แสนสิริปลื้มโครงการเดอะเบส เพชรเกษม กวาดยอดขายรวมแล้วถึง 70% ด้วยมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท มั่นใจศักยภาพทำเลฝั่งธนไปได้สวย
หลังจากเปิดตัวโครงการเดอะเบส เพชรเกษมไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา แสนสิริเผยถึงศักยภาพของฝั่งธนฯ โดยเฉพาะพื้นที่ทำเลเพชรเกษม ที่ได้รับผลตอบรับเกินคาด จนสามารถปิดการขายได้เกินเป้าหมายที่วางไว้แล้วถึง 70% หรือมูลค่า 1,400 ล้านบาท จากกระแสการตอบรับที่ดีทั้งจากลูกค้าชาวไทย และต่างชาติ ที่มองเห็นความคุ้มค่า และศักยภาพของทำเลใกล้รถไฟฟ้า MRT เพียง 120เมตร
นาวสาววรางคณา อัครสถาพร ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) บริษัท บีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป เปิดเผยว่า “ต้องถือว่าโครงการเดอะเบส เพชรเกษม เป็นโครงการคอนโดมิเนียมย่านฝั่งธนแห่งแรก ภายใต้การพัฒนาของบริษัทบีทีเอส แสนสิริ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่างแสนสิริ และบีทีเอส โดยมองเห็นศักยภาพของทำเลย่านเพชรเกษม ที่มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าเข้าสู่ใจกลางเมือง หรือย่านศูนย์กลางธุรกิจได้อย่างง่ายดาย และสามารถใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติได้มากขึ้น โดยหลังจากเปิดขายอย่างเป็นทางการไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่านอกจากลูกค้าคนไทยที่ให้ความสนใจแล้ว เรายังได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าต่างชาติเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วย โดยปัจจุบันโครงการเดอะเบส เพชรเกษม มียอดขายรวมแล้วกว่า 70% โดยมีสัดส่วนลูกค้าต่างชาติสูงถึง30% จากยอดขายรวมทั้งหมด ผ่านการนำไปโรดโชว์ในต่างประเทศ ทั้งฮ่องกงและ จีน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยความเชื่อมั่นในแบรนด์แสนสิริในการพัฒนาโครงการ และความมั่นใจในบริการหลังการขาย จนทำให้แสนสิริกลายเป็นแบรนด์อสังหาริมทรัพย์ของไทยที่โดดเด่น และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในกลุ่มลูกค้าต่างชาติ รวมถึงแสนสิริมองเห็นแนวโน้มการลงทุนอสังหาฯ ในเมืองไทย ของลูกค้าต่างชาติ ที่มีทิศทางกระจายตัวไปยังรอบนอกเมืองมากขึ้น จากราคาเฉลี่ยที่ไม่สูงมาก จึงทำให้เกิดการตัดสินใจได้ไม่ยาก ประกอบกับการขยายการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนต่อเนื่อง อาทิ การเปิดให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียว และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระ หัวลำโพง- บางแค ที่มีการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 94% โดยจะเปิดให้บริการปี2562 ซึ่งส่งผลให้ย่านเพชรเกษมจะสามารถเติบโตได้ในทุกด้าน รวมถึงแนวโน้มการลงทุนในภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นคอมมูนิตี้มอลล์ ห้างสรรพสินค้า มหาวิทยาลัย เป็นต้น เพื่อรองรับชุมชนขนาดใหญ่ที่เหมาะแก่การเป็นที่อยู่อาศัย จึงทำให้โครงการเดอะเบส เพชรเกษม เป็นหนึ่งในโครงการของแสนสิริที่มีแนวโน้มที่ดี และคาดว่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เลือกที่จะลงทุนในย่านนี้มากขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน”
สำหรับทำเลย่านเพชรเกษมถือเป็น HUB ขนาดใหญ่ของฝั่งธนฯ ที่ครอบคลุมพื้นที่ของกรุงเทพฯ ทั้งหมด 4 เขต ได้แก่ บางกอกใหญ่ ภาษีเจริญ บางแค หนองแขม มีประชากรรวมกว่า 5.5 แสนคน ซึ่งถือว่ามีความหนาแน่นสูงถึง 2.35 คนต่อครัวเรือน ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยของคนกรุงเทพ อยู่ที่ 2.13 คนเท่านั้น นั่นจึงทำให้เกิดแนวโน้มด้านความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น โดยมีจำนวนอุปทานคอนโดแนวสูงบนถนนเพชรเกษมปัจจุบัน จำนวน 10,386 ยูนิต และอุปสงค์อยู่ที่ 4,573 ยูนิต โดยโครงการที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าจะมีราคาเฉลี่ยที่ 9.2 หมื่นบาทต่อตารางเมตร ซึ่งนับว่าเป็นระดับราคาที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับราคาคอนโดที่ติดรถไฟฟ้าบริเวณในเมือง (ข้อมูลจากบริษัทพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด)
“ด้านราคารีเซลของทำเลย่านนี้ มีความน่าสนใจจากปัจจัยแวดล้อมบวกต่างๆ อาทิ ราคาที่ดินที่เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 45-80% ภายในระยะเวลาไม่ถึง 5 ปี เฉลี่ยสูงขึ้นอยู่ที่ปีละ 9% โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่ดินบริเวณที่ใกล้กับรถไฟฟ้าซึ่งติดกับถนนเพชรเกษม มีราคาเพิ่มขึ้นสูงถึงปีละ 13% ซึ่งเมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จแล้ว คาดว่าราคาที่ดินโดยเฉพาะตามแนวรถไฟฟ้าน่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% อย่างแน่นอน จึงส่งผลให้ราคารีเซลของคอนโดย่านนี้ที่เปิดตัวในช่วง 3-5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการ ตอบรับค่อนข้างดี โดยสามารถกำไรจากรีเซลสูงขึ้นถึง 30% และคาดว่าหากระบบขนส่งมวลชนเสร็จสมบูรณ์ ราคาจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยอีกปีละ 5% ซึ่งปัจจุบันยังสามารถให้ผลตอบแทนจากการปล่อยเช่าหรือ yield อยู่ที่ประมาณ 5-6% ซึ่งศักยภาพดังกล่าวจึงมีความเป็นไปได้ที่แสนสิริจะพัฒนาโครงการอสังหาฯ ในย่านนี้ต่อไปได้อีกแน่นอน” นางสาววรางคณา กล่าวเพิ่มเติม
สำหรับโครงการเดอะเบส เพชรเกษม เป็นคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์ ความสูง 30 ชั้น จำนวน 640ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,850 ล้านบาท ตั้งอยู่ในทำเลเพชรเกษม โดยชูคอนเซ็ปต์ “ทุกโหมดของชีวิต”ครั้งแรก!! ที่คอนโดฯ ครบทุกการเดินทางทั้งรถ เรือ ราง สามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้ง่าย ใกล้ MRTเพชรเกษม 48 เมตร เพียง 120 ม. และใกล้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย (หัวลำโพง – บางแค) ที่คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562 จัดเต็มครบทุกโหมดของการใช้ชีวิต ด้วยการจัดสรรพื้นที่เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ ที่แตกต่าง ไม่ว่าจะพักผ่อนเป็นส่วนตัว หรือรองรับการทำงานหลากหลายรูปแบบ โดดเด่นด้วย Sky Fitness 2 ชั้น บนชั้น 28 และ 30 ที่มีอุปกรณ์ครบครัน และเพลิดเพลินกับสระว่ายน้ำยาว 40 ม. เพื่อเปิดโหมดการชมวิวที่ไม่เหมือนใคร โดยมียูนิตให้เลือก 2 แบบ แบบ 1 ห้องนอน 1ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 23.00-32.50 ตร.ม. และแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาดพื้นที่ 44.00-52.25 ตร.ม. คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2563 ซึ่งขณะนี้ได้มอบสิทธิพิเศษ ฟรีเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ในราคาเริ่มต้น 2.47 ล้านบาท หรือผ่อนเริ่มต้นที่ 5,900 บาทเท่านั้น.
ขอบคุณข้อมูลจาก https://sansiri.com