนที่มีข้อข้องใจและเจอปัญหาเรื่องบ้าน โดยเหล่าสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญของ SCG Experience จะมาให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิดและบริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้มาเปิดประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบใหม่ในรูปแบบออนไลน์บนเว็บไซต์ที่เปิดตัวงานนี้เป็นที่แรก ในชื่อ www.scgshoppingexperience.com เพียงเลือกรูปแบบวัสดุและบอกขนาดพื้นที่เท่านั้น ระบบจะคำนวณจำนวนสินค้าพร้อมส่งสินค้าถึงบ้าน ช่วยให้การสร้างบ้านสักหลังเป็นเรื่องง่ายเพียงแค่คลิกนิ้ว

มุมสนุกกับเรื่องบ้าน กับSCG Experience โดยมีสถาปนิกผู้เชี่ยวชาญมาให้คำปรึกษาฟรี

แค่เพียงบางส่วนของงาน SCG Innovative Exposition 2015 ยังน่าสนใจขนาดนี้ ไม่อยากจะนึกเลยว่าภายในงานที่จัดเต็มทั้ง 3 ชั้นของอาคารเอสซีจี เอ็กซพีเรียนซ์ เลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา จะมีอะไรให้เราตื่นตาตื่นใจอีกสักเท่าไร และบอกตรงนี้เลยว่าหากใครพลาดชมงานแสดงนวัตกรรมเพื่ออนาคตที่ครบรอบด้านอย่างนี้ไป คงน่าเสียดายแย่เลยทีเดียว

ขอบคุณข้อมูล และรูปภาพ จาก : innoexpo.scg.co.th