ปักหมุด 3 ย่านธุรกิจแห่งอนาคตของกรุงเทพมหานคร รองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่
กรุงเทพฯ – หากพูดถึงย่านธุรกิจที่สำคัญ คนส่วนมากจะนึกถึงพื้นที่บริเวณใจกลางเมืองของกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันมีอีก 3 ย่านใหม่ที่น่าจับตามอง เรียกได้ว่าเป็นย่านธุรกิจแห่งอนาคตที่ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง โดยมีการลงทุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบขนส่งมวลชน ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงานต่างๆ พร้อมทั้งบรรยากาศแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน ปัจจัยเหล่านี้จึงเข้ามาตอบโจทย์คนเมืองยุคใหม่ที่รักอิสระ ชื่นชอบความเป็นส่วนตัวในการตัดสินใจเลือกที่อยู่อาศัยให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์อย่างแท้จริง มาดูกันว่าย่านธุรกิจแห่งใหม่ของกรุงเทพมหานคร มีความพิเศษและน่าสนใจอย่างไรบ้าง
ย่านพระราม9-รามคำแหง
พระราม9-รามคำแหง เป็นย่านที่อยู่กึ่งกลางระหว่างในเมืองและชานเมืองออกไปทางตะวันออก ทำให้การเดินทางสะดวกและหลากหลาย ไม่ว่าจะขับรถหรือใช้บริการขนส่งมวลชน เพราะเป็นจุดตัดระหว่าง ถ.รามคำแหงและถ.พระราม 9 สำหรับคนที่ขับ รถ ถ้ามุ่งหน้าเข้าเมืองอีกนิดเดียวจะสามารถไปถึงทองหล่อได้ใน 5-10 นาที ส่วนทางเลือกของคนที่ไม่ได้ขับรถนั้น สามารถเดินทางด้วยรถแอร์พอร์ต เรล ลิงค์ สถานีรามคำแหง ที่จะสามารถพาไปยัง สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ รวมถึงย่านธุรกิจอย่างถนนเพชรบุรี ไปสุดทางที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพญาไท ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการเดินทางสู่สถานีรถไฟฟ้าสยาม ต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสุขุมวิทและสายสีลมได้ไม่ยาก ซึ่งในอนาคตการเดินทางในย่านพระราม9 – รามคำแหงนี้ก็จะมีความสะดวกสบายยิ่งขึ้นเพราะจะมีรถไฟฟ้าสายสีส้มให้สามารถเดินทางไปยังมีนบุรีจนถึงตลิ่งชัน ซึ่งโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2563
นอกจากย่านนี้จะมีห้างสรรพสินค้ามากมาย อย่างห้างเดอะ ไนน์ พระราม9 แหล่งช้อปปิ้งที่เอาใจคนรักสุนัขและแมว ให้พาไปเดินเล่นได้แล้ว ยังเป็นศูนย์รวมของคาเฟ่เก๋ๆ ให้สามารถใช้เวลาชิลๆ อ่านหนังสือหรือนั่งทำงานอีกด้วย อาทิ ร้าน One of a kind, ร้าน Hey 53 เรียกว่าแม้บริเวณโดยรอบจะค่อนข้างคึกคัก แต่ก็มีมุมสงบซ่อนอยู่ คนที่มีโลกส่วนตัวสูง หากมีที่พักในย่านนี้ก็คงจะถูกใจไม่น้อย ขณะที่ย่านพระราม 9 – รามคำแหง ยังถือเป็นหนึ่งในย่านที่เหมาะแก่การลงทุน ด้วยอัตราการเจริญเติบโตของราคาที่ดินในย่านดังกล่าวที่สูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบจากอัตราราคาที่ดิน 1 แสนบาทต่อตารางเมตรในปี 2555 มาเป็น 3 แสนบาทต่อตารางเมตรในปี 2560 และยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ย่านพัฒนาการ
ย่านพัฒนาการเป็นอีกหนึ่งทำเลที่มีความลงตัว ทั้งแง่สีสันของความเป็นเมืองและความเรียบง่ายของชุมชน บรรยากาศแวดล้อมเหมาะแก่การอยู่อาศัย พร้อมกับการเดินทางที่เชื่อมไปยังถนนหลักๆ หลายสาย เช่น ถนนเพชรบุรี ถนนสุขุมวิท 71 และถนนรามคำแหง ซึ่งทำให้เดินทางมายังอโศก ทองหล่อ อ่อนนุช หรือเดินทางไปยังสนามบินสุวรรณภูมิก็ไปได้ง่ายไม่แพ้กัน ด้วยทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางพิเศษศรีรัชที่ทำให้การเข้าถึงบริเวณพัฒนาการและออกนอกเมืองได้สะดวกยิ่งขึ้น
ความเจริญที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดคอมมูนิตี้มอลล์ขึ้นหลายแห่ง บนถนนพัฒนาการก็จะมี ลอนดอน สตรีท คอมมูนิตี้ ฟู้ดมอลล์ แห่งแรกของเมืองไทย ที่ยกเอาแลนมาร์คของอังฤกษมาใช้ในการออกแบบ สำหรับคนที่เป็นสายกิน พัฒนาการยังเต็มไปด้วยร้านเด็ดเจ้าเก่าประจำย่านที่ควรไปชิม อย่าง ก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋นยาจีนรสชาววัง พัฒนาการ47 ที่การันตีความอร่อยยาวนานกว่า 30 ปี ส่วนคนที่หลงใหลธรรมชาติ ขับรถต่อไปอีกสักนิด ก็จะสามารถไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่ “โครงการป่าในกรุง” ของสถาบันปลูกป่า ปตท. แหล่งเรียนรู้การปลูกป่าเชิงนิเวศแบบยั่งยืน ที่ทำให้ชาวเมืองสามารถสัมผัสบรรยากาศแบบการเที่ยวป่าในเมืองได้
ย่านพัฒนาการถือเป็นหนึ่งในย่านที่น่าจับตามอง ด้วยการผสมผสานของคอมมูนิตี้มอลล์ที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง เข้ากับธรรมชาติที่ยกมาไว้ในเมืองและสถานที่เหมาะสำหรับทำกิจกรรมนอกบ้าน ทำให้ย่านนี้ตอบโจทย์ทั้งคนที่การต้องการหาทำเลสำหรับอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน เพราะมีแนวโน้มการเจริญเติบโตของราคาที่ดินอย่างก้าวกระโดดถึง 40% ในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา
ย่านลาดพร้าว
ลาดพร้าวถือเป็นพื้นที่ที่มีการเติบโตในแง่ของมูลค่าเพิ่มของที่ดินสูงถึง 30% สังเกตได้จากโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นถนนหรืออุโมงค์ยักษ์ระบายน้ำ ประกอบกับการเดินทางที่สะดวก รวดเร็วด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ที่มอบความสะดวกสบายในการเดินทางให้สามารถไปยังหัวลำโพง และ เตาปูนได้ไม่ยาก รวมไปถึงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในอนาคตอย่าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะเปิดให้ใช้บริการในปี 2563 ที่ครอบคลุมการเดินทางในตอนเหนือของกรุงเทพฯ ทำให้ผู้พักอาศัยย่านลาดพร้าวสามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังสะพานใหม่-คูคต ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ การประกาศแผนการพัฒนาขนาดใหญ่ (Mega Project) สำหรับพื้นที่โดยรอบบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสหมอชิต บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ ให้กลายเป็นโครงการมิกส์ยูส (Mix-use) ขนาดใหญ่ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ย่านลาดพร้าว รวมไปถึงหมอชิตกลายเป็น ‘ฮับ’ ด้านการคมนาคม พื้นที่เชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่ ตลอดจนที่อยู่อาศัย เป็นผลให้ราคาที่ดินบริเวณดังกล่าวมีแนวโน้มในการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ยิ่งไปกว่านั้นย่านลาดพร้าวยังเป็นที่ตั้งของสถานศึกษา โรงพยาบาล อาคารสำนักงานไปจนถึงพื้นที่สีเขียวมากมาย ได้แก่ สวนจตุจักร สวนวชิรเบญจทัศ อุทยานผีเสื้อและแมลงกรุงเทพ เป็นต้น เรียกว่าเป็นย่านที่พักอาศัยและไลฟ์ไสตล์ที่มีความโดดเด่นที่สุดในขณะนี้ และยังช่วยตอบโจทย์ทั้งในแง่การพักอาศัยและการลงทุนได้อย่างไร้ที่ติ
หลายคนคงคุ้นเคยว่าลาดพร้าวเป็นย่านที่รวบรวมร้านอาหารเด็ดๆ แต่ใครจะรู้ว่า เสน่ห์เฉพาะตัวของย่านนี้ คือ การเกิดขึ้นของพื้นที่เล็กๆ ที่เป็นผลลัพธ์จากแรงบันดาลใจผสมผสานกับความรักในสิ่งที่ทำ จนกลายเป็นร้านสุดฮิปแปลกใหม่ของคนที่มีความชอบด้านต่างๆ เช่น ร้านแผ่นเสียง Garage Records , ร้าน Tint Bicycle ร้านจักรยานออกแบบได้ สไตล์คุณ, ร้าน Ninetails Bar & Booster ร้านอาหารกึ่งผับที่โดดเด่นด้วยการตกแต่งแบบร่วมสมัย สิ่งเหล่านี้ ล้วนตอบสนองไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการสะท้อนความเป็นตัวตนที่มีเอกลักษณ์อย่างชัดเจน
สำหรับหนุ่มสาวคนไหนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยใกล้ใจกลางเมือง 3 ย่านธุรกิจแห่งอนาคตนี้อาจจะเป็นอีกไอเดียที่ควรเก็บไว้พิจารณา เพราะใกล้ใจกลางเมืองแต่ยังตอบโจทย์ความสงบส่วนตัวในการอยู่อาศัย แวดล้อมด้วยร้านกาแฟ ห้างสรรพสินค้า และศูนย์รวมความบันเทิงที่ครบครัน แถมยังมีทางเลือกการเดินทางที่สะดวกและหลากหลายไม่แพ้ย่านธุรกิจอื่นๆ อย่าง ‘โครงการเมทริส’ คอนโดมิเนียมไฮไรส์ แบรนด์ใหม่ล่าสุดภายใต้ บริษัท เมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เป็นตัวเลือกที่เหมาะ อย่างยิ่งสำหรับกลุ่มมิลเลเนียล มาพร้อมดีไซน์ด้วยเอกลักษณ์แบบ มิด-เซ็นจูรี่ โมเดิร์น (Mid-Century Modern) ที่รวมความคลาสสิกและความทันสมัยเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้แนวคิด Remaster The Modern DNA และ ยังเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet-friendly) อีกด้วย โดยจะเปิดตัวทั้งสามทำเลพร้อมกัน ได้แก่ โครงการเมทริส ลาดพร้าว, โครงการเมทริส พัฒนาการ และโครงการเมทริส พระราม9- รามคำแหง
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.mde.co.th