ใครจะโทษว่าเด็กยุคมิลเนเนียลหรือเจนวายไม่เอาไหน หนักไม่เอาเบาไม่สู้ก็ช่าง หรือ จะบอกว่าเป็นเพราะการคืบคลานเข้ามาของเทคโนโลยีที่ Disrupt เข้ามาทดแทนแรงงานมนุษย์ได้อย่างน่าใจหายก็ช่าง แต่สำหรับ แจ๊ค หม่า มหาเศรษฐีจากแดนมังกร ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของจีน กลับโจมตีว่า วายร้ายสำคัญที่ทำให้คนเจนวายต้องนั่งเศร้า น้ำตาตกในเพราะหางานไม่ได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะระบบการศึกษาในโลกปัจจุบันที่ยังคงผลิตบัณฑิตจบใหม่ให้ทำงานแข่งกับเครื่องจักรที่มีความแม่นยำเป็นอาวุธ และ หากในอีก 30 ปีข้างหน้า ระบบการศึกษายังย่ำอยู่กับที่เช่นนี้ แรงงานทั้งหลายก็เตรียมวิจัยฝุ่นได้เลย

            บนเวที Bloomberg Global Business Forum ที่มหานครนิวยอร์ก แจ๊ค หม่า ได้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ให้วงการศึกษาทั่วโลก ด้วยการทลายกรอบความเชื่อแบบเก่าๆ ตั้งแต่เมื่อ 200 ปีก่อนว่า อุตสาหกรรมเป็นสิ่งที่สร้างงานสร้างอาชีพ พร้อมปลุกให้สังคมตื่นจากฝันว่า โลกทุกวันนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว  อุตสาหกรรมไม่ใช่แหล่งสร้างอาชีพอีกต่อไป เพราะไม่เพียงปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์เริ่มเข้ามามีบทบาทในระบบอุตสาหกรรมมากขึ้น แต่ธุรกิจขนาดเล็กแค่มีอินเทอร์เน็ตหรือโซเชียลเน็ตเวิร์กก็สามารถสร้างการเติบโตให้ธุรกิจได้ในสเกลเทียบเท่าบริษัทใหญ่ได้แล้ว

            “นับจากนี้ เมื่อพูดถึงการผลิต คำว่าผลิตในสหรัฐฯ หรือผลิตในจีน จะกลายเป็นอดีต เพราะการผลิตสมัยใหม่จะทำกันในอินเตอร์เน็ต (Made in Internet)”

            เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่แจ๊ค หม่ามองว่าน่าวิตกเหลือเกิน และจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของเด็กยุคนี้ที่จะเป็นแรงงานสำคัญในวันหน้า คือ ขาดระบบการศึกษาที่พร้อมสร้างเด็กรุ่นใหม่ให้รองรับกับตลาดแรงงานในอนาคต

            “ระบบการศึกษาในขณะนี้ จะทำให้เด็กตกงานในอีก 30 ปีข้างหน้า เพราะมนุษย์ไม่มีทางเอาชนะเครื่องจักรได้ เปรียบเทียบง่ายๆ อย่างเรื่องการคิดคำนวณ สุดท้ายแล้วเครื่องจักรก็ทำได้ดีกว่า เพราะฉะนั้นในเมื่อเราไม่สามารถสอนลูกๆ ให้แข่งกับสมองกลที่ฉลาดกว่าเราได้ เราต้องสอนลูกๆ ให้ทำอะไรที่ไม่ซ้ำแบบใคร สอนให้เด็กรุ่นใหม่ มีความคิดสร้างสรรค์ คิดในเชิงนวัตกรรมให้มากๆ”

           

อย่างไรก็ตาม แม้การปรากฏตัวและเติบโตของเหล่าปัญญาประดิษฐ์จะสร้างความหวั่นเกรงไม่น้อย แต่ แจ๊ค หม่า ยังยืนหยัดอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงและเฝ้ามองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในแง่ดี

            “จริงอยู่ที่เครื่องจักรหรือเทคโนโลยีจะเข้ามาทำลายอาชีพมากมายให้ล้มหายตายจาก แต่ก็ได้สร้างอาชีพใหม่ขึ้นมาเช่นกัน คำถามคือ เราพร้อมและมีคุณสมบัติพร้อมสำหรับงานเหล่านั้นหรือไม่”

            ได้เห็น แจ๊ค หม่า ออกตัวแรงอัดระบบการศึกษาเข้าอย่างจังจนแทบน็อคกลางอากาศแบบนี้ หลายคนอาจได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจว่า ในสภาพการณ์แบบนี้ แจ๊ค หม่า ในวันนี้สวมบทคุณพ่อเช่นกัน มีวิธีสอนลูกยังไง

            ในระหว่างเดินทางไปร่วมการประชุมเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) ที่จัดขึ้น ณ เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แจ๊คหม่าได้แชร์ไอเดียการเลี้ยงลูกไว้อย่างน่าสนใจ จนกลายเป็นไวรัลคลิปที่แชร์สนั่นในประเทศจีน งานนี้ฟังแล้วอาจจะขัดใจคุณพ่อคุณแม่สายเนิร์ดไปบ้าง แต่รับรองโดนใจคุณพ่อคุณแม่สายชิลล์แน่นอน เพราะ สิ่งที่เขาสอนลูก ไม่ใช่ให้ก้มหน้าก้มตาเอาแต่เรียน แต่ให้หาเวลามาทำอย่างอื่นบ้าง”

            “ผมเองเติบโตมาในครอบครัวที่ยากจน ไม่ได้รับการศึกษาที่ดีอะไรมากมาย แถมยังสอบตกก็หลายหน โดยที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญที่ผมมีคือ ความสามารถในการคาดคะเนอนาคต หลักการง่ายๆ ของผมคือ ผมมักจะมองภาพอนาคตในอีก 10 ปีข้างหน้าว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเห็นภาพแล้ว แค่ทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายนั้น ผมมักจะสอนลูกชายเสมอว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กเรียนเก่ง ติดท็อปทรีของห้อง แค่เรียนอยู่ในระดับกลางๆ ก็พอ ตราบเท่าที่เกรดไม่ได้แย่จนเกินไปนัก เพราะมีแต่เด็กที่เป็นชนชั้นกลางของห้องเท่านั้นที่จะมีโอกาสและเวลามากพอที่จะได้เรียนรู้ทักษะอื่นๆ“

            แล้วคุณล่ะ? เห็นด้วยกับแจ๊ค หม่าหรือไม่

บทความโดย : TerraBKK คลังความรู้

TerraBKK ค้นหาบ้านดี คุ้มค่า ราคาถูก

ขอบคุณที่มา : https://nextshark.com และ http://money.cnn.com