แทนที่จะมัวนั่งกุมขมับ เอาแต่พร่ำถามตัวเองซ้ำๆ ว่า ชีวิตนี้จะต้องขึ้นคาน อยู่แบบเหงาๆคนเดียวไปตลอดชาติ สู้ลองจูนความคิดเสียใหม่ ไม่ใช่เพื่อรอใครคนหนึ่งเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจ แต่หันมาใช้ความโสดให้เป็นประโยชน์เพื่อเปิดโอกาสให้ตัวเองได้วิ่งเข้าใกล้ความสำเร็จมากกว่าที่เคย เพราะมีผลงานวิจัยหลายชิ้นที่ชัดแล้วว่า การเป็นโสดมีข้อดีสารพัด แถมยังทำให้คุณขยับเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากกว่าคนมีคู่จริงๆ ทำไมนะหรือ? ไปค้นหาคำตอบกัน

1.มีเวลาเข้าสังคมมากขึ้น

          จากผลการสำรวจของสำนักงานสถิติแรงงานของสหรัฐฯ พบว่า หนุ่มสาวที่ยังครองตัวเป็นโสดจะมีเวลาให้กับครอบครัวและคนรอบข้างมากกว่าคนที่มีครอบครัวแล้ว โดยเฉลี่ยพบว่าหนุ่มสาวโสดใช้เวลาวันละ 12 นาที เพื่อติดต่อกับเพื่อนฝูง และคนรอบข้าง ด้วยการโทรหา อีเมล ขณะที่คนที่แต่งงานแล้วเจียดเวลาเพื่อทำสิ่งนี้ เฉลี่ยเพียงวันละ 7.8 นาที เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น อาจเป็นเพราะคนโสดเลือกชดเชยความเหงา และ ความรู้สึกโดดเดี่ยวด้วยการเข้าสังคมมากขึ้น  ดังจะเห็นได้ว่า ในเมืองที่มีคนโสดเยอะๆ จะนิยมออกมาใช้ชีวิตนอกบ้านในที่สาธารณะค่อนข้างมาก

2.คนโสดมีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น

          ในยุคที่โลกใบเดิมถูกย่อให้แคบลงด้วยปลายนิ้ว ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงถึงกันได้หมด ยิ่งทำให้เห็นข้อดีของการเป็นโสด เพราะนั่นหมายความว่าคุณจะได้มีเวลาอยู่กับตัวเองมากขึ้น  เพื่อค้นหาตัวเองว่าคุณเป็นใครและอะไรจะทำให้ชีวิตของคุณมีความหมายและมีเป้าหมายมากขึ้น และยังเปิดโอกาสให้คุณได้ค้นพบอิสรภาพ การควบคุมตัวเอง และการรู้จักตัวเองอีกด้วย

3.คนโสดมักใช้เวลาไปกับการทำกิจกรรมยามว่าง

          จากการวิจัยพบว่า คนโสดใช้เวลา 5.56 ชั่วโมงต่อวันเพื่อทำกิจกรรมยามว่าง ขณะที่คนที่แต่งงานแล้วแบ่งเวลาให้กับการทำกิจกรรมยามว่างเพียง 4.87 ชั่วโมงต่อวัน  และถ้าลงลึกไปกว่านั้น จะพบว่า คนโสดใช้เวลา เพื่อเล่นกีฬา ออกกำลังกาย สันทนาการ มากกว่าคนที่มีเจ้าของแล้ว 3 นาทีต่อวันโดยเฉลี่ย และยังใช้เวลาดูโทรทัศน์มากกว่าคนแต่งงานแล้ว 16 นาทีต่อวัน รวมทั้งแบ่งเวลามาเล่นเกมออนไลน์หรือใช้คอมพิวเตอร์เพื่อผ่อนคลายมากกว่าคนแต่งงานแล้ว 15 นาทีต่อวัน

4.คนโสดมีโอกาสเป็นหนี้น้อยกว่า

          เมื่อคนสองคนตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน นั่นหมายความว่า คุณกำลังเอาอนาคตของคุณมาหลอมรวมกันด้วย บรรณาธิการด้านการเงินของ Business insider เคยบอกว่าการแต่งงานนอกจากสร้างพันธะทางใจแล้ว ยังรวมถึงพันธะทางการเงินที่แยกกันไม่ออกด้วย หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดใช้เงินผิดพลาดจนเป็นหนี้ นั่นหมายความว่าอีกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ ตลอดจนเมื่อมีกรณีที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลฟ้องร้องเกี่ยวกับเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกฝ่ายก็ต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งด้วย

5.คนโสดมีโอกาสหาเงินได้มากกว่า

          จากผลการศึกษาของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย และ นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยอเมริกัน พบว่า ผู้หญิงตอนที่ยังครองตัวเป็นโสดมีแนวโน้มจะได้เงินเดือนมากกว่า ตอนที่เปลี่ยนสถานะเป็นแต่งงานแล้ว น่าเสียดายที่ในรายงานชิ้นนี้ไม่ได้บอกเหตุผลว่าทำไมจึงค้นพบเช่นนั้น เพียงแต่เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า  ผู้หญิงโสดอายุระหว่าง 28-30 ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว 1,349 เหรียญสหรัฐ ขณะที่ผู้หญิงโสดอายุระหว่าง 44-46 ปี มีรายได้เฉลี่ยต่อปีมากกว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว 1,465 เหรียญสหรัฐ

6.คนโสดมีแนวโน้มจะออกกำลังกายมากกว่า

          มีผลการศึกษาหลายชิ้นที่ชี้ชัดว่า การเป็นโสดมีผลต่อสุขภาพอย่างมีนัย นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ พบว่า ชายและหญิงที่มีอายุระหว่าง 18-64 ปีและยังครองตัวเป็นโสดแนวโน้มในการใช้เวลาเพื่อออกกำลังกายในแต่ละสัปดาห์มากกว่าคนที่เคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว ไม่ว่าจะยังครองคู่ หรือ หย่าแล้วก็ตาม ขณะที่งานวิจัยอีกชิ้นพบว่า หนุ่มโสดมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวน้อยกว่าคนที่แต่งงานแล้ว 25%

ขอบคุณที่มา www.businessinsider.com