ถึงคราวต้องเด็ดขาด ตัดลูปวงจรขี้เกียจ เลิกนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง!

อะไรเอ่ย ไม่อยากมีติดตัว แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครหนีพ้น?

คำตอบก็คือ สิ่งเล็กๆ ที่เรียกว่า “ความขี้เกียจ”

ต่อให้คุณจะเถียงคอเป็นเอนว่าเป็นสายขยัน ทำงานไม่เคยบ่น ส่งงานไม่เคยเกินเดทไลน์ แต่เชื่อเถอะว่า คนเราทุกคนย่อมมีความขี้เกียจซุกซ่อนอยู่ในตัว ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะใจอ่อนเปิดโอกาสให้เจ้าตัวขี้เกียจได้แผลงฤทธิ์มากน้อยแค่ไหน

         อย่างไรก็ตาม ในขณะที่หลายคนตีตราว่า “ความขี้เกียจ” เป็นวายร้ายที่ต้องสลัดให้พ้นตัว นิสัยชอบผัดวันประกันพรุ่ง คือ สิ่งที่ต้องลด ละ เลิกให้ได้ ถ้าอยากประสบความสำเร็จ แต่หลายครั้งพอจะลงมือทำจริงกลับแสนยาก เพราะฉะนั้นสำหรับใครที่อยากกำราบความขี้เกียจ พอกันทีกับบาดแผลที่ได้รับจากการผัดวันประกันพรุ่ง ลองทำตาม 6 วิธีนี้ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริง

1.ตอบตัวเองให้ได้ว่า “ทำไมเป็นคนแบบนี้” ความขี้เกียจไม่ได้เกิดขึ้นอย่างไร้เหตุผล บางครั้งตัวการที่ทำให้คุณเลือกที่จะผัดวันประกันพรุ่ง บอกตัวเองว่าเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวค่อยทำ อาจเป็นความในใจที่ร่างกายกำลังอยากบอก แต่คุณไม่เคยยอมฟัง เพราะฉะนั้นแทนที่จะปล่อยให้วงจรความขี้เกียจทำงาน คุณต้องคุยกับตัวเองให้เคลียร์ว่า สาเหตุที่ทำให้คุณเลือกพักแทนที่จะลุยงานให้จบคืออะไร ต่อให้จะเป็นเหตุผลง่ายๆ อย่างหิวข้าว อยากพักสมอง หรือ ปัญหาใหญ่อย่างเบื่องาน ไม่ชอบเพื่อนร่วมงาน คุณก็จะได้รู้และจัดการกับต้นเหตุของปัญหาอย่างตรงจุด

2.กำจัดจุดอ่อน ว่ากันว่ารู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง เพราะฉะนั้นก่อนจะเริ่มต้นลงมือทำอะไรสักอย่างงาน ลองสวมบทแม่หมอพยากรณ์อนาคตดูซิว่า อะไรคืออุปสรรคที่จะขวางทางคุณทำให้งานชิ้นนี้ไม่สำเร็จ และหาทางกำจัดจุดอ่อนนั้นออกไป

3.ไม่ลองไม่รู้ ไม่ลุยไม่สำเร็จ เพราะก้าวแรกอยากเสมอต่อให้สิ่งที่กำลังทำจะเป็นสิ่งที่รัก ดังนั้น ถ้าจะอัพเลเวลตัวเองไปอีกขั้น ต้องเอาชนะใจตัวเอง ก้าวข้ามความรู้สึกที่บั่นทอนกำลังใจแล้วเริ่มต้นก้าวแรกให้ได้

4.หั่นเป้าหมายให้เป็นชิ้นเล็กๆ หนึ่งในตัวการสำคัญที่ทำให้คนเราขี้เกียจ หรือ เลือกที่จะผัดวันประกันพรุ่ง เกิดจากภาพในใจที่จินตนาการไปไกลว่า ภารกิจตรงหน้าใหญ่หลวง ราวกับยกภูเขามาทั้งลูก เพียงแค่เห็นยังไม่ทันลงมือก็ท้อแล้ว เพราะฉะนั้น เพื่อให้กำลังใจตัวเองบรรลุเป้าหมายไปได้ ลองใช้ทฤษฎีเดียวกับการกินอาหารจานโปรด ด้วยการหั่นอาหารตรงหน้าเป็นชิ้นเล็กๆพอดีคำ แล้วค่อยๆดื่มด่ำกับรสชาตินั้นจนหลายครั้งเผลอกินหมดจานไม่รู้ตัว

5.ขยี้ความคิดแย่ๆ ให้เละ เชื่อหรือไม่ว่า การบอกตัวเองซ้ำๆ ว่าจะไม่ขี้เกียจ หรือ เลิกผัดวันประกันพรุ่ง ไม่ต่างกับการตั้งโปรแกรมหรือร่ายมนต์ให้ตัวเองไม่ทำสิ่งนั้นได้จริง เพราะฉะนั้น แทนที่จะเอาแต่ตำหนิตัวเองว่าเป็นจอมขี้เกียจ ลองเปลี่ยนวิธีพูดกับตัวเองว่า ฉันจะไม่ขี้เกียจ ไม่ผัดวันประกันพรุ่งดู คุณอาจพบคุณคนใหม่โดยไม่รู้ตัว

6.ไม่ต้องดีที่สุดเสมอไปก็ได้ ความสมบูรณ์แบบที่ใครๆ ก็ใฝ่ฝันนั้น แท้จริงแล้วไม่มีอยู่จริง เพราะฉะนั้นแทนที่จะทำให้ตัวเองรู้สึกท้อเมื่อคิดจะสร้างผลงานที่ไร้ที่ติ สู้ทำทุกผลงานอย่างดีที่สุดแล้วก้าวไปข้างหน้าดีกว่าอย่างไม่ถอยดีกว่า

7.ใช้กฎ 2 นาทีเปลี่ยนคำว่า “เดี๋ยว” เป็น “เดี๋ยวนี้” กฎ 2 นาทีของ David Allen ผู้เขียนหนังสือ Getting Things Done ยังคลาสสิคและเป็นได้รับความนิยม เพราะทำได้ง่าย และเห็นผลชัดเจน หลักการง่ายๆ ของกฎ 2 นาที คือ ถ้างานไหนที่สะสางได้โดยใช้เวลาไม่เกิน 2 นาที ให้ทำทันที อย่าสะสมไว้ เพราะบางครั้งคำว่า เดี๋ยวก่อน อาจทำให้งานที่ใช้เวลาไม่ถึง 2 นาทีกลายเป็นต้องใช้เวลา 20 นาที หรือ 2 ชั่วโมง