นายอธิป พีชานนท์ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร เปิดเผยภายในงานสัมมนาใหญ่ประจำปี 2561 “อสังหาริมทรัพย์ ดัชนีหลักชี้เศรษฐกิจปี 2018” ว่า ภาพรวมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2561 นี้เชื่อว่าน่าจะดีกว่าในปี 2560 ที่ผ่านมา และจะมีการเติบโตมากกว่าจีดีพี ซึ่งในปีนี้คาดว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวได้ที่ประมาณ 4% และคาดว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตได้มากกว่า 5-10% จากปีที่ผ่านมาที่มีอัตราการเติบโตที่ 5% โดยมีปัจจัยบวกจากการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะในโครงการเมกะโปรเจค การลงทุนในส่วนต่อขยายตามแนวรถไฟฟ้าสายต่างๆ จึงเป็นปัจจัยที่จะสนับสนุนให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง

        อย่างไรก็ตามในปีนี้ยังมีปัจจัยลบจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้น ธนาคารพาณิชย์มีความเข้มงวดในการอนุมัติขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย ส่วนกำลังซื้อในต่างจังหวัด ยังไม่ฟื้นตัวเนื่องจากสินค้าเกษตรยังอยู่ในระดับต่ำ ขณะที่กฏหมายเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ร.บ.อาคาคชุด พ.ร.บ.จัดซื้อจะมีผลกระทบต่ออสังหาริมทรัพย์ที่จะมีผลต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และถ้ามีผลกระทบจะส่งผลกระทบต่อจีดีพีที่ประมาณ 12% ซึ่งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์คิดเป็น 12% ต่อจีดีพี ในส่วนของแรงงานนั้นมองว่าปัจจุบันอสังหาริมทรัพย์มีการใช้แรงงานมากประมาณ 2 ล้านคน วัสดุก่อสร้างใช้ภายในประเทศเป็นหลัก

        นายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของไทยในปีนี้จะขยายตัวที่ประมาณ 4.1% จากปีที่ผ่านมาขยายตัว 3.9% ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้จะมีการเติบโตได้ที่ประมาณ 5% ส่วนภาคการส่งออกในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี การลงทุนภาครัฐมีอัตราการเร่งเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง ส่วนการลงทุนภาคเอกชน มีการขยายตัวได้ดี การท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาคครัวอยู่ในเกณฑ์ดี และฐานรายได้ของประชาชนมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สินค้าและราคาเกษตรมีการปรับตัวได้ดียิ่งขึ้น

        ด้านนายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหาภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาดีกว่าในปีนี้เชื่อว่าจะมีการขยายตัวอยู่ที่ประมาณ 5-6% โดยมีปัจจัยจากการลงทุนภาครัฐที่ยังเป็นตัวสนับสนุน ส่วนปัจจัยลบมองว่าจะมาจากอัตราการปฏิเสธสินเชื่อยังคงสูงแต่เริ่มทยอยลดลง และจะเห็นการปล่อยสินเชื่อจะเพิ่มมากขึ้น สำหรับระดับราคาที่ดินในปัจจุบันมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาก ส่วนค่าแรงที่มีการปรับตัวขึ้น มองว่าจะส่งผลต่อต้นทุนการก่อสร้างและระดับราคาขยายอสังหาริมทรัพย์

        นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเติบโต 5% จากปีที่ผ่านมาเติบโต 2.5% โดยมีปัจจัยจาก เศรษฐกิจฟื้นตัว ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 4.2% เปรีบเทียบกับปีที่ผ่านมาโตที่ 4% ส่วนอัตราการปฏิเสธสินเชื่อมีแนวโน้มลดลงที่ประมาณ 30% จากปีก่อนหน้านี้อยู่ 40% ส่วนสินค้าคงเหลือจะเป็นสินค้าระดับราคาต่ำกว่า 1.5 ล้านบาท การขยายตัวของรถไฟฟ้าสายต่างๆ รวมไปถึงการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

        “ตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่มีอัตรากาเติบโต 5% มองว่าตลาดระดับกลาง บน ยังเติบโตได้ดี โดยเฉพาะที่อยู่อาศัยที่ติดเส้นทางรถไฟฟ้า ทำเล กทมฦ-ปริมณฑล ในส่วนของที่อยู่อาศัยประเภทแนวราบยังมีอัตราการขายได้ดี เนื่องจากอยู่ในกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ส่วนตลาดระดับล่างยังไม่ฟื้นตัว โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่”นายเบญจรงค์ กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.housingbiz.org/index.htm