ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของกิจการห้องแถว หรือ เจ้าของอาณาจักรธุรกิจใหญ่ตัวที่หวังส่งไม้ต่อให้กับลูกหลาน หรือ เป็นเพียงมนุษย์เงินเดือนที่หาเช้ากินค่ำ ก็สามารถปั้นลูกน้อยให้เติบโตโดยเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณของเถ้าแก่ (Entrepreneurial Spirit) มีความเป็นผู้นำ กล้าคิด กล้าเสี่ยง เพื่อไขว้คว้าโอกาสที่จะสร้างธุรกิจของตัวเองได้ไม่ต่างกัน ที่สำคัญเพื่อบรรลุความตั้งใจนี้คุณไม่จำเป็นต้องไปเทกคอร์สปลุกจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการในตัวคุณให้ยุ่งยาก หรือต้องสวมบทขาโหดเข้มงวดกับลูก จนพลอยทำให้ดัชนีความสุขมวลรวมในครอบครัวดิ่งเหว เพียงแค่นำ 10 เทคนิคง่ายๆแต่เห็นผลนี้ไปลองทำดูก็พอแล้ว

            1.คุณคือต้นแบบที่ดีที่สุด โรงเรียนแห่งแรกของเด็กทุกคน คือ บ้าน เพราะฉะนั้น ถ้าคุณอยากปั้นให้เขาเป็นแบบไหน ลองสร้างสิ่งแวดล้อมแบบนั้นเพื่อเกื้อหนุนให้เขาดู ยกตัวอย่าง ถ้าคุณอยากให้ลูกเติบโตไปเป็นคนที่ขยันทำงาน คุณก็ต้องทำเป็นตัวอย่างให้ลูกดูว่าคุณเองขยันทำงานขนาดไหน หรือ หากอยากฝึกให้ลูกรู้จักเป็นผู้ให้ คุณอาจพาเขาไปด้วยเวลาที่คุณเข้าร่วมในการทำงานจิตอาสา เป็นต้น

           2.สอนให้ลูกใช้ชีวิตอย่างมีเป้าหมาย แม้แต่ทารกน้อย ยังรู้จักตั้งเป้าหมาย และอาศัยการร้องไห้เพื่อบอกให้พ่อแม่รู้ว่า กำลังหิว, ไม่สบายตัว หรือต้องการให้คนอุ้ม เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องอดใจรอให้ลูกค่อยๆค้นหาเป้าหมายให้กับชีวิต แต่ควรส่งเสริมให้ลูกรู้จักกำหนดจุดหมายในชีวิตและก้าวไปให้ถึง เพราะสุดท้ายไม่ว่าเขาจะไปถึงหรือไม่ อย่างน้อยระหว่างทางเขาจะได้เรียนรู้ที่จะริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ฝึกการแก้ปัญหา ความอดทน ฝึกความเชื่อมั่นและรู้จักเคารพในตัวเองตั้งแต่เด็ก เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณสมบัติที่พึงมีของผู้ที่ฝันอยากทำธุรกิจ

           3.ฝึกนิสัยการเป็นผู้ฟังที่ดี สำหรับเด็ก การรับบทผู้ฟังอาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อ แต่เชื่อเถอะว่ายิ่งฟังมากเท่าไหร่ ยิ่งเปิดโอกาสให้ตัวเองได้เรียนรู้มากขึ้นเท่านั้น ไม่เช่นนั้นการฟังคงไม่จัดว่าเป็หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดของผู้นำที่ดี

           

4.สอนให้ลูกเป็นคนไม่ยอมแพ้ เราทุกคนล้วนต้องเคยลิ้มรสความสำเร็จและความล้มเหลวมาแล้วทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นคุณต้องสอนให้ลูกรู้ว่าคนเราจะชนะหรือแพ้กี่ครั้งไม่สำคัญ เพียงแต่เมื่อล้มแล้วต้องจดจำบทเรียนจากความผิดพลาดและอย่าทำผิดซ้ำ

            5.ปล่อยให้เขานิยามความสำเร็จของตัวเอง ในฐานะพ่อแม่คุณไม่จำเป็นต้องกำหนดเป้าหมายหรือเส้นทางให้ลูกเดิน เพียงแต่คอยเป็นกองหนุนและช่วยเหลือให้เขาไปถึงจุดหมายก็เพียงพอแล้ว

            6.สอนให้เขาทำงานที่รักแพชชั่น” สามารถเปลี่ยนงานที่หลายคนอาจมองว่าเหน็ดเหนื่อยและน่าเบื่อให้เป็นความสนุกและความสุขได้ หน้าที่ของคุณคือ ช่วยลูกตามหาแพชชั่นในงานที่เขารักให้เจอ และ ส่งเสริมให้เขามีทักษะพร้อมจะโลดแล่นในเส้นทางที่เลือก

            7.ฝึกให้ลูกเป็นนักสื่อสารที่ดี หนึ่งในคุณสมบัติของผู้นำที่ยิ่งใหญ่ คือ มีทักษะการสื่อสารที่ดี เพราะฉะนั้นคุณควรปลูกฝังทักษะนี้ให้กับเขา ควบคู่ไปกับการสอนให้ลูกตระหนักถึงอานุภาพของคำพูด ก่อนพูดต้องคิดให้ถี่ถ้วน เช่นเดียวกับการให้คำมั่นสัญญา เมื่อได้ให้สัจจะออกไปแล้ว จะคืนคำไม่ได้

            8.สอนให้ลูกรู้จักการทำงานเป็นทีม ในโลกธุรกิจ ไม่มีตัวอย่างความสำเร็จไหน เกิดขึ้นจากน้ำพักน้ำแรงของคนเพียงคนเดียว หากแต่ต้องอาศัยความร่วมมือของหลายฝ่าย

            9.สอนให้ลูกเป็นคนดี คุณสมบัติพื้นฐานของผู้ที่น่ายกย่อง คือ ขยัน จริงใจ ซื่อสัตย์ ทำตัวน่านับถือ และ จิตใจดี เพราะฉะนั้นถ้าหวังจะให้ลูกโลดแล่นในโลกธุรกิจได้อย่างเต็มภาคภูมิ สง่าผ่าเผยคุณต้องปลูกฝังและเป็นตัวอย่างให้เขา

            10.ปล่อยให้เขาได้ทบทวนตัวเองบ้าง ในฐานะพ่อแม่ หากคุณได้ทำในสิ่งที่ควรทำที่กล่าวมาครบถ้วนทุกข้อแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณต้องถอยออกมา เพื่อเปิดช่องว่างให้ลูกน้อยได้ทบทวนตัวเองว่า สิ่งที่เขาเป็นในตอนนี้ใช่ในสิ่งที่เขาต้องการหรือยัง ซึ่งในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้คุณควรปล่อยให้เขาได้เป็นอิสระในการคิดทบทวน เพื่อหาคำตอบที่คิดว่าใช่ที่สุดสำหรับตัวเองจริงๆ

ขอบคุณที่มา : www.inc-asean.com

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก