อนันดาฯ พาชาว GEN C ตะลุยโตเกียว อีกครั้ง ดูงาน Startup ชั้นนำที่ญี่ปุ่น ตอกย้ำวิสัยทัศน์ UrbanTech Company

เพราะนี่ไม่ใช่ยุคสมัยของปลาใหญ่กินปลาเล็กอีกต่อไป ผู้กำชัยชนะคือผู้ที่เข้าใจว่า ความง่าย สะดวก ว่องไว และเข้าถึงคนจำนวนมาก คือสิ่งที่ตอบรับโลกาภิวัฒน์ในปัจจุบัน และอินเตอร์เน็ตนั้นมีสำคัญเป็นอย่างยิ่ง และนี่ก็คือยุคที่ Startup มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนโฉมอุตสาหกรรมโลก เพราะไม่เพียงสร้างความสะดวกสบาย และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้บริโภค จนกลายเป็นเทคโนโลยีที่ผู้บริโภคขาดไม่ได้ และสร้างมูลค่าบริษัทได้เกิน 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

ครั้งที่แล้ว ปี 2515 บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) พาชาว Gen C ไปชมเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการสร้าง Smart City รวมถึงเยี่ยมชมสำนักงาน และ Tech Company ชั้นนำของญี่ปุ่น มาคราวนี้ อนันดาฯ พาชาว Gen C และเหล่า Blogger หลากหลายสาขาของไทยกลับมาเยียนญี่ปุ่นอีกครั้ง ในธีมการเดินทางที่มีชื่อว่า Gen-C Life in UrbanTech Era เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ UrbanTech Company โดยคราวนี้บุกไปถึงที่ทำงานจริง พร้อมพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดกับทีม Start Up และ Venture Capital (VC) ของประเทศญี่ปุ่น

Startup ที่ญี่ปุ่นเขาคิด Disrupt ธุรกิจอะไรบ้าง

สำหรับกรอบความคิดที่ชัดเจนที่สุดของเหล่า Startup ทั้งหลาย ก็คือ การคิดแบบ Disruptive Business ซึ่งก็คือ การคิดแก้ปัญหาหรือเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจแบบเดิมให้เป็นเรื่องใหม่หรือได้โมเดลธุรกิจใหม่ๆ ในการเดินทางครั้งนี้ทางอนันดาฯ ได้เชิญทีมงาน Startup และ Venture Capital ของประเทศญี่ปุ่นมาแชร์ประสบการณ์ ดังนี้

  • Grid Co-working space by Gaiax ด้วยแนวคิด "empowering the people to connect" หรือการเพิ่มขีดความสามารถด้วยการเชื่อมต่อ ซึ่งเป็นการแบ่งปันประสบการณ์ มุมมอง ความคิด ของคนหลายกลุ่มเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างสังคมที่ดีกว่าเดิม

GaiaX ตั้งอยู่บนพื้นที่ศักยภาพสูงย่าน Nagatacho,tokyu เป็นลักษณะอาคารสูง 6 ชั้นมีพื้นที่รวมกว่า 4,000 ตารางเมตร โดยพื้นที่แต่ละชั้นจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่ถ้าเข้าไปแล้วสามารถใช้งานได้ร่วมกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ห้องทำงาน ห้องประชุม ห้องจัดแสดงงาน ที่จอดรถ รวมถึงชั้นดาดฟ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่เตรียมไว้ให้อย่างครบครัน ส่วนค่าใชัจ่ายของการเข้าใช้งานอาคารจะเริ่มต้นที่ 2,000 Yen/คน/วัน

GaiaX บริษัทที่ให้ความสำคัญกับการติดต่อเชื่อมโยงกันของทุกคนโดยผ่านเทคโนโลยี นับว่าเป็น Venture Capital รายต้นๆของญี่ปุ่นที่มาสนใจในการลงทุนด้าน Startup ด้วยแนวคิดที่อยากจะให้สังคมดีขึ้นกว่าเดิม โดยการมุ่งเน้นในส่วนของ Sharing Economy ที่จะให้ทุกคนได้ประโยชน์จากการใช้ ทักษะ ความสามารถ และ ประสบการณ์ ในส่วนที่แต่ละคนมีความชำนาญ ซึ่งปัจจุบันได้ร่วมลงทุนใน startup หลายราย

  • TABICA Startup ประเภทท่องเที่ยว คือ มีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่รักการท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ผู้ที่มาประเทศนี้ก็จะอยู่ตามหัวเมืองใหญ่ ซึ่ง startup รายนี้ได้นำเสนอการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ขึ้นเพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการเรียนรู้ ศิลปะ วัฒนธรรม ตามท้องถิ่นของคนชนบทญี่ปุ่นใน 1 วันโดยผ่าน Tabica อาทิเช่น เก็บลูกแพร์ในสวน ฝึกตีกลองสไตล์ญี่ปุ่น การทำตะเกียบแบบดั้งเดิม และอีกมากมาย ซึ่งจะสามารถสัมผัสวิถีชีวิตคนชนบทในญี่ปุ่นได้อย่างแท้จริง โดยทาง TABICA นับเป็นหนึ่งใน Venture Capital ที่ทาง GaiaX เข้าไปสนับสนุน
  • Notteco Startup ประเภท Sharing economy เป็นลักษณะคล้ายกับ “Hitch-Hiking” หรือ การโบกรถเที่ยว โดยจะบริการแชร์การเดินทางไปยังต่างจังหวัดไกล ๆ ที่เปิดรับผู้ร่วมเดินทางไปด้วยกัน โดยผ่านแอพพลิเคชั่นของ Notteco ซึ่งคล้ายกับ Uber แต่ Notteco จะเน้นระยะทางไกลข้ามจังหวัดเท่านั้น โดยลักษณะนี้จะสามารถทำให้ผู้ที่ต้องการเดินทางหรือนักท่องเที่ยวสามารถได้ประสบการณ์ หรือเพื่อนใหม่อีกทั้งยังประหยัดค่าเดินทางไปได้มากด้วย

  • Dverse เป็น Startup ที่พัฒนาซอฟแวร์เกี่ยวกับการสร้างสรรผลงานในรูปแบบของ Virtual Reality ปัจจุบันเทคโนโลยี VR มีความก้าวล้ำไปอย่างมาก สามารถนำมาปรับใช้กับการทำงานหรือเพื่อความบันเทิงได้อย่างมากมาย ซึ่ง SYMMETRY ก่อตั้งในปี 2014 ถือเป็น Startup ที่มีทีมงานที่มากความรู้และด้วยประสบการณ์ และยังเป็นหนึ่งในในผู้ร่วมกําหนดทิศทางของอุตสากรรม Virtual Reality ในประเทศญี่ปุ่นด้วย จากการที่ Dverse เป็น สมาชิกของ VR Consortium Japan และ The Virtual Reality Society of Japan ทําให้มีกลุ่มนักลงทุน VC หลายรายให้เงินสนับสนุนตลอดมา โดยในปัจจุบัน Dverse ได้รับเงินสนับสนุน (Funding) ไปแล้ว $1.16M จํานวน 2 รอบจาก Investors ทั้งหมด 8 ราย
  • Hoomano เป็น Startup ขวัญใจของหลายๆ คน เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของผลงาน หุ่นยนต์อัจฉริยะ Pepper ที่โด่งดัง ทั้งนี้บริษัทมุ่งพัฒยาซอฟแวร์สำหรับหุ่นยนต์เพื่อการพาณิชย์ จะเป็น Interactive Intelligence เพื่อให้สามารถ โต้ตอบกับ มนุษย์ในการช่วยเหลือและให้บริการต่างๆ ได้ อย่าง Aldebaran Nao หุ่นยนต์ตัวแรกที่ทาง Softbank Robotics ได้ซื้อกิจการไป หรือจะเป็นเจ้าหุ่นยนต์ Pepper ที่เราเห็นอยู่ตามสนามบินและตาม ร้านค้าต่างๆ ในประเทศญี่ปุ่น

  • Crowd Realty เป็น Startup ที่ให้บริการเกี่ยวกับ “Peer to Property Funding Market place” คือ เป็น Crowdfunding Service ใหม่สำหรับกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเงินกู้หลักทรัพย์ หรือ เป็น P2P (peer‐to‐peer) platform for real estate ก็ได้ อธิบายง่ายๆ ก็คือใครอยากจะร่วมลงทุน ให้เกิดโครงการ บ้าน คอมโด อาคารเช่าอะไรก็ตามท่ีเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ก็มาร่วมลงทุนผ่าน Platform ของ Crowd Realty ได้เลย ทั้งนี้บริษัทยังได้รับการสนับสนุน จากกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทั้งในญี่ปุ่นและในต่างประเทศ
  • Hyakusenrenma หรือ Stay Japan เป็น Startup ประเภทบริการเช่าห้องพักในประเทศญี่ปุ่น คล้ายกับบริการ Airbnb ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2012 และมีบริการเช่าบ้านทั้งหลังในประเทศญี่ปุ่นด้วย นอกจากนั้นทาง Hyakusenrenma ก็มีบริการสําหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าพักในบ้านของชาวนาหรือชาวประมงเพื่อท่องเทียวแบบศึกษาวิถีชีวิตในชนบทอีกด้วย ถือเป็นอีกหนึ่ง Startup ประเภท Sharing Economy ที่ทาง GaiaX ได้เข้าไปลงทุนด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้ว Hyakusenrenma ได้รับเงินสนับสนุนไปแล้ว ถึง $14.97M จํานวน 3 รอบจากผู้ลงทุนทั้งหมด 5 รายด้วยกัน
  • Mebiol เป็น Startup ด้าน Agriculture Technology นับว่าน่าตื่นเต้นเป็นอย่างมากสำหรับเทคโนโลยีด้านการเกษตรนี้ ด้วยการปลูกต้นไม้ด้วยแผ่นฟิล์ม โดยใช้เทคโนโลยี Hydrogel Agriculture Technology ซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มใสแทนที่ดินในการปลูก แถมรสชาติก็ไม่ได้แตกต่างไปจากพืชที่ปลูกด้วยดิน สามารถปลูกได้บนพื้นคอนกรีตหรือในที่แห้งแล้ง และมีการใช้น้ำในปริมาณที่ต่ำ ด้วยเทคโนโลยีการเกษตรนี้หากมองในส่วนมหภาคแล้วสามารถแก้ปัญหามวลรวมได้ในหลายๆด้าน เช่น การขาดแคลนอาหาร สถานที่เพาะปลูก การนำเข้าพืชผักที่มีราคาแพง โดย Mebiol ได้รับเกียรติขึ้นพูดในงาน TEDxTokyo มาแล้ว ที่ว่ามาทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ startup ส่วนหนึ่งที่ทาง Ananda ได้เชิญมาบรรยายให้กับเหล่า blogger gen c ได้รับฟัง ยังมี Startup อีกนับไม่ถ้วนที่ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานเพื่อทำให้สังคมน่าอยู่ อีกทั้งมีคุณภาพชีวิตที่ดีและเพิ่มความสะดวกสบายเพิ่มมากขึ้น

Startup ที่ญี่ปุน เขามี Technology อะไรบ้าง

เมื่อพดูถงึเรื่องเทคโนโลยีแล้วประเทศญี่ป่นุถือว่าเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีให้ก้าวล้ำทันสมัยอยู่ ตลอดเวลา และในทริปนี้ ชาว GEN‐C ก็จะได้ไปสัมผัสกับเทคโนโลยีเด่นๆ ได้แก่

  • 3D Model เทคโนโลยีการสร้างสรรผลงานสามมิติที่ล้ำสมัยและต่อยอดไปเป็นผลงานเชิงพาณิชย์ในญี่ปุ่นมากมาย
  • Virtual Reality เทคโนโลยีแสดงภาพที่โลกกําลังให้ความสนใจไม่ว่าจะเป็น Facebook, Google, Samsung หรือยักษ์ใหญ่ของวงการไอทีอีกหลายราย ครั้งนี้เราจะได้ไปชมเทคโนโลยี Virtual Reality ของญี่ป่นุ จะเจ๋งขนาดไหน
  • Film Farming ท่ีท่ีชาว GEN‐C จะได้ไปสัมผัสกับเทคโนโลยีการปลูกพืขสุดล้ำด้วยแผ่นฟิล์มใสของ บริษัท Mebiol เพืชท่ีปลูกบนพื้นคอนกรีตจะโตขึ้นมาได้อย่างไร

เยี่ยมชม มิตซุย ฟูโดซัง ยักษ์ใหญ่อสังหาแดนปลาดิบ

ในครั้งนี้เหล่า Blogger Gen C ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชมสำนักงานของ มิตซุย ฟูโดซัง รวมถึงอีก 2 โครงการ อย่าง Global Front Tower และ Park Court Hamarikyu ด้วย

มิตซุย ฟูโดซัง

ชื่อของ มิตซุย มีมาตั้งแต่ ปี คศ.1673 หรือ 343 ปีก่อน เป็นร้านขายเสื้อผ้ากิโมโน ต่อมาได้ก้าวเข้าสู่วงการอสังหาและได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น มิตซุย ฟูโดซาน จนปัจจุบัน ซึ่งนับได้ว่าเป็นผู้ริเริ่มสร้างสรรค์ ผลงาน การออกแบบรวมถึงนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของชีวิตคนเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละยุคสมัย

ขึ้นชื่อว่าเมืองแห่งผู้นำด้านเทคโนโลยีแล้ว การนำเสนอของทาง มิตซุย ฟูโดซัง ย่อมไม่ธรรมดา เริ่มต้นด้วยการนำเสนอโดยใช้ Visualization หรือการจำลองภาพเมืองในอดีต ปัจจุบัน ไปจนถึงอนาคต ด้วยการจำลองจากข้อมูลมหาศาล หลังจากนั้นจะเป็น Scale Model ที่จำลองเมือง โตเกียว ทั้งเมืองมารวมไว้ แล้วจบด้วยเทคโนโลยี VR หรือภาพเสมือนจริงว่ายืนบนดาดฟ้าเพื่อมองวิวรอบเมือง นับว่าเป็นการ Present ที่สร้างความตื่นตาให้กับเหล่า Gen C ได้ไม่น้อย

ด้วยประสบการณ์และแนวคิด “Urban Life” ของ มิตซุย ฟูโดซัง ที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่น ผสานเข้ากับ “Urbantech” ของ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ คงต้องจับตาดูต่อไปว่าจะเกิดปรากฏการณ์ใหม่ๆในวงการอสังหาของไทยอย่างไร

2 โครงการเด่น ของ มิตซุย ฟูโดซัง

  • Global Front Tower โครงการที่จับกลุ่มลูกค้าตั้งแต่ Mid‐High โดยโครงการนี้มียอดขายและยอดโอน 100% และแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่เดือนมกราคม ปี 2016 ท่ีผ่านมา

  • สําหรับอีกโปรเจค ที่ได้พาเหล่า Bloggers ไปเยี่ยมชม นั่นก็คือ Park Court Hamarikyu ซึ่งที่นี่มี Sale Kit ที่เป็น Tablet ที่จะแจกให้กับคนที่สนใจโครงการและเข้ามาเยี่ยมชม Sale Office สําหรับโครงการนี้แล้วเสร็จในเดือนกันยายน ปี 2019 ที่น่าแปลกใจก็คือ เรื่องที่จอดรถจักรยานของทั้งสองโครงการ มีมากกว่าจํานวนยูนิตของโครงการเสียอีก

การใช้ชีวิตในเมือง Urban Life ของคนญี่ปุ่น

คนญี่ปุ่นนับว่ามีความ เป็นระเบียบ จริงจังในการทำงาน รวมถึงการอ่อนน้อมถ่อมตนอันเป็นนิสัยและเอกลักษณ์ประจำชาติ รวมถึงเรื่องการตรงต่อเวลาที่เป็นเรื่องสำคัญยิ่ง ทำให้เทคโนโลยีในด้านต่างๆนั้นก้าวล้ำไปอย่างมาก เพื่อตอบรับกับความต้องการขั้นพื้นฐานของคนเมือง

ญี่ปุ่นเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยี แต่คนญี่ปุ่นชอบ”ความเรียบง่าย”ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่ startup ต่างๆจะสามารถเข้ามาแทรกซึมจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนญี่ปุ่นได้ เพราะสิ่งที่ Startup ทำคือ “สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย” ในการดำเนินชีวิต โดยแนวคิดล้วนมาจากความต้องการของประชาชนที่มีปัญหากับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

ไม่เพียงแต่ความก้าวล้ำของเทคโนโลยีเท่านั้นที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงแต่จะต้องรวมไปถึงลักษณะนิสัย ความมีระเบียบ ความซื่อสัตย์ ของคนในประเทศจึงจะสามารถนำพาให้เกิด Urban life ที่ดีได้

ขอบคุณข้อมูลจาก www.ananda.co.th