ในปัจจุบันซึ่งโลกอยู่ในยุคของโลกาภิวัตน์ การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ของคนนั้นสามารถทำได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว หน้าตาหรือภาพลักษณ์ของประเทศจึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดึงดูดความสนใจของชาวต่างชาติให้เข้ามาท่องเที่ยวหรือลงทุนในประเทศของเรา การจัดอันดับโลกของประเทศจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยสร้างภาพลักษณ์หรือแสดงข้อมูลที่ถูกต้องให้กับผู้ที่สนใจได้

ด้านวัฒนธรรม

จากผลการสำรวจของ เว็บไซต์ ยูเอสนิวส์ แอนด์เวิลด์รีพอร์ต ในการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุด ซึ่งมีทั้งหมด 60 ประเทศ  ประเทศไทย ติดอันดับที่ 21 จาก 60 อันดับ โดยให้เหตุผลว่าประเทศไทยเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้เคยตกเป็นอาณานิคมของยุโรป มีภาคการเกษตรที่สำคัญและอุตสาหกรรมการผลิตที่แข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังเป็นผู้นำด้านสิ่งทอ ดีบุกและอิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งรอยยิ้ม มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายโดยเฉพาะชายหาดที่สวยงาม  สุดท้ายคือความมีเอกลักษณ์ด้านวัฒนธรรมอย่างการนวดแผนไทยที่มีชื่อเสียง และอาหารไทยซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายด้านความสมดุลของรสชาติ 

ด้านการท่องเที่ยว

            ข้อมูลอ้างอิงจากนิตยสารท่องเที่ยว คอนเด นาสต์ ทราเวลเลอร์ ของอังกฤษ ประเทศไทยติดอันดับ 8 ของประเทศที่น่าท่องเที่ยวที่สุดประจำปี 2017 เมื่อเปรียบเทียบกับอีกหลายประเทศทั่วโลก โดยขยับขึ้นมาจากอันดับที่ 9 ในปี 2016 และเมื่อเทียบกับเฉพาะประเทศในเอเชีย ประเทศไทยถือเป็นอันดับ 1 โดดเด่นกว่าอีกหลาย ๆ ประเทศเช่น อินเดีย ญี่ปุ่น โดยสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เกาะสมุย ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายในเกาะได้รับการพัฒนาอย่างมากในช่วงที่ผ่านมาโดยเฉพาะด้านความสะดวกสบาย เห็นได้จากการมีรีสอร์ทและร้านอาหารชื่อดังจำนวนมาก จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดทั้งสำหรับครอบครัวและคู่แต่งงานใหม่ โดยจุดเด่นอยู่ที่ชายหาดซึ่งมีความสวยงาม อีกทั้งการบริการสปาและโยคะบนเกาะก็ค่อนข้างมีคุณภาพอยู่ในระดับสูง

แต่ที่ยังน่าเป็นห่วงคือเรื่องอันดับความปลอดภัยของประเทศซึ่งประเทศไทยยังอยู่ในอันดับที่ไม่ค่อยดี โดยจากข้อมูลของสถาบันเศรษฐศาสตร์และสันติภาพ ซึ่งได้ทำการจัดอันดับประเทศที่ปลอดภัยที่สุดในโลกจากประเทศทั้งหมด 162 ประเทศ โดยพิจารณาระดับความปลอดภัยจาก อัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ, ระดับอาชญากรรมรุนแรง, จำนวนประชากรคุก, การรักษาความปลอดภัยในสังคม, ไม่มีภัยพิบัติทางธรรมชาติ, การทุจริตคอรัปชั่นน้อย และการแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 126 จากประเทศทั้งหมด ซึ่งถือว่าอยู่ในโซนที่มีความปลอดภัยต่ำ ถ้าหากสามารถแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ได้สถานการณ์การท่องเที่ยวของไทยน่าจะยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม เพราะในปัจจุบันตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาตินั้นก็มีการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเพิ่มขึ้นจากประมาณ 15 ล้านคนในปี 2010 มาถึงประมาณ 30 ล้านคน ในปี 2015

ด้านเศรษฐกิจ

            จากการจัดอันดับของ World Economic Forum ในช่วงปี 2017 ประเทศไทยถูกจัดเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการแข่งขันอยู่ในอันดับที่ 32 จากทั้งหมด 137 ประเทศ โดยสูงขึ้นจากอันดับ 34 ในการจัดอันดับครั้งก่อน โดยไทยมีคะแนนดีขึ้นในหลายหมวด โดยเฉพาะภาวะเศรษฐกิจมหภาคและโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังน่าเป็นห่วงในเรื่องของสาธารณสุขและการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายงานนี้ช่วยสะท้อนภาพรวมด้านโครงสร้างสังคมของประเทศไทย รวมถึงภาคส่วนที่ต้องเร่งพัฒนาให้ก้าวทันประเทศอื่น ๆ

            ข้อมูลจากอีกหนึ่งรายงานที่สำคัญคือ รายงาน Doing Business เล่มล่าสุดของกลุ่มธนาคารโลก ซึ่งได้จัดให้ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 26 จากทั้งหมด 190 ประเทศทั่วโลกในเรื่องความสะดวกในการประกอบธุรกิจสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จากปีก่อนซึ่งอยู่ในอันดับที่ 48 ถือเป็นการก้าวหน้าด้านอันดับที่ค่อนข้างมากภายในแค่หนึ่งปี นอกจากนี้ประเทศไทยยังถูกจัดเป็น 1 ใน 10 ประเทศที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เกิดความสะดวกในการประกอบธุรกิจมากที่สุดในปีที่ผ่านมา โดยเห็นได้ชัดจากตัวอย่างเช่น การยกเลิกข้อบังคับที่ต้องมีตราประทับของบริษัท และยกเลิกขั้นตอนการขออนุมัติจากกรมแรงงานในการส่งกฏข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของบริษัท ดังนั้นการเริ่มต้นธุรกิจจึงใช้เวลาดำเนินงานเพียง 4.5 วัน เปรียบเทียบกับจากเดิม 27.5 วันในปีก่อน

อันดับที่ดีขึ้นเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมความน่าดึงดูดด้านการลงทุนในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น เพราะจะช่วยเพิ่มความมั่นใจด้านประสิทธิภาพการเติบโตของธุรกิจในประเทศให้กับนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งประกอบกับการที่ในช่วงไตรมาสสามที่ผ่านมา ตัวเลข GDP ของประเทศไทยที่มีการประกาศออกมานั้นค่อนข้างสูงกว่าการคาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้นถึง 4.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า ส่งผลให้เกิดการปรับการคาดการณ์ตัวเลข GDP รายปี 2017 และการณ์คาดการณ์ GDP ปี 2018 เพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่ค่อนข้างชัดเจน สิ่งเหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความมั่นใจและกระตุ้นให้เกิดการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มมากขึ้น

บทความโดย : TerraBKK เคล็ดลับการลงทุน

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก