ธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ ให้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรเดบิตใหม่ได้ด้วยตัวเองบนแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS ง่าย สะดวก รอรับบัตรที่บ้านได้เลย โดยไม่ต้องไปที่สาขา ยกระดับบริการบัตรเดบิตทั้งความสะดวกและสิทธิประโยชน์ ตั้งเป้าหมายปีนี้ ออกบัตรเดบิตใหม่ได้ 1 ล้านบัตร มีฐานบัตรเดบิตเป็น 12 ล้านบัตร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมมูลค่า 71,000 ล้านบาท เติบโต 33% ครองอันดับ 1 ด้านยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตต่อเนื่อง

นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า กลยุทธ์ธุรกิจบัตรเดบิตในปีนี้ ยังคงแนวคิดการเป็น “ไลฟ์สไตล์ เดบิต การ์ด” (Lifestyle Debit Card) ใช้บัตรเดบิตเพียงบัตรเดียวได้ในทุกที่และทุกเรื่อง ทั้งธุรกรรมการเงิน การใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มอบสิทธิประโยชน์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายในแต่ละไลฟ์สไตล์ พร้อมพัฒนาบริการให้ลูกค้าใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย ได้เพิ่มความสะดวกสบายในการออกบัตรเดบิตกสิกรไทย ตอบรับดิจิทัล ไลฟ์สไตล์ ให้ลูกค้าสามารถสมัครบัตรเดบิตกสิกรไทยผ่านแอพพิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS โดยไม่ต้องไปสมัครที่สาขา ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า ที่ประสงค์จะสมัครบัตรใหม่ ต่ออายุบัตร หรือบัตรสูญหาย สามารถทำได้ทันที

ขั้นตอนการสมัครง่ายเพียงเข้า แอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS เลือกเมนูบริการอื่น ๆ เลือกเมนูสมัครบัตรเดบิต จากนั้นเลือกประเภทบัตรเดบิตที่ต้องการ ซึ่งมีให้เลือก 3 ประเภท คือ บัตรเดบิตธรรมดา บัตรเดบิตพร้อมประกันอุบัติเหตุ และบัตรลายพิเศษ ซึ่งจะเป็นบัตรเดบิตชิปการ์ดทั้งหมด และกดตามขั้นตอนจนจบ ธนาคารจะจัดส่งบัตรเดบิตทางไปรษณีย์ถึงลูกค้าภายใน 7 วันทำการ โดยค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตทุกประเภทมีอัตราเท่ากับการออกบัตรที่สาขา มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในส่วนการจัดส่งไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) 37 บาท ซึ่งเป็นราคาตามจริงที่ไปรษณีย์ไทยเรียกเก็บตามน้ำหนัก และมีความปลอดภัยสูง โดยเมื่อได้รับบัตรแล้วลูกค้าจะต้องทำการเปิดใช้งานบัตรเดบิตด้วยตนเองด้วยการยืนยันตัวตนบน K-Mobile Banking Plus เท่านั้น ลูกค้าสามารถใช้บริการสมัครบัตรเดบิตกสิกรไทยผ่านแอพพิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ศึกษาวิธีการสมัครบัตรได้ที่ https://www.kasikornbank.com/promotion/issue-debitcard-via-KMB หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ K-Contact Center 02-8888888

นางนพวรรณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารกสิกรไทยผลักดันบริการบัตรเดบิตอย่างต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมการใช้งานบัตร ซึ่งสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และตอบรับแนวนโยบายของภาครัฐ ภายใต้โครงการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) โดยการยกระดับบริการบัตรเดบิตด้วย 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) เพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าผ่านแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS เช่น ฟีเจอร์ปรับวงเงินถอน รูด หรืออายัดบัตรเดบิตได้ด้วยตนเอง และล่าสุดคือ ฟีเจอร์สมัครบัตรเดบิตบนแอพพลิเคชั่น K-Mobile Banking PLUS 2) ออกผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้าแต่ละกลุ่ม เช่น บัตรเดบิต K-DUCATI ที่ให้สิทธิประโยชน์ส่วนลด DUCATI SHOP และสิทธิในการทดลองขับฟรีที่โชว์รูมทุกสาขา 3) คัดสรรสิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้เงินสดเป็นการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิต โดยเน้นผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ใช้ในชีวิตประจำวันและมีมูลค่าใช้จ่ายไม่สูง เช่น ตั๋วชมภาพยนตร์ราคา 100 บาทในเครือเอสเอฟ อิ่มกับชุดอร่อยสุดคุ้มจากแมคโดนัลด์ในราคา 100 บาท รวมถึงโปรโมชั่นอื่นๆ ที่พ่วงกับบัตรเครดิต ลูกค้าบัตรเดบิตก็จะได้รับด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ จากการผลักดันการใช้บัตรเดบิตและการเพิ่มจุดรับชำระด้วยบัตรเพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบรับแนวนโยบายของภาครัฐ ภายใต้โครงการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (National e-Payment) ส่งผลให้ในปี 2559 ที่ผ่านมาจำนวนบัตรเดบิตในประเทศไทยเติบโตขึ้น 6% มีจำนวนบัตรประมาณ 50 ล้านบัตร มีการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตเพิ่มมากขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 20% โดยบัตรเดบิตกสิกรไทย มีฐานบัตรเดบิต 11 ล้านบัตร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมเป็นอันดับ 1 มูลค่า 53,300 ล้านบาท สำหรับปี 2560 นี้ ธนาคารกสิกรไทยตั้งเป้าหมาย ออกบัตรเดบิตใหม่ได้ 1 ล้านบัตร มีฐานบัตรเดบิตเป็น 12 ล้านบัตร มียอดใช้จ่ายผ่านบัตรรวมมูลค่า 71,000 ล้านบาท เติบโต 33% ครองอันดับ 1 ด้านยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก : www.kasikornbank.com