ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นด้านเทคโนโลยี อสังหาริมทรัพย์และเมือง (PROPERTYTECH & URBANTECH) ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ซึ่งเกิดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่าง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์กรมหาชน) หรือ สนช. กับสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย สมาคมผังเมือง สมาคมอสังหาริมทรัพย์ 11 องค์กร และบริษัทพัฒนาเมือง 8 องค์กร รวมทั้งสิ้น 21 หน่วยงาน ได้แก่

  1. สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องก์การมหาชน)
  2. สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย
  3. สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์ระยอง
  4. สมาคมอสังหาริมทรัพย์ขอนแก่น
  5. สมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต
  6. สมาคมอสังหาริมทรัพย์สงขลา
  7. สมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี
  8. สมาคมอสังหาริมทรัพย์นครราชสีมา
  9. สมาคมอสังหาริมทรัพย์พิษณุโลก
  10. สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์นนทบุรี
  11. สมาคมอสังหาริมทรัพย์เชียงใหม่
  12. สมาคมอสังหาริมทรัพย์อุดรธานี
  13. สมาคมการผังเมืองไทย
  14. บริษัท ขอนแก่นพัฒนาเมือง (เคเคทีที) จำกัด
  15. บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด
  16. บริษัท เชียงใหม่พัฒนาเมือง จำกัด
  17. บริษัท พิษณุโลกพัฒนาเมือง จำกัด
  18. บริษัท สมุทรสาครพัฒนาเมือง (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด
  19. บริษัท สระบุรีพัฒนาเมือง จำกัด
  20. บริษัท ระยองพัฒนาเมือง จำกัด
  21. บริษัท กรุงเทพพัฒนาเมือง จำกัด

รศ.ดร.สมเจตน์ ทิณพงศ์ ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวถึง สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติฯ ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อ การพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และเมือง (PropertyTech & UrbanTech) เป็น 1 ใน 9 สาขาธุรกิจตามนโยบายสนับสนุนวิสาหกิจเริ่มต้นของรัฐบาลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจอนาคต

ทั้งนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มีความยินดีและพร้อมที่จะร่วมมือกับสมาคมอสังหาริมทรัพย์ 11 สมาคม บริษัทพัฒนาเมือง 8 บริษัท และสมาคมการผังเมืองไทย เพื่อที่จะส่งเสริม สนับสนุน ประยุกต์ใช้ผลงานด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และเมือง และพัฒนาวิสาหกิจเริ่มต้นตามนโยบายของรัฐบาล รวมถึงแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความรู้ ประสบการณ์ และข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งแวดล้อม ระหว่างบุคคลากรของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย

ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กล่าวว่า สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาสตาร์ทอัพ ซึ่งถือเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม และสร้างระบบนิเวศของ วิสาหกิจเริ่มต้น (Startup Ecosystems)จากความร่วมมือกับทางสมาคมฯ เพื่อร่วมกันส่งเสริม สนับสนุนสตาร์ทอัพด้านอสังหาริมทรัพย์และเมือง ในรูปแบบต่างๆ อาทิ การอบรม Pitching การให้ทุน รวมถึงการประยุกต์ใช้ผลงานด้านเทคโนโลยีอสังหาริมทรัพย์และเมือง ซึ่งจะช่วยผลักดันและเพิ่มขีดความสามารถของสตาร์ทอัพไทยด้านอสังหาริมทรัพย์และเมือง ให้สามารถเติบโตและแข่งขันได้ในระดับสากล

นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดการสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเมือง ซึ่งสอดคล้องกับ การพัฒนานวัตกรรมเชิงพื้นที่ (Area-Based Innovation) ในการยกระดับศักยภาพในระดับย่านนวัตกรรมท้องถิ่น (Innovation District) เพื่อเป็นการพัฒนาพื้นที่และกิจกรรมภายในย่าน ดึงดูดสตาร์ทอัพให้รวมตัวกันเป็นคลัสเตอร์ โดยการพัฒนาเครื่องมือและกลไกที่เอื่อต่อการประกอบธุรกิจและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้พักอาศัย และผู้ดำเนินกิจกรรมภายในย่านให้ใช้นวัตกรรม ทำกิจกรรมแบ่งปันทรัพยากร รวมถึงกำหนดเป้าหมายการสร้างนวัตกรรมที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ ซึ่งจะสามารถตอบสนองความต้องการแก่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งนักลงทุน นักพัฒนาที่ดิน เจ้าของที่ดิน สถาบันการศึกษา หน่วยงานวิจัย ผู้ประกอบการ วิสาหกิจเริ่มต้น ผู้ใช้บริการในพื้นที่ และผุ้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่ เป็นผลให้ในแต่ละพื้นที่เกิดการสร้างสตาร์ทอัพ สร้างงาน และสร้างคุณค่าที่มีลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ขึ้น โดยเริ่มพื้นที่นำร่องโครงการย่านนวัตกรรม จำนวน 15 ย่าน ประกอบด้วย

  1. ย่านนวัตกรรมในกรุงเทพมหานคร (BANGKOK INNOVATION DISTRICTS) 8 ย่าน ได้แก่
    1) ย่านนวัตกรรมโยธี
    2) ย่านนวัตกรรมปทุมวัน
    3) ย่านนวัตกรรมคลองสาน
    4) ย่านนวัตกรรมรัตนโกสินทร์
    5) ย่านนวัตกรรมกล้วยน้ำไท
    6) ย่านนวัตกรรมลาดกระบัง
    7) ย่านนวัตกรรมปุณณวิถี
    8) ย่านนวัตกรรมบางซื่อ
  2. ย่านนวัตกรรมในแนวระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) 4 ย่าน ได้แก่ 1) ย่านนวัตกรรมบางแสน 2) ย่านนวัตกรรมศรีราชา 3) ย่านนวัตกรรมพัทยา 4) ย่านนวัตกรรมอู่ตะเภา-บ้านฉาง
  3. กลุ่มเครื่อข่ายย่านนวัตกรรมภูมิ (INNOVATION CONSTELLATION) 3 ย่าน ได้แก่
    1) ย่านนวัตกรรมในเชียงใหม่
    2) ย่านนวัตกรรมในขอนแก่น
    3) ย่านนวัตกรรมในภูเก็ต
    และพื้นที่ส่งเสริมนวัตกรรมในจังหวัดฉะเชิงเทรารวมถึงการก่อให้เกิดการเชื่อมโยงไปสู่การส่งเสริม GovTech ในการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนตามเมืองต่างๆ

นายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวถึง ภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับธุรกิจหลายสาขา มีมูลค่าตลาด 4.5 - 5 แสนล้านบาทต่อปี ไม่นับรวมตัวเลขของการพัฒนาเมือง ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อพาร์ทเมนต์ นิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ประเภทอื่นๆ ทั้งนี้สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทยในฐานะผู้ประสานความร่วมมือของการพัฒนาเมืองในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง สมาคมได้ประสานงานความร่วมมือจนเป็นเครือข่ายสมาคมอสังหาริมทรพย์ในระดับภูมิภาค และสนับสนุนให้เกิดบริษัทพัฒนาเมืองใน 8 หัวเมืองใหญ่ ทัวประเทศไทย ซึ่งเป็นการพัฒนาตามเกณฑ์ Smart Growth, LEED-ND, From-Based Codes, TOD ตลอดจนสมาคมการผังเมืองไทยที่พร้อมสนับสนุน สนช. เพื่อการพัฒนาอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิด การรับรู้ การใช้งาร และการเสริมสร้างการพัฒนาด้าน ProperyTech UrbanTech และ Tech Startup อื่นๆ ให้แพร่หลายในกลุ่มผู้พัฒนา หรือผู้ใช้งาน รวมถึงสร้างระบบนิเวศ ด้าน Property Tech ของประเทศไทยอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก www.thairealestate.org  และ www.nia.or.th/innovationdistrict