4 สุนัขฮีโร่ที่ช่วยเจ้าของไว้
ทุกวันนี้มีผลวิจัยมากมายที่แสดงให้เห็นว่าสัตว์จำนวนมากมีความสามารที่จะรับรู้ความรู้สึกต่างๆ ทั้งยังมีนักวิจัยอีกจำนวนมากที่เชื่อว่าสัตว์นั้นมีเหตุผลและความคิดของตัวเอง เราอาจจะไม่มีวันรู้ว่า ทำไมสุนัขจึงปฏิบัติตัวอย่างที่มันทำตอนที่มันช่วยเหลือคนตามที่เราได้ยินมา และวันนี้เราจะยกตัวอย่าง สุนัขฮีโร่ ที่ช่วยเจ้านายของมันในสถานการณ์ต่างๆ มาให้คุณดู
เช้าของวันที่ 11 กันยายน 2011 ผู้จัดการฝ่ายขายคอมพิวเตอร์ Michael Hingson ซึ่งเป็นคนตาบอด ได้เดินทางเข้าไปทำงานตอนเข้าที่ชั้น 78 ตึกเหนือของอาคารเวิร์ดเทรดเซ็นเตอร์ เพื่อเตรียมตัวสำหรับนัดประชุม ในขณะที่ Michael ทำงานนั้น Roselle สุนัขนำทาง ของเขาก็นอนหมอบอยู่ข้างๆ
เวลา 8:46 AM เกิดเสียงระเบิดขึ้นที่ตึก เสียงกรีดร้องดังลั่นไปทั่ว Michael ดึงสายจูงของ Roselle โดยเชื่อมั่นว่า Roselle จะต้องพาเขาไปในที่ที่ปลอดภัย Roselle นำทางเขาไปที่บันได
“เดินหน้า” Michalle สั่ง และพวกเขาก็เริ่มเดินก้าวแรกของบันได 1,463 ชั้นเพื่อไปที่ล็อบบี้ หลังจากผ่านมา 10 ชั้นบันไดเริ่มเต็มไปด้วยผู้คนและอากาศเริ่มร้อนและอ้าว ควันอากาศจากเครื่องบินที่พุ่งชนก่อนหน้านี้ทำให้เริ่มยากที่จะหายใจ
เมื่อผู้หญิงคนหนึ่งเกิดสติหลุดและเริ่มตะโกนว่า เราจะไม่รอดไปจากนี่ Roselle เดินเข้าไปเพื่อปลอบเธอ จนเธอเริ่มที่จะลูบหัวมันและใจเย็นลง และเริ่มเดินลงต่อไป
เมื่อถึงชั้น 30 นักดับเพลิงเริ่มเดินผ่าน Michael เพื่อขึ้นไปชั้นบน แต่ละคนหยุดเพื่อเสนอความช่วยเหลือให้ Michael เขาปฏิเสธแต่ขอให้ทุกคนลูบหัวเจ้า Roselle เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความรักที่ไม่มีข้อจำกัดก่อนเดินทางขึ้นไป
หลังจากนั้นประมาณ 45 นาที Micahle และ Roselle เดินทางมาถึงล็อปปี้ และอีก 15 นาทีต่อมาด้านนอกก็กลายสภาพเป็นสถานที่สุดโกลาหล เมื่อตำรวจประกาศให้ทุกคนวิ่งหนีเพราะอาคารใต้เริ่มถล่มลงมา
Michalle ยังคงยึดสายจูงแน่น ใช้เสียงและภาษามือสั่ง พวกเขาวิ่งข้ามถนนไปยังด้านตรงข้ามของอาคารที่ถล่มลงมา ถนนสั่นไหวรุนแรง ท้องฟ้ามืดหม่น และเสียงหวีดร้องดังก้องไปทั่ว ในที่สุด Michalle และ Roselle ก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
หลายเดือนต่อมา Michalle ได้เป็นตัวแทนของสมาคมสุนัขนำทาง สมาคมที่เป็นผุ้ฝึก Roselle เพื่อส่งสารกล่าวถึงความเชื่อใจและทีมเวิร์คของคนตาบอดและสุนัขนำทาง
ในปี 2004 Roselle เริ่มป่วยและต้องเกษียณตัวเองจากการเป็นสุนัขนำทาง และเกษียณจากการเดินสายโชว์ตัว 3 ปีต่อมา ก่อนที่จะเสียชีวิตลงในปี 2011
“ผมอาจจะมีสุนัขนำทางอีกหลายตัว” Michale กล่าว “แต่จะมี Roselle เพียวตัวเดียวเท่านั้น”
Joe ตัวน้อยกับหมีดำ
พันธุ์ : ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย
สถานที่ : Ring Wood, New Jersey
ยอร์คเชียร์ของ Deborah Epstein ที่ชื่อ Joe นั้นได้แสดงให้เห็นว่า สุนัขบอดีการ์ดนั้นสามารถมาได้ในทุกขนาด ในเดินกรกฎาคม 2013 นั้น Joe และ Deborah กำลังนั่งเล่นอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น เธอเดินเข้าไปในบ้านเพื่อรับโทรศัพท์โดยเปิดประตูทิ้งไว้ เพียงไม่กี่วินาทีต่อมาJoe เริ่มเห่า ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับสุนัขพันธุ์ยอร์คเชียร์ โดยเฉพาะสำหรับเจ้าหมาน้อยตัวนี้ แต่ “เสียงเห่าของมันฟังดูโมโหและโกรธมากกว่าปกติ” Deborah กล่าว เมื่อเธอหันกลับมาสิ่งที่เธอเห็นคือ หมีดำขนาด 100 ปอนด์ กำลังเดินเข้ามาที่ชามอาหารของ Joe ในห้องนั่งเล่น พลาดแล้ว “คุณไม่ควรจะยุ่ง (กับอาหารของ Joe)” Deborah กล่าว เธอมองอย่างตื่นเต้นขณะที่ สุนัขตัวน้อยหนัก 6 ปอนด์ของเธอกำลังขู่ คำราม เห่า และกัดเจ้าหมี จนกระทั่งเจ้าหมีเดินหนีไป “Joe ไล่มันออกไปทางประตูหลัง” Deborah กล่าว จากนั้นเจ้าหมีก็หนีกลับเข้าป่าที่ด้านหลังบ้านของ Deborah ความเสี่ยงที่จะเสียอาหารอาจจะเป็นต้นเหตุให้ Joe สู้สุดใจ แต่ขณะเดียวกันJoe ก็สำเร็จในการปกป้องอาณาเขตของตนเองและปกป้องเจ้าของของมันด้วย “ชั้นช่วยมันจากการตกน้ำในบ่อ และมันก็ช่วยชั้นจากหมี” Deborah กล่าว “ทีนี้เราก้หายกันแล้ว” ในปี 1999 Eve และ Norma Fertig, ผุ้ก่อตั้ง Enchanted Forest Wildlife Sanctuary ได้ช่วยชีวิตของลูกสุนัขอายุ 2 อาทิตย์ ครึ่งสุนัขป่า ครึ่งเยอรมันเชฟฟาร์ค เอาไว้ สุนัขตัวนี้ถูกตั้งชื่อว่า Shanna และโตมาเป็นสุนัขขนาดมหึมาหนัก 160 ปอนด์ แต่ Eve กล่าวว่า Shanna นั้นทำตัวน่ารักเหมือนลูกแกะตัวน้อย ในเดือนตุลาคมหลายปีก่อน ตอนที่ Fertig ทั้งคู่อายุประมาณ 81 ปี กำลังให้อาหารสัตว์ที่ช่วยมาในบ้านพักอาศัยหลังหนึ่งในพื้นที่ของตัวเอง จู่ๆอากาศก็เกิดแปรปรวน และพายุหิมะก็เริ่มตกลงมา เมื่อทั้งคู่ออกไปดูสภาพการณ์ภายนอก ต้นไม้ล้มบังทางเดิน Eve และ Norman ที่ไม่ได้สวมโค้ทหรือถุงมือใดๆ ไม่สามารถที่จะปีนหรือขุดหลุมข้ามไปได้ ในช่วงเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นทั้งคู่ทำได้เพียงอยู่ใกล้กันเพื่อรักษาความอบอุ่นขณะที่หิมะด้านนอกเริ่มก่อตัวหนาขึ้น “พวกเรามีปัญหาใหญ่” Eve กล่าว “ชั้นบอก Norman ‘เราอยู่ที่นี่ไม่ได้ เราจะตายแน่ๆ’” ประมาณ 21:30 น. Shanna ที่อยู่ด้านนอก เริ่มที่จะขุดหิมะเข้ามาหา Eve และ Norman เจ้าสุนัขใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง เพื่อที่จะขุดและในที่สุดมันก็สร้างอุโมงค์แคบๆยาวกว่า 20 ฟุตจากบ้านของ Fertin ไปจนถึงบ้านพักพิงที่ Eve และ Norman ติดอยู่ได้ เมื่อ Shanna ขุดอุโมงค์จนทะลุ และพบกับทั้งคู่กอดกันกลมเพราะความหนาว มันเห่าครั้งหนึ่ง อย่างชัดเจนเหมือนมันบอกให้ทั้งคู่ตามมันมา Norman หันไปมองที่อุโมงค์ ซึ่งสูงประมาร 1 ฟุตและปฏิเสธที่จะมุดไปเนื่องจากเขาใช้เวลาไปในอุโมงค์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ Eve ตอบกลับอย่างจริงจังที่สุดว่า “Norman หากคุณไม่ตามมา เราต้องหย่ากันซะ” Shana งับเข้าที่เสื้อของ Eve และลากหญิงหนัก 86 ปอนด์ลอดอุโมงค์ออกมา ในขณะที่ Norman จับที่ข้อเท้าของ Eve หลังจากการลากอยู่ 2 ชั่วโมง ในที่สุดทั้งคู่ก็ลอดผ่านอุโมงค์ออกมา ในที่สุด Shanna ก็กลับมาถึงบ้านในตอนตี 2 ทั้งคู่สลบเหมือดในทันที พายุหิมะทำให้ไฟทั้งบ้านดับ ไม่มีทั้งไฟฟ้าและเครื่องทำความร้อน แต่ Shanna อยู่ข้างพวกเข้าตลอดเวลาเพื่อให้ความอบอุ่น “เธอช่วยชีวิตของเราไว้” Eve กล่าว นักดับเพลิงมาถึงในเช้าวันนั้น และแปลกใจเป้นอย่างมากกับสิ่งที่พวกเขาเห็น Eve ว่า “พวกเขาเอาแต่มองที่อุโมงค์ที่ Shanna ขุดและพูดว่าไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน” หลังจากเหตุการณ์ทั้งหมด Shana ใช้เวลากว่า 5 เดือนในดารรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการขุดอุโมงค์ กลางดึกคืนหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ 2014 Jack Farell อายุ 80 โทรหา 911 เพื่อแจ้งเรื่องสุนัขทำร้าย เขาตื่นขึ้นมาเลือดท่วมในห้องครัว แขนซ้ายถูกกัดโดยสุนัขพันธ์เยอรมันเชฟฟาร์ดที่เขารับมาเลี้ยง Max “ผมนึกว่ามันหันมาเล่นงานผม” Jack ซึ่งเป็นอดีตนักดับเพลิงกล่าว แต่เมื่อหน่วยฉุกเฉินเดินทางมาถึง กลับกลายเป็นว่าที่จริงแล้ว Max นั้นช่วย Jack จากอาการ คาร์บอนมอนออกไซด์เป็นพิษ เมื่อ Jack ลุกขึ้นมาจากเตียงกลางดึก เขาเกิดหน้ามืดเพราะการสูดคาร์บอนไดออกไซด์เข้าปอดมากเกินไปและล้มลงบนพื้น s
เมื่อ Jack ได้รู้ความจริง เขานั้นเต็มไปด้วยความซาบซึ้งและกล่าวว่า “มันได้ช่วยชีวิตของผมเอาไว้”
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.rd.com
