7นิสัยผลาญเงิน ที่ขัดขวางไม่ให้คุณไม่รวยสักที
เคยสงสัยมั้ยว่า ทั้งๆ ที่เงินเดือนที่ได้รับในแต่ละเดือนก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ แต่ทำไมหลังจากทำงานเพลินๆ ผ่านไป 2-3 ปี หยิบสมุดบัญชีขึ้นมาเปิดดูอีกทีแทบช็อค เงินเก็บที่มีแสนกระจิดริด ลำพังแค่คิดจะหาเงินก้อนไปเทค่างวดรถที่ผ่อนอยู่ให้หมดไวขึ้น หรือ เคลียร์หนี้บัตรเครดิตก็ยังไม่พอ
ก่อนที่จะโทษว่าทั้งหมดเป็นเพราะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอก ให้ลองย้อนกลับมามองตัวเองว่า คุณเองหรือเปล่าที่เป็นมีนิสัยการใช้จ่ายที่ก่อให้เกิดรูรั่วเล็กๆมากมายในกระเป๋า ลองหันมาสวมบทช่างจำเป็น 1 วัน เพื่อสำรวจและอุดรูรั่ว ที่เหมือนเป็นกับดักทางการเงินของคุณให้หมดไป ไม่แน่ว่าแค่เลิกนิสัยที่ผลาญเงินแบบไม่รู้ตัว อาจทำให้ความฝันจะเป็นเศรษฐีของคุณใกล้เข้ามาอย่างไม่น่าเชื่อ
1.ปล่อยให้อาหารสดเสียคาตู้เย็นเป็นประจำ หลายครั้งที่ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน ทำให้คุณเลือกที่จะเอาความสะดวกสบายเป็นที่ตั้ง ฝากท้องไว้กับร้านอาหารข้างทางแทนที่จะกลับมาเข้าครัวแบบที่ตั้งใจ
ทิปส์ แทนที่จะปล่อยให้อาหารสดในตู้กลายเป็นแม่สายบัวรอเก้อ ลองปรับวิธีการวางแผนการซื้ออาหารสดเข้าบ้านเสียใหม่ เพื่อลดค่าใช้จ่าย
2.ปลอบใจตัวเองว่า “ฉันคู่ควรที่จะจ่ายเพื่อได้ครอบครองสิ่งนี้” ไม่ใช่เรื่องผิด หากคุณคิดจะให้รางวัลกับชีวิตด้วยการนำเงินที่หาได้จากน้ำพักน้ำแรงมาซื้อของที่อยากได้ แต่ก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่า ของชิ้นนี้จะเป็นรางวัลหรือภาระของชีวิต
ทิปส์ การให้รางวัลตัวเองสามารถทำได้หลายวิธี คุณควรเลือกวิธีที่เติมเต็มความสุขแล้วยังอยู่ในขอบข่ายที่จ่ายไหว หรืออาจลองแยกบัญชีเงินออมไว้สำหรับการช็อปปิ้งโดยเฉพาะ อย่างน้อยทุกครั้งที่ช็อปคุณจะรู้ลิมิตของตัวเอง
3.ละเลยที่จะเก็บเอกสารสำคัญ ไม่ถึงเทศกาลเสียภาษี สารพัดใบเสร็จรับเงิน ใบกำกับภาษีก็ไม่ต่างจากกระดาษที่ไร้ค่า เลยพลาดโอกาสนำเอกสารจำเป็นเหล่านี้มาลดหย่อนภาษีอย่างน่าเสียดาย
ทิปส์ ลองจัดระเบียบด้านการเงินเสียใหม่ ด้วยการหาซองเปล่าหรือแฟ้มสำหรับแยกเก็บเอกสารที่สำคัญ โดยวางไว้ในที่ที่หาง่าย จะได้สะดวกสำหรับการจัดเก็บเอกสารสำคัญตลาดทั้งปี
4.ทิ้งของให้เป็นเวลาเล่น แทนที่จะเพิ่มขยะให้โลก คุณอาจลองนำของที่ใม่ใช้แล้วมาสร้างมูลค่า ด้วยการนำมาขายต่อ หรือถ้าไม่อยากสวมวิญญาณแม่ค้า คุณอาจนำไปบริจาคให้องค์การกุศล
ทิปส์ หากคุณเลือกที่จะบริจาคให้กับองค์กรที่ได้รับการรับรอง อย่าลืมขอใบเสร็จมาใช้เพื่อยื่นขอลดหย่อยภาษี
5.มองข้ามเอกสารการเงิน ในยุคที่ทุกอย่างถูกย่อไว้ในสมาร์ทโฟน เข้าสู่ยุคไร้กระดาษอย่างแท้จริง เอกสารทางเงินจากธนาคารหรือบัตรแจ้งหนี้การใช้บัตรเครดิตที่เคยส่งมาที่บ้านแปรสภาพเป็นอีเมล ทำให้บางคนนอกจากจะรูดเพลินจนลืมจ่ายจนต้องเสียค่าปรับเพราะชำระเกิน
ทิปส์ ใส่ใจสักนิดกับเอกสารทางการเงิน ถ้าพบว่ามีข้อผิดพลาด ให้รีบท้วง
6.เป็นพวกวัตถุนิยม ต่อให้คุณเป็นคนรุ่นใหม่ที่ชอบพาตัวเองไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไม่หยุดนิ่ง แต่คุณไม่จำเป็นต้องสวมบทเป็นเจ้าบุญทุ่ม ซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะอยู่กับกิจกรรมนั้นได้นานแค่ไหน
ทิปส์ ช่วงแรกๆ ที่ริเริ่มอะไรใหม่ๆ อาจเริ่มจากการเช่าอุปกรณ์ก่อน รอจนมั่นใจว่านี่คืองานอดิเรกที่ชอบ กีฬาที่คุณสนใจจริงๆ แล้วค่อยลงทุนซื้ออุปกรณ์
7.เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่น ต่อให้คุณจะอยู่ในสายงานเดียวกัน ตำแหน่งงานเดียวกัน ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องมีสภาพคล่องทางการเงินที่เหมือนกัน เพราะแต่ละคนมีวิธีออกแบบชีวิต วิธีบริหารในเงินกระเป๋าแตกต่างกัน
ทิปส์ แทนที่จะเสียพลังไปกับการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น สู้เอาพลังที่มีไปหาทางกำจัดนิสัยราคาแพงทีละข้อ แล้วคุณจะพบว่าเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นแบบไม่น่าเชื่อ
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก www.forbes.com
บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้
TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก