กลุ่มซีคอนโฮม ทุ่มงบกว่า 20 ล้าน พัฒนาระบบการสร้าง บ้านสำเร็จรูปทั้งหลัง ได้เป็นรายแรกของวงการรับสร้างบ้านเมืองไทย หวังแก้ปัญหาแรงงานระยะยาว
พื่อฉลองการดำเนินธุรกิจครบ 53 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุด กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ผู้บุกเบิกธุรกิจรับสร้างบ้าน ในไทย ได้สร้างทอล์คครั้งใหญ่อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมระบบการสร้าง “บ้านสำเร็จรูปทั้งหลัง” สู่มือผู้บริโภคเป็นรายแรกของวงการรับสร้างบ้านเมืองไทย ด้วยการพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) ทำให้สามารถสร้างได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน ลดปัญหาแรงงานฝีมือ เพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้า โดยเริ่มให้บริการแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1.5 ล้านบาท
นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม เปิดเผยถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า การพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) ถือเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของธุรกิจรับสร้างบ้านเมืองไทย ปัจจุบันคงทราบกันดีถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจ รับสร้างบ้าน ทั้งปัญหาการขาดแคลนแรงงานฝีมือและปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้าง ทำให้ผู้ที่ต้องการ สร้างบ้านเกิดประสบการณ์ด้านลบ ซึ่งกลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวอย่างมาก จึงได้ต่อยอดการพัฒนาระบบผนังสำเร็จรูปซีคอนและนำกลับขึ้นมาใช้อีกครั้ง จากเดิมที่ใช้เพียงแค่เสาและคาน แต่ ณ ปัจจุบัน สามารถพัฒนาวัสดุในส่วนหลักเพื่อสร้างบ้านสำเร็จรูปทั้งหลังได้อย่างรวดเร็ว ภายใต้มาตรฐาน เดียวกัน โดยในช่วงเริ่มต้นนั้น กลุ่มบริษัทซีคอนโฮมสามารถรองรับปริมาณการก่อสร้างได้ที่ 50 หลังต่อปี มีแบบบ้านที่รองรับระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอนให้เลือกทั้งสิ้น 5 แบบ ภายใต้ชื่อ HAPPY BUDGET
ทั้งนี้ โครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) ถือเป็นนวัตกรรมล่าสุดของธุรกิจรับสร้างบ้าน ที่ช่วยให้การสร้างบ้านเสร็จเร็วยิ่งขึ้นเพราะช่วยลดขั้นตอนการก่ออิฐ ฉาบปูน ทั้งยังได้คุณภาพงานภายใต้มาตรฐานเดียวกัน จากเดิมที่ต้องพึ่งแรงงานฝีมือด้านการก่อฉาบ กลุ่มบริษัทซีคอนโฮม ทุ่มงบกว่า 20 ล้านบาท โดยอาศัยเวลาการพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) กว่า 7 เดือน เพื่อพร้อมนำเสนอนวัตกรรมล่าสุดสู่มือผู้บริโภค “การพัฒนาระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอนในครั้งนี้ เราใช้เวลาในการพัฒนารวม 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนการออกแบบระบบ โดยทีมวิศวกรผู้มากประสบการณ์ และเชี่ยวชาญเฉพาะทางของซีคอนโฮม ซึ่งใช้เวลาประมาณ 4 เดือน ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 2 การขยายพื้นที่ โรงงานพร้อมเตรียมแม่แบบ และสายการผลิต ตลอดจนระบบติดตั้งและขนย้าย โดยทุกส่วนได้ถูกออกแบบให้ สามารถรองรับกับการผลิตโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอนที่เหมาะกับบ้านรุ่น HAPPY BUDGET ทั้ง 5 แบบ ได้อย่างลงตัว ซึ่งในส่วนนี้ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน” นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัท ซีคอนโฮม กล่าว
“กลุ่มบริษัทซีคอนโฮมมั่นใจว่า ระบบโครงสร้างผนังสำเร็จรูปซีคอน (Seacon Bearing Wall) เพื่อสร้างบ้าน สำเร็จรูปทั้งหลังนั้น จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้เตรียมแผน ในการขยายการผลิตไว้ แล้วเพื่อเติมเต็มความต้องการของตลาด โดยเฉพาะกลุ่มตลาดที่มีงบประมาณจำกัด และกลุ่มที่ต้องการสร้างบ้าน ในระยะเวลาที่รวดเร็ว” นางสาวศุภิชชา ชัยพิพฒน์ กล่าวสรุป
โดยแบบบ้านนำร่องทั้ง 5 แบบ ภายใต้ชื่อ HAPPY BUDGET นั้น เป็นแบบบ้านสไตล์ MODERN CONTEMPORARY ประกอบด้วย แบบบ้าน HAPPY BUDGET 1-5 ซึ่งแต่ละแบบบ้านสามารถสร้างได้ในพื้นที่ตั้งแต่ 33 ตารางวาขึ้นไป จนถึง 50 ตารางวา โดยมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 120 ตรม. จนถึง 194 ตรม. ซึ่งพื้นที่ใช้สอยจะขึ้นอยู่กับแบบบ้านแต่ละแบบ ตลอดจนขนาดที่ดิน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 1.5 – 2.3 ล้านบาท
“ในปีที่ผ่านมากลุ่มบริษัทซีคอนโฮมสามารถสร้างยอดขายรวมได้ที่ 280 หลัง คิดเป็นมูลค่า 1,238 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 91 หลัง 749 ล้านบาท คอมแพค โฮม 174 หลัง 464 ล้านบาท และบัดเจท โฮม 15 หลัง 25 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับเป้าที่ประมาณการไว้ หากวิเคราะห์เชิงลึกเราค่อนข้างพอใจ เพราะเราเองน่าจะมี อัตราเติบโตที่สูงกว่าตลาดรวมอยู่พอสมควรหรือประมาณ 5% ในส่วนครึ่งปีแรก 2557 นี้เราสามารถสร้าง ยอดขายได้รวม 149 หลัง หรือคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 650 ล้านบาท แบ่งเป็น ซีคอน โฮม 30 หลัง 320 ล้านบาท คอมแพค โฮม 85 หลัง 270 ล้านบาท และบัดเจท โฮม 34 หลัง 60 ล้านบาท ซึ่งปีนี้ เราตั้งเป้า ไว้ที่ 1,400 ล้านบาทหรือเติบโตประมาณ 13% จากปี 2556 เพราะดูจากสถานการณ์โดยรวมที่ดีขึ้น มั่นใจว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า เพราะในครึ่งปีหลังเราเตรียมกลยุทธ์อัดยอดขายไว้อย่างต่อเนื่อง” นางสาวศุภิชชา ชัยพิพัฒน์ กล่าวสรุป
ขอบคุณข่าวจาก :: www.newswit.com วันที่ 2 กรกฎาคม 2557
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.