บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สำหรับคนเมือง ที่มุ่งสร้างความต่างด้วยการสร้างสรรค์นวัตกรรมดีไซน์เพื่อพื้นที่ใช้สอยที่ไม่จำกัด โดย คุณภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม เปิดเผยแผนธุรกิจในการพัฒนาสินค้าแนวราบปี 2560 ภายใต้วิสัยทัศน์ใหญ่ที่มุ่งเดินเกมด้วยกลยุทธ์ "เอพีคิดและสร้างความแตกต่าง" (AP THINK DIFFERENT) พร้อมเดินหน้าเปิดตัวบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมใหม่ 15 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท ตั้งเป้าให้บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพีต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOICE FOR URBAN LIVING) ด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ: การเป็นหนึ่งเดียวเรื่องทำเลที่ตั้ง – แตกต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่มภายใต้มาตรฐานคุณภาพ – เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่แบรนด์ "บ้านกลางเมือง" ผู้นำด้าน Hi-End Urban Living ทาวน์โฮม – สร้างความเติบโตให้กับ PREMIUM AFFORDABLE ทาวน์โฮม – ขยายตลาดบ้านเดี่ยวสำหรับกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่

นายภมร ประเสริฐสรรค์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาธุรกิจกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ว่า “พื้นฐานการแข่งขันในวันนี้เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหญ่ ยอดขายที่เกิดขึ้นกว่า 75% ล้วนเป็นยอดขายที่เกิดขึ้นจากผู้ประกอบการรายใหญ่ทั้งสิ้น ในส่วนผลการดำเนินงานของเอพีในปีที่ผ่านมา กลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมสามารถสร้างยอดขายได้มากถึง 12,331 ล้านบาท จากยอดขายรวมของเอพีปี 2559 ที่ 22,364 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้รวมในปี 2559 เท่ากับ 20,253 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากกลุ่มสินค้าบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม มูลค่า 12,947 ล้านบาท”

สำหรับแผนธุรกิจในการพัฒนาสินค้าแนวราบปี 2560 นั้น บริษัทฯ เตรียมเปิด 15 โครงการ ด้วยแบบบ้านดีไซน์ใหม่ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 8,000 ล้านบาท และสินค้ากลุ่มทาวน์โฮม 7 โครงการ มูลค่า 7,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในส่วนโครงการแนวราบไว้ที่ 13,600 ล้านบาท โดยแนวทางการพัฒนาสินค้าแนวราบในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายให้บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพี ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง (THE ULTIMATE CHOICE FOR URBAN FAMILY) ผ่าน 5 กลยุทธ์สำคัญดังกล่าวที่จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมของเอพีประสบความสำเร็จ

5 กลยุทธ์เสริมสร้างการเติบโตสำคัญ (5 KEY DRIVES) ในการนำบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพีสู่การเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวคนเมือง มีดังนี้

1. STRATEGIC LOCATION – เน้นย้ำจุดแข็งในการเป็นหนึ่งเดียวเรื่องทำเลที่ตั้ง : ในทุกๆ ปีเราจะกระจายการพัฒนาโครงการแนวราบให้ครอบคลุมทุกพื้นที่มากขึ้น ภายใต้วิธีคิดในการเลือกสรรที่ดิน Location in Location ซึ่งหมายถึงนอกจากทำเลที่เอพีเลือกพัฒนาจะอยู่ในย่านที่ดีของกรุงเทพมหานครแล้ว ที่ตั้งของที่ดินผืนนั้นๆ ยังต้องอยู่ในจุดที่ดีที่สุดของทำเลนั้นด้วย ต้องสามารถเชื่อมต่อการเดินทางที่หลากหลายรูปแบบ (Multiple Connection) ไม่ใช่เพียงแต่ติดถนนใหญ่ แต่ต้องเชื่อมต่อทางลัด ทางด่วน หรือระบบขนส่งขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว โครงการเอพีเราให้สิ่งที่ใครก็ให้ไม่ได้นั่นคือเรื่องของเวลา

ปัจจุบัน เอพีมีโครงการแนวราบพร้อมขาย ราคาตั้งแต่ 2 ล้านจนถึง 50 ล้านบาท ครอบคลุม ทั่วกรุงเทพมหานคร ทั้งพื้นที่ชั้นใน และรอบนอก รวมกันมากถึง 56 โครงการ และในปีนี้ เอพีพร้อมเปิดตัวบ้านเดี่ยวใหม่อีก 8 โครงการ และทาวน์โฮม 7 โครงการ

2. MASS CUSTOMIZED DESIGN – การรุกสร้างความต่างด้วยการออกแบบสินค้าที่ตอบความต้องการลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ภายใต้มาตรฐานคุณภาพ : ดีมานด์ของลูกค้าในวันนี้แบ่งแยกเป็น กลุ่มย่อยที่ซับซ้อน ก่อนเปิดโครงการทุกครั้งสิ่งที่เราทำเป็นอย่างแรกคือ การลงพื้นที่ทำ research อย่างเข้มข้นเพื่อศึกษาถึงความต้องการแฝง และหนึ่งในกระบวนการคือ การเปิดให้ลูกค้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบ ภายใต้ทางเลือกที่เรากำหนดขึ้น ลูกค้าสามารถปรับเปลี่ยน ขยาย ลดพื้นที่การใช้งานใน แต่ละส่วนได้ตามต้องการ จากนั้นดีไซเนอร์จะนำความต้องการที่ได้มาพัฒนาต่อจนออกมาเป็นโปรดักส์ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่รับกับความต้องการที่แตกต่างกันของลูกค้าในแต่ละพื้นที่

จากการทำงานภายใต้แนวคิด MASS CUSTOMIZED DESIGN ส่งผลให้ปัจจุบันโครงการแนวราบของเอพีมีแบบบ้านที่สอดรับกับความต้องการที่ต่างกันของลูกค้ามากกว่า 70 ดีไซน์ โดยจะกระจายอยู่ใน 56 โครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมทั่วกรุงเทพ ในปี 2560 นี้เอพีก็ไม่หยุดนิ่งที่จะสร้างความแตกต่างด้านดีไซน์ ทั้งในเรื่องของการดีไซน์สเปซภายใน พื้นที่ภายนอก ตลอดจนงานสถาปัตยกรรมของตัวอาคาร ผ่าน 8 แบรนด์บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมเครือเอพี

3. STRENGTHEN NO.1 HI-END TOWNHOME – เสริมสร้างความแข็งแกร่งแก่แบรนด์ "บ้านกลางเมือง" ในการเป็นผู้นำตลาดทาวน์โฮมไฮเอนด์ 3 ชั้นในเมือง : บ้านกลางเมืองของเอพีถือครองสัดส่วนผู้นำตลาดทาวน์โฮมเป็นอันดับ 1 คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 40% ของตลาดทาวน์โฮม 3 ชั้นในเมือง โดยปีนี้เอพีมุ่งสานต่อเป้าหมายในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดอย่างต่อเนื่อง ด้วยการพัฒนานวัตกรรมดีไซน์ใหม่ๆ

สำหรับบ้านกลางเมือง 3 โครงการใหม่ที่พร้อมจะเปิดตัวในปีนี้ ได้แก่ (1) บ้านกลางเมือง ปิ่นเกล้า-จรัญ (2) บ้านกลางเมือง บางนา กม. 7 และ (3) บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว – เสรีไทย มูลค่า 3,250 ล้านบาท ซึ่งบ้านกลางเมืองทั้ง 3 โครงการจะเป็นบ้านดีไซน์ใหม่ทั้งหมด โดย พร้อมเปิดตัวรอบพิเศษที่งาน ‘บ้านกลางเมือง Living Specialist’ วันที่ 2-8 มีนาคมนี้ ณ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว

4. GROW PREMIUM AFFORDABLE TOWNHOME SEGMENT – สร้างความเติบโตให้กับ PREMIUM AFFORDABLE ทาวน์โฮมราคา 2-4 ล้านบาท : อีกหนึ่งไฮไลต์ของแผนธุรกิจแนวราบใน ปีนี้คือ การรุกตลาด Premium Affordable Townhome หรือ พรีเมียม ทาวน์โฮมพร้อมอยู่ ระดับราคา 2-4 ล้านบาท ด้วยแบรนด์ "PLENO" (พลีโน่) พรีเมียม ทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่ได้นำความชำนาญในการพัฒนาสินค้า แบรนด์บ้านกลางเมืองมาต่อยอดในการออกแบบเป็นตัวบุกตลาด

ในปี 2560 นี้ เอพีมีแผนเปิดตัวแบบบ้านใหม่สำหรับแบรนด์ "ลีโน่" จำนวน 3 โมเดล ได้แก่ (1) แบบบ้านขนาด 16 วา พื้นที่ใช้สอย 94 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.00 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ (2) แบบบ้านขนาด 18 วา พื้นที่ใช้สอย 100 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.50 เมตร 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ และ (3) แบบบ้านขนาด 20 วา พื้นที่ใช้สอย 130 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.50 เมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ

โดยในปี 2560 นี้มีแผนเปิดตัวพลีโน่ใหม่ จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 3,750 ล้านบาท โดยในเดือนมีนาคมนี้พร้อมเปิดพลีโน่ใน 2 ทำเล ได้แก่ (1) พลีโน่ บางใหญ่ ทาวน์โฮม 2 ชั้น แบบบ้านขนาด 18 วา และ 20 วา จำนวน 350 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 980 ล้านบาท หน้ากว้าง 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอยขนาด 100-130 ตารางเมตร ราคาเริ่ม 2 ล้านต้นๆ และ (2) พลีโน่ สุขสวัสดิ์ จำนวน 497 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,460 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการประกอบด้วยทาวน์โฮม 2 ชั้นฟังก์ชั่นใหม่ แบบบ้าน 16 และ 18 วา ราคาเริ่มต้น 2 ล้านต้นๆ

5. FOCUS ON MODERN SINGLE HOUSE FOR URBAN FAMILY SEGMENT – เอพีจะโฟกัสการพัฒนาบ้านเดี่ยว สำหรับกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่มากขึ้น : โดยจะมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวสำหรับลูกค้ากลุ่มครอบครัวรุ่นใหม่ ที่นิยมบ้านในรูปแบบโมเดิร์น ภายใต้การออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในที่เน้นการใช้งานจริงมากกว่าแค่เรื่องของความโอ่อ่าความหรูหราเพียงอย่างเดียว โดยมี Fighting Brand อย่าง “THE CITY” บ้านเดี่ยวสำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ ขนาด 50-154 วา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 170-340 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท และ “CENTRO” บ้านเดี่ยวสำหรับครอบครัวใหม่ ขนาด 35-80 วาขึ้นไป พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 153-225 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 3.99 ล้านบาท โดยในปีที่ผ่านมาทั้งแบรนด์ THE CITY และ CENTRO ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งบ้านเดี่ยวที่เอพีเตรียมเปิดตัวในปีนี้จะเป็นบ้านดีไซน์ใหม่ เพื่อตอบรับกับความต้องการของครอบครัวรุ่นใหม่

ดีไซน์ใหม่ของ THE CITY ประจำปีนี้ พร้อมเปิดตัวเป็นที่แรกในโครงการ THE CITY พัฒนาการ โดยจะเป็นบ้านหน้ากว้างแวดล้อมด้วยสวนโดยรอบ ขนาดพื้นที่ 55-92 วา พื้นที่ใช้สอย 190-335 ตารางเมตร 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ และ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ มีแบบบ้านให้เลือกมากถึง 6 ดีไซน์ จำนวน 136 ยูนิต มูลค่า 950 ล้านบาท ราคาขายเริ่มต้น 7.99 ล้านบาท เปิดขายประมาณเดือนมิถุนายนนี้

ณ ปัจจุบันเอพีมีโครงการแนวราบพร้อมขาย (existing projects) รวมทั้งสิ้น 56 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 23,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับแผนธุรกิจการพัฒนาสินค้าแนวราบปี 2560 (สินค้าใหม่ บ้านเดี่ยว จำนวน 8 โครงการ ทาวน์โฮม 7 โครงการ มูลค่ารวม 15,000 ล้านบาท) คาดว่า เอพีจะมีโครงการในมือพร้อมขายอย่างต่อเนื่องมากกว่า 70 ทำเล มูลค่ารวมประมาณ 38,000 ล้านบาท โดยปี 2560 ตั้งเป้ายอดขายในส่วนโครงการแนวราบไว้ที่ 13,600 ล้านบาท

พิเศษสุด ในวันพฤหัสบดีที่ 2 – วันพุธที่ 8 มีนาคมนี้ เอพีเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่ครั้งเดียวในรอบปี กับงาน "บ้านกลางเมือง Living Specialist" ณ ชั้น 1 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว พบบ้านกลางเมืองพร้อมอยู่กว่า 22 ทำเล ราคา 3.99–8.99 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ (1) บ้านกลางเมือง ปิ่นเกล้า-จรัญ ราคาเริ่มต้น 3.79 ล้านบาท (2) บ้านกลางเมือง บางนา กม. 7 และ (3) บ้านกลางเมือง ลาดพร้าว-เสรีไทย เมื่อจองและทำสัญญาในงานรับข้อเสนอที่ดีที่สุดแห่งปี ผ่อนเพียง 9,999 บาท นาน 3 ปี สำหรับบ้านเดี่ยวพร้อมอยู่กว่า 23 โครงการ เอพีได้จัดแคมเปญพร้อมข้อเสนอที่ดีที่สุด ณ สำนักงานขายเอพีทุกแห่ง ภายใต้ชื่อ “SAVE MORE - ชีวิตที่คุณเลือกได้ อิสระทางการเงินที่คุณเลือกเอง” ได้ ผ่อน 0% นาน 1 ปี หรือ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ 3.33% นาน 3 ปี

ขอบคุณข้อมูลจาก : ap thai