โรจนะเซ็น MOU ขายที่ดิน 300 ไร่กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ธุรกิจยานยนต์และโดรนจากจีน แจงยอดรับรู้รายได้ขายที่ดินบริษัทย่อย มูลค่ากว่า 1,200 ล้านส่งผลประกอบการปีนี้เกินเป้า
โรจนะคาดปีหน้าอนาคตสดใส เซ็น MOU ขายที่ดินกว่า 300 ไร่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา ให้กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมยานยนต์-โดรนจากจีน เผยผลประกอบการปีนี้เกินเป้า ส่วนหนึ่งมียอดรับรู้รายได้ไตรมาส 4 จากการขายที่ดินของบริษัทย่อย มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท ชมนโยบายรัฐฟื้นญี่ปุ่นลงทุนไทย ยิ้มรับอานิสงส์จากแผนพัฒนาเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก
นายจิระพงษ์ วินิชบุตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJNA เปิดเผยว่า จากภาพรวมภาวะเศรษฐกิจและการลงทุนในปีหน้ามีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยในส่วนของบริษัทฯมีแนวโน้มที่สดใสเช่นกัน บริษัทฯ มีการเซ็น MOU ขายที่ดินกว่า 300 ไร่ ที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา ให้กับ PROJEN GROUP กลุ่มทุนรายใหญ่จากประเทศจีน ซึ่งประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์, โดรน ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ต้าหลี่ ส่วนผลประกอบการในปีนี้คาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่กำหนด ด้วยผลประกอบการ 9 เดือนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ และสำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 จะมีการรับรู้รายได้จากการขายที่ดินบริเวณซอยสุขุมวิท 66 ของบริษัท โรจนะ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เนื้อที่รวม 4-2-32 ไร่ คิดเป็นมูลค่ารวมสูงกว่า 1,200 ล้านบาท
“ที่ดินบริเวณซอยสุขุมวิท 66 ของบริษัทย่อย เป็นการเข้าไปซื้อที่ดินพร้อมงานฐานราก ซึ่งเราซื้อมานานก่อนที่จะมีโครงการรถไฟฟ้าผ่าน ปัจจุบันโครงการรถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดดำเนินการแล้ว ส่งผลให้ที่ดินบริเวณนั้นมีมูลค่าสูงขึ้น เราจึงขายที่ดินได้ในราคาที่น่าพอใจมากๆ”
นายจิระพงษ์กล่าวต่อไปว่า จากการที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมภาคการลงทุนอย่างจริงจัง ทำให้ภาพรวมของภาวะการลงทุนจากต่างประเทศเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่นซึ่งมีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยมายาวนานถึง 130 ปี และเป็นประเทศที่ครองแชมป์ลงทุนในไทยมากที่สุด แต่ได้ชะลอการลงทุนในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้นั้น ในปีนี้เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่นรวมถึงประเทศอื่น ยังคงให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในไทย เนื่องจากองค์ประกอบหลายส่วน ทั้งความพร้อมทางสาธารณูปโภคสาธารณูปการ มาตรการที่เอื้ออำนวยจากนโยบายส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากนั้นการที่รัฐบาลปัจจุบันมีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก ส่งผลให้มีมาตรการด้านต่างๆ รวมถึงการวางแผนและระยะเวลาในการจัดสาธารณูปโภคสาธารณูปการเข้าไปรองรับอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อโครงการสวนอุตสาหกรรมของบริษัท ที่มีหลายแห่งในโซนพื้นที่ดังกล่าวพลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วย ได้แก่ โครงการ แหลมฉบัง, บ่อวิน, ปลวกแดง, บ้านค่าย และ ปราจีนบุรี
ขอบคุณข้อมูลจาก rojna-th.listedcompany