“โกลบอลเฮ้าส์” ทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาท เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติที่มีพื้นที่จัดเก็บสินค้ามากที่สุดในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของเมืองไทยบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใน อ.วังน้อย จ.อยุธยา เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจ พร้อมนำระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage Retrieval System) หรือ ASRS ขยายผลต่อสำหรับร้านโกลบอลเฮ้าส์ที่กำลังจะเปิดในอาเซียนเร็วๆ นี้

นายวิทูร สุริยวนากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตามที่ทางบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์ให้ “โกลบอลเฮ้าส์” เป็นช่องทางจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้านที่ดีที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ทางบริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์การแข่งขันไว้ 5 เรื่อง ได้แก่

• Best Price                    จำหน่ายสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลและยุติธรรมที่สุด
• Best Personal             บุคลากรพร้อมให้บริการอย่างดีที่สุด
• Best Selection              มีสินค้าให้เลือกมากที่สุด ทั้งระดับล่าง ระดับกลางและระดับบน
• Best Service                บริการดีที่สุด เมื่อเทียบกับมาตรฐานสากล
• Best Store                    พัฒนาการจัดวางและการจัดแสดงสินค้าให้ดีที่สุด

         นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางบริษัทฯ จึงได้นำนวัตกรรมทางการค้าระบบโมเดิร์นเทรดมาปรับใช้กับการบริหาร “โกลบอลเฮ้าส์” ในทุก ๆ ด้านอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในส่วนของการบริหารคลังสินค้าซึ่งถือเป็นหนึ่งในหัวใจของธุรกิจค้าปลีกนั้น ทางบริษัทฯ ได้นำระบบบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage Retrieval System) หรือ ASRS ที่ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งระบบมาใช้กับร้านโกลบอลเฮ้าส์ สาขาปราณบุรี เป็นแห่งแรกเมื่อปี 2559 เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ สะดวกและประหยัดเวลาสำหรับลูกค้ามากยิ่งขึ้น ในปัจจุบันทางบริษัทฯ นำระบบ ASRS ไปใช้กับร้านโกลบอลเฮ้าส์แล้วจำนวน 16 สาขา นอกจากนี้ เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจในอนาคต และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานทั้ง Supply Chain บริษัทฯ จึงได้ทุ่มงบกว่า 600 ล้านบาทก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติซึ่งติดตั้งระบบ ASRS (Automated Storage Retrieval System) ขึ้นบนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ใน อ.วังน้อย จ.อยุธยา โดยใน  เฟสแรกศูนย์กระจายสินค้าจะมีพื้นที่คลังสินค้า 30,000 ตารางเมตร จัดเก็บสินค้าในส่วนของพื้นที่ ASRS   ได้กว่า 43,000 พาเลท จัดเก็บเหล็กได้กว่า 5,000 ตัน และจัดเก็บกระเบื้องเซรามิคได้กว่า 5,000 พาเลท นับได้ว่าเป็นศูนย์กระจายสินค้าอัตโนมัติที่มีพื้นที่จัดเก็บสินค้ามากที่สุดในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างของเมืองไทย ซึ่งศูนย์กระจายสินค้าวังน้อยแห่งนี้จะทำให้บริษัทฯ ลดการเสียโอกาสในการขายและช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้าให้กับลูกค้า รวมทั้งช่วยให้ต้นทุนในการบริหารจัดการของบริษัทฯ อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าในราคาที่สมเหตุสมผลมากยิ่งขึ้น  

         นายเกรียงไกร สุริยวนากุล ซัพพลายเชน ไดเรกเตอร์ บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อยได้ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้เหมาะสมกับการดำเนินงานธุรกิจของ “โกลบอลเฮ้าส์” โดยเฉพาะ ตั้งแต่การสั่งสินค้าจากผู้จัดจำหน่ายจนถึงการนำส่งสินค้าให้กับผู้บริโภคที่ร้าน ซึ่งทางเราใช้ทีมงานออกแบบและพัฒนาระบบของบริษัทฯ เองทั้งหมด ทำให้เราสามารถปรับปรุงและขยายความสามารถและประสิทธิภาพของศูนย์กระจายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องและไม่มีขีดจำกัด นอกจากนี้ เรายังได้ร่วมพัฒนา Packaging กับผู้ผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับการบริหาร Supply Chain สำหรับความพิเศษของศูนย์กระจายสินค้าวังน้อยมี 3 เรื่องหลัก ได้แก่

• ผู้จัดจำหน่ายสามารถจองคิวส่งสินค้าในระบบได้เองอย่างสะดวกสบาย ลดปัญหาการรอคิวเป็นเวลานานๆ
• ระบบจัดเก็บและกระจายสินค้าถูกออกแบบมาเพื่อลดความผิดพลาดและเพิ่มความรวดเร็วของการกระจายสินค้า โดยทุกๆ จุดสัมผัสจะถูกบันทึกและสามารถตรวจสอบได้ (Track and Trace) นอกจากนั้น เรายังได้นำระบบการชั่งสินค้าแทนการนับมาใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของจำนวนสินค้าอีกด้วย
• ระบบ ASRS (Automated Storage Retrieval System) มีส่วนที่ออกแบบมาเป็นพิเศษให้สามารถจัดเก็บและจ่ายสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษได้ยาวสูงสุดถึง 2.40 เมตร รองรับความหลากหลายของสินค้าที่มีอยู่ในร้าน

         ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อยใช้ระบบ ASRS (Automated Storage Retrieval System) ในการบริหารสินค้า  ซึ่งเป็นระบบที่ควบคุมผ่านคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ทำให้เพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และลดต้นทุนในการบริหารจัดการสินค้าทั้ง Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยระบบนี้ทำให้สามารถลดจำนวนการพึ่งพาทรัพยากรมนุษย์ลงเมื่อเทียบกับระบบบริหารคลังแบบทั่วไปได้มากถึง 60% โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะซึ่งกำลังเป็นที่ขาดแคลน ทั้งนี้ ระบบ ASRS (Automated Storage Retrieval System) จะถูกนำไปใช้ในการบริหารสินค้าของร้านโกลบอลเฮ้าส์ซึ่งกำลังจะเปิดสาขาในอาเซียนเร็วๆ นี้อีกด้วย

         อย่างไรก็ดี นายวิทูร กล่าวเพิ่มเติมถึงการเติบโตในปีนี้ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายสุทธิ สำหรับไตรมาส 1/2560 เท่ากับ 5,376.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปี 2559 จำนวน 222.32 ล้านบาท หรือ 4.31% เป็นผลมาจากการเปิดสาขาเพิ่ม 12 สาขา ปัจจุบัน “โกลบอลเฮ้าส์” มีสาขาทั่วประเทศจำนวน 52 สาขา และในเดือนพฤศจิกายนนี้เรากำลังจะเปิดสาขาที่ 53 ที่ จ.พัทลุง ทั้งนี้ ทางบริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาลงในระดับอำเภอเพิ่มขึ้น เช่น จ.ขอนแก่น มี 3 สาขาที่ อ.เมือง , อ.บ้านไผ่ และ อ.ชุมแพ ในขณะที่ จ.สกลนคร มี 2 สาขาที่ อ.เมือง และ อ.พังโคน นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายสาขาไปให้ทั่วอาเซียนอย่างต่อเนื่อง

ขอบคุณข้อมูลจาก https:globalhouse.co.th