RK Property เจ้าถิ่นโครงการแนวราบ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก กว่า 60 ปี เผยราคาที่ดินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% และไตรมาส 4 ปีนี้ยอดขายดีที่สุด
RK Property เจ้าถิ่นโครงการแนวราบ กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก กว่า 60 ปี เผยราคาที่ดินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% และไตรมาส 4 ปีนี้ยอดขายดีที่สุด
"บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด" หรือ "RK Property" เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวราบท้องถิ่น โซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่ยืนหยัดอยู่ในวงการมาเป็นเวลากว่า 60 ปี ปัจจุบันบริหารงานโดย "นายวรยุทธ กิตติอุดม" ทายาทรุ่นที่ 3 เข้ารับช่วงต่อในปี 2545 พัฒนาโครงการมาแล้วกว่า 20 โครงการ
ปักหลักพัฒนาที่อยู่อาศัยทำเลนี้เป็นหลัก "เพราะกำลังซื้อเติบโตต่อเนื่อง จากที่ย่านนี้เป็นแหล่งงาน แหล่งอุตสาหกรรม จึงมีผู้คนเข้ามาทำงานในพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี เมื่อการงานมั่นคงก็เริ่มซื้อบ้านเป็นของตนเอง พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรองรับไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้าห้างสรรพสินค้า และในอนาคตทำเลนี้จะยิ่งดีมากขึ้นไปอีก จากการเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าของภาครัฐ จากใจกลางเมืองมาสู่กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ส่งผลโดยตรงในการดึงดูดผู้คนให้ขยายตัวออกมายังพื้นที่รอบนอกมากขึ้น รวมทั้งกฎหมายผังเมืองยังได้วางให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยไม่สามารถสร้างโรงงานอุตสาหกรรมได้ จึงเหมาะสมที่จะเป็นที่อยู่อาศัยมากที่สุด" นายวรยุทธ กล่าว
คุณวรยุทธ กิตติอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด
"ในส่วนของราคาที่ดินเฉลี่ยในย่านกรุงเทพฯฝั่งตะวันออกในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ดินบางแปลงปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 50% และในอนาคตมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นไปอีก ปัจจุบันราคาเฉลี่ยสำหรับแปลงใหญ่อยู่ประมาณ 30,000 บาทต่อตารางวา สำหรับแปลงเล็กราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40,000 – 50,000 บาทต่อตางรางวา (ติดถนนใหญ่) ทั้งนี้ราคาต้องขึ้นอยู่กับว่าศักยภาพที่ดินผืนนั้นสามารถก่อสร้างอะไรได้บ้าง
ความสำเร็จที่มีมาจนถึงปัจจุบันนี้เกิดจาก "การมีพันธมิตรที่ดี" ทั้งในส่วนผู้รับเหมา และซัพพลายเออร์ ที่คอยป้อนวัสดุก่อสร้างให้แก่บริษัท ทำให้ได้วัสดุก่อสร้างในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดและ Credit Term ที่ค่อนข้างยาวนาน จากความไว้ใจในตัวบริษัทส่งผลให้บริษัทใช้กระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจค่อนข้างน้อย จากต้นทุนที่ค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่งทำให้บริษัทฯ สามารถตั้งราคาที่อยู่อาศัยได้ต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่นๆ แต่สามารถออกแบบบ้านให้มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ และ "การไม่ทอดทิ้งลูกค้า" ด้วยลักษณะโครงการของทางบริษัทที่มุ่งเน้นพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านกรุงเทพฯ ตะวันออกเป็นหลัก มีหลายโครงการพัฒนาต่อเนื่องเสมอมา จึงเป็นการสร้างการจดจำตราสินค้าของบริษัทแบบธรรมชาติและต่อเนื่อง ลูกค้ามั่นใจได้ว่าลูกค้าจะไม่ถูกทอดทิ้งถ้าหากเกิดปัญหาหรือมีเรื่องอะไรเกี่ยวกับโครงการลูกบ้านจะได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที
โครงการของ RK Property ครอบคลุมโซนกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก
"การเปลี่ยนทำเลก็เหมือนกับเป็นการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจากประสบการการทำงานที่สะสมมาอย่างยาวนานทำให้เราเรียนรู้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของลูกค้าในย่านนี้ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าจะสถานที่พักผ่อน แหล่งของกิน โรงพยาบาล ทำเลไหนสะดวก ลูกค้าชอบอะไรบ้าง ลูกค้าต้องการอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความได้เปรียบ ถ้าเราเปลี่ยนไปทำย่านอื่น เราก็ต้องไปเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ทั้งหมด ดังนั้นทางบริษัทฯ จึงมุ่งที่จะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ไปอีกซักระยะหนึ่ง ปัจจุบันยังมีที่ดินในมืออีกประมาณ 200 ไร่ ไว้สำหรับพัฒนาโครงการในอนาคต" นายวรยุทธ กล่าว
มองการเข้ามาของรายใหญ่ว่าเป็น "โอกาส" มากกว่า "วิกฤติ" เพราะเป็นเครื่องสะท้อนว่า "ทำเลนี้เป็นทำเลที่ดี" แต่สิ่งที่เตรียมตัวรับมือ คือ ต้องพัฒนาทั้งในเรื่องของคุณภาพและบริการหลังการขายให้เทียบเท่ากับบริษัทพัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ที่กำลังรุกเข้ามาทำโครงการในพื้นที่แห่งนี้ และในอนาคตวางแผนที่จะผลักดันบริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัดเข้าตลาดหลักทรัพย์ MAI เช่นกันเพราะคาดหวังให้ธุรกิจยั่งยืนไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน และการเข้าตลาดฯ ก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตัวบริษัทและลูกค้าที่ซื้อบ้านเกิดความมั่นใจเรื่องการพัฒนาอย่างต่อเนื่องได้เป็นอย่างดี
สำหรับในช่วงที่ผ่านมาทางบริษัทแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จะมีก็เพียงลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อจากเดิมที่เข้าเยี่ยมชมบ้านตัวอย่าง 3-5 ครั้งก็สามารถตัดสินใจซื้อแล้วแต่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 7-8 ครั้งถึงจะตัดสินใจ แต่ส่วนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือผลกระทบจากการที่ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้น้อยลงมีมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นในการคัดกรองผู้กู้ทำให้ลูกค้าที่สนใจซื้อบ้านผ่านเกณฑ์การกู้ซื้อบ้านได้น้อยลง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่เข้ามา เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีมากขึ้น ธนาคารปล่อยกู้ดีขึ้น และลูกค้าเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้น เพราะไตรมาสนี้ทางบริษัทฯ มียอดขายดีที่สุด
บริษัท รุ่งกิจ เรียลเอสเตท จำกัด พัฒนาโครงการราคาเริ่มต้น 2.1 ล้านบาทเป็นต้นไป โดยแบ่งประเภท ดังนี้- RK Park ทาวน์โฮม ระดับราคา 2.5 – 3 ล้านบาท กลุ่มลูกค้ารายได้ประมาณ 30,000 บาทต่อเดือน
- RK Home Park บ้านเดี่ยว ระดับราคา 3.8 – 5.5 ล้านบาทกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ 40,000-50,000 บาทต่อเดือน
- โครงการ RK Home Park 2 ถนนคู่ขนานมอร์เตอร์เวย์ลาดกระบัง
- โครงการ RK Park รามอินทรา – ซาฟารี
- โครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
ภาพโครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
ภาพการตกแต่งภายใน ชั้น 1 โครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
ภาพการตกแต่งภายใน Master Bedroom โครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
ภาพการตกแต่งภายใน ห้องนอน 2 - ห้องนอน 3 โครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
แผนที่โครงการ RK Park วัชรพล-สายไหม
และในปีหน้ามีแผนจะเปิดโครงการใหม่ที่เป็น Home office ซอยมิสทีนในชื่อ โครงการ ดิไอเฟิล สำหรับ SMEs ที่ต้องการขยายธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559
ขอบคุณข้อมูล จาก : RK Property