นิสัยการออมเงิน ของคนญี่ปุ่นและเยอรมัน
เรื่องการออมเงินนั้นเราต้องยอมรับความจริงเลย ว่าประเทศเรายังขาดการให้ความรู้และส่งเสริมแบบต่อเนื่องให้กับเด็กๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าจะกลายเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตของบ้านเรา และด้วยการเลี้ยงดูของหลายบ้านที่พ่อแม่ยังให้ค่าขนมลูกๆ จนกว่าพวกเขาเข้าสู่วัยทำงาน ทำให้เด็กๆ เราขาดความกระตือรือร้นในการหารายได้และขาดความรู้เรื่องการเก็บออม เราอยากเล่าเรื่องนิสัยการใช้เงินและการเก็บออมที่น่าสนใจให้ฟัง น่าจะทำให้เราได้คิดมากขึ้นและสอนลูกหลานเราได้เช่นกัน
การออมเงินของชาวญี่ปุ่น
อีกหนึ่งประเทศที่เรามองว่าน่าสนใจเช่นกันคือ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก็เป็นประเทศผู้แพ้สงครามโลกครั้งที่สองเช่นกัน ประเทศนี้มีความน่าสนใจทั้งเรื่องของแนวคิดในการทำงาน การวางแผนระยะยาว และการออมเงินไว้ใช้ในยามเกษียณเช่นกัน ด้วยความที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ต้องเจอกับภัยธรรมชาติรุนแรงหลายครั้ง ทำให้พวกเขาชินกับความไม่ประมาทและการเตรียมพร้อมสำหรับการใช้จ่ายยามฉุกเฉินตลอดเวลาทำให้คนญี่ปุ่นในวัยทำงานชินกับการทำงานหนักและเน้นการประหยัดอดออมมาก ญี่ปุ่นเองมีโครงสร้างสังคมที่มีผู้สูงอายุจำนวนมากที่สุดในโลกการวางแผนเรื่องของเงินบำนาญและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่างๆ จึงทำได้ค่อนข้างดี บางครั้งเราจึงสังเกตได้ว่าปัจจุบันหลายธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นได้ปรับกลยุทธ์เพื่อต้อนรับลูกค้าวัยสูงอายุกันเยอะมากขึ้นซึ่งก็เป็นกลุ่มที่พร้อมจะจ่ายค่าบริการที่แพงขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ได้รับการบริการที่เหมาะกับตัวเองด้วยเช่นกัน
การออมเงินของชาวเยอรมัน
ทำไมถึงอยากจะเล่าถึงนิสัยการออมเงินของชนชาตินี้ก็เพราะว่า พวกเขาเป็นประเทศผู้แพ้สงครามในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่สามารถพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งจนกลายเป็นประเทศมหาอำนาจทั้งในด้านของอุตสาหกรรมและในด้านการศึกษาอย่างที่เราเห็นว่าเป็นประเทศผู้นำในกลุ่ม EU อยู่ในขณะนี้ การออมเงินของชนชาตินี้น่าสนใจมาก เริ่มตั้งแต่การทำประกันชีวิตและสุขภาพกันตั้งแต่ยังอายุน้อยๆ เพื่อให้เกิดวินัยในการออมเงินแบบบังคับตัวเองให้ได้ ส่วนการใช้จ่ายของพวกเขาก็จะเลือกเก็บเป็นเงินออมมากถึง 70% ของรายได้เลย คุณอ่านไม่ผิด 70% เพราะพวกเขาจะเลือกใช้จ่ายอย่างรู้คุณค่าแล้วมันจะพอใช้เหรอกับอีก 30% ที่ว่าน่ะ เท่าที่ผมเห็นนะเกือบทุกคนจะหารายได้เสริมเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตแทนเพราะมองว่าการออมเงินสำหรับการใช้จ่ายแบบฉุกเฉินนั้นสำคัญกว่า หรือการเก็บออมและการลงทุนเพื่อใช้จ่ายยามเกษียณนั้นสำคัญกว่านั่นเอง
จากที่เรายกตัวอย่างมานั้น อยากให้เรามองย้อนดูนิสัยการออมเงินของเราเองเมื่อเทียบกับประทศอื่นๆ และอย่าลืมว่ามีอายุการทำงานเหลืออีกกี่ปี ตอนนี้เรามีเงินออมไว้สำหรับการดูแลสุขภาพตัวเองมากน้อยแค่ไหน และตอนนี้เราพร้อมไหมถ้าต้องออกจากการทำงานประจำ และ เราเองก็เชื่อมั่นว่า เราเริ่มต้นได้เสมอนะ สู้ยอมลำบากในวันนี้ เพื่อความสบายใจในอนาคตกันเถอะ
ขอบคุณข้อมูล จาก :frank.co.th ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่จริงใจที่สุดในโลก
บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก
Discussion
Follow breaking news Investment property articles on Facebook, click here.