นายกรัฐมนตรี เร่งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ชูไทยเป็นฮับอาเซียน การค้า-การลงทุน ยกระดับประเทศพ้นรายได้ปานกลาง ชี้ ท่องเที่ยวปี 58 ขยายตัว 30% พยุงเศรษกิจโตได้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า ในเรื่องของการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศเราจำเป็นต้องดำเนินการควบคู่กันไป ต้องขับเคลื่อนการเจริญเติบโตภายในชุมชนให้มากขึ้น เพื่อให้เกิดการพัฒนา โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร จำเป็นต้องร่วมมือกันในลักษณะ “ประชารัฐ” ให้ได้โดยเร็ว ทั้งนี้ การปฏิรูปเศรษฐกิจต้องดำเนินการในหลาย ๆ ต้องมีการลงทุนเพิ่ม และต้องโปร่งใส ที่สำคัญต้องสอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ด้วยซึ่งคาดหวังว่า 5 ปีแรกน่าจะทำให้เข้มแข็งขึ้นได้ ในระดับที่น่าพอใจ จากนั้นก็จะเดินหน้าไปได้เรื่อย ๆ เนื่องจากแนวโน้มการปรับเปลี่ยน “ภูมิทัศน์เศรษฐกิจ” ของโลกนั้น มีการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 การเจริญเติบโตได้ย้ายมา สู่เอเซียนในขณะที่ประเทศไทยมีที่ตั้ง ที่เรียกว่า “ภูมิรัฐศาสตร์” ที่เป็นศูนย์กลาง หรือ HUB ได้ เพราะเราอยู่ในใจกลางของประเทศอาเซียน ดังนั้น หากสามารถกำหนดทิศทาง ยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศที่จะให้เป็นศูนย์กลาง การค้า-การลงทุน การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของเทคโนโลยีสมัยใหม่ การสร้างสรรค์ นวัตกรรม และใช้เทคโนโลยีการสื่อสารและสารสนเทศ ICT ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล ได้ถูกต้องก็จะสามารถรองรับการเจริญเติบโตของโลก ซึ่งจะเป็นการยกระดับเศรษฐกิจประเทศให้เข้มแข็งพ้นจากประเทศทีมีระดับรายได้ปานกลาง โดยหน่วยงานทุกภาคส่วนจะต้องบริหารจัดการ และการบูรณาการร่วมกันเพื่อให้เกิดความสำเร็จ
นายกฯชี้ท่องเที่ยว58โต30%พยุงเศรษฐกิจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการคืนความสุขให้คนในชาติ ว่า ในด้านการท่องเที่ยวนั้น วันนี้นับเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยพยุงเศรษฐกิจของอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวในปีนี้นั้นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวประเทศไทย เกือบ 30 ล้านคน ขยายตัวเกือบ 30% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท หรือขยายตัวกว่า 30% จากปีที่ผ่านมา โดยช่วงนี้เป็นช่วงเข้าสู่ High Season ที่จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงได้สั่งการให้ทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการในการกวดขันการรักษาความปลอดภัยสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งชุมชนสำคัญต่าง ๆ ที่มีความเสี่ยง ระบบขนส่งมวลชน สนามบิน - ท่ารถ - ท่าเรือ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และขณะเดียวกันก็ต้องดูแลความสะอาดสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ที่จะมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวด้วย สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ นั้น ต้องมีการกำหนดมาตรการ มีการควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยวให้เหมาะสมดูแลสิ่งแวดล้อม ขยะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติต่าง ๆ ต้องไม่ให้มีการทำลายธรรมชาติเกิดขึ้นสิ่งสำคัญ ทำอย่างไรให้เกิดความประทับใจดึงดูดให้กลับมาอีก นอกจากนี้ ได้ให้กระทรวงท่องเที่ยวเข้าไปดูแล ในพื้นที่ต่าง ๆ ในการอำนวยความสะดวกทุกด้าน ซึ่งขอฝากการทรวงการท่องเที่ยว ฝากท้องถิ่น ฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดร่วมมือกันในการเป็น “เจ้าบ้านที่ดี” มีรอยยิ้ม มีการแสดงน้ำใจ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : INNNEWS