เป็น สตาร์ทอัพ ใครว่าชิล? รู้กิจวัตรพวกเขาแล้วจะอึ้งๆ

หนึ่งในสุดยอดความปรารถนาของมนุษย์เดินดินกินเงินเดือน คือ ถ้าไม่หวังว่าจะเติบโตในอาชีพการงาน ก็หวังว่าจะมีเงินเก็บสักก้อนเพื่อสร้างธุรกิจของตัวเอง ยิ่งยุคนี้ "สตาร์ทอัพ" กลายเป็นอาชีพยอดฮิตที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝัน ทว่าเบื้องหลังหน้าฉากที่สวยงาม มีสเตตัสซีอีโอ ไม่มีคำว่าบังเอิญ หรือโชคช่วย มีแต่คำว่าทุ่มเทและพยายามเป็นพลังขับเคลื่อน

ถ้าถามว่าต้องจัดเต็มขนาดไหน เอาเป็นว่าลองตามไปส่องกิจประจำวันของสตาร์ทอัพก็จะพบคำตอบแล้วว่าแตกต่างจากคนธรรมดาขนาดไหน

1.เวลางานเริ่มตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ สำหรับเหล่าสตาร์ทอัพ พวกเขาเลือกใช้เวลาดังกล่าวเตรียมความพร้อม จัดตารางงานให้ตัวเองพร้อมพิชิตเป้าหมายเล็กๆ ที่วางไว้ เพื่อให้มั่นใจว่า เวลาในแต่ละวันถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อธุรกิจที่มีอนาคตเป็นเดิมพันมากที่สุด

2.ติดตามงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะบทบาทซีอีโอที่หนักอึ้งบนสองบ่า ไม่เปิดโอกาสให้คุณสวมบทวันแมนโชว์ได้อีกต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณต้องรู้จักจัดสรรหน้าที่ในแผนกต่างๆ แล้วแบ่งเวลาในแต่ละวัน เพื่อติดตามผลงานจากสิ่งที่คุณกระจายความรับผิดชอบออกไป เพื่อให้มั่นใจว่าภาพใหญ่ที่คุณต้องการจะเกิดขึ้นได้จริง

3.สะสางงานที่หินสุดๆในช่วงเช้า ซีอีโอส่วนใหญ่ล้วนกดไลค์ให้กับกิจวัตรนี้ พวกเขาเลือกที่จะทุ่มเทสมอง และกำลังทั้งหมดที่มีเพื่อจัดการกับการวางแผนกลยุทธ์สำคัญ หรือ งานที่หินๆก่อนในช่วงเช้า และปล่อยเวลาช่วงบ่ายให้กับการประชุมต่างๆ ทั้งนี้นอกจากจะเป็นการใช้ศักยภาพของสมองตอนเช้าที่ยังปลอดโปร่งให้เต็มที่ ยังทำให้มั่นใจว่า คุณสามารถสะสางงานต่างๆ ตามที่ตั้งใจไว้ทั้งหมด

4.แบ่งเวลาให้ครอบครัวและการสังสรรค์ ต่อให้ธุรกิจตรงหน้าจะสำคัญกับอนาคต และ จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ขนาดไหน แต่สิ่งที่เหล่าสตาร์ทอัพต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่าขาดไม่ได้ ต้องบาลานซ์ชีวิตให้เป็น แบ่งเวลา 24 ชั่วโมงที่ทุกคนมีเท่ากันให้กับตัวเอง ครอบครัว และเพื่อนฝูง ข้อดีของกิจวัตรนี้คือ นอกจากจะทำให้ชีวิตยังสมดุล ยังเป็นการเปิดโอกาสให้คุณได้ผ่อนคลาย และพร้อมจะกลับมาลุยกับงานตรงหน้า

5.มอบเดทไลน์แสนโหดให้กับตัวเองในทุกวัน เพื่อกระตุ้นให้การทำงานของคุณในแต่ละวันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เดทไลน์มหาโหดที่ดูเหมือนยากจะทำให้สำเร็จ คือ สิ่งจำเป็น และคู่ควรกับซีอีโอไฟแรงอย่างคุณ แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองทำงานแบบไร้ปลายทาง ลองกำหนดเส้นตายที่คุณต้องไปให้ถึงในแต่ละวันดู แล้วจะรู้ว่า ทุกเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชน

6.พูดคำว่า “ขอบคุณ” ให้ติดปาก ต่อให้สเตตัสในวันนี้ จะเปลี่ยนจากพนักงาน สู่ตำแหน่งซีอีโอ แต่ คำว่า “ขอบคุณ” ยังเป็นของจำเป็นที่ต้องมีไว้ติดตัว

7.ตื่นเช้าเป็นนิจ หนึ่งในคุณสมบัติที่การันตีถึงความสำเร็จของเหล่าสตาร์ทอัพคือ ชอบตื่นเช้า เพราะช่วงเช้าเป็นเวลาที่สมองปลอดโปร่ง ยังไม่ถูกบั่นทอนศักยภาพโดยความเครียด หรือ เรื่องราวรกสมอง ทำให้สามารถโฟกัสกับเป้าหมายหรือภารกิจตรงหน้าได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม ใครที่ไม่ได้มีนิสัยตื่นเช้าติดตัวมาตั้งแต่เกิด ไม่จำเป็นต้องสิ้นหวัง แค่เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการปรับนาฬิกาชีวิต ตื่นให้เร็วขึ้นเพียงสัปดาห์ละ 15 นาที ทำไปเรื่อยๆ ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ คุณจะพบว่าตัวเองมีเวลาในแต่ละวันเพิ่มขึ้นถึง 2 ชั่วโมง