ค่าใช้จ่ายที่มักจะตามมาหลังจากซื้อรถ ที่ยากจะหลีกเลี่ยง

        การซื้อรถยนต์ส่วนตัวสักคันหนึ่งนั้น ถือได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงเลยทีเดียว แต่ก็ยังดีที่เรานั้นสามารถค่อยๆ ผ่อนจ่ายได้ ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับประโยชน์ใช้สอยทั้งในด้านของการทำงาน และ ชีวิตส่วนตัวของเราแล้ว ถือว่าคุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยครับ จึงไม่แปลกที่คนทำงานในยุคนี้จะตัดสินใจซื้อรถส่วนตัวไว้สักคันเพื่อใช้งาน แต่ว่าช้าก่อน หากใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อรถก็ขอให้รู้ก่อนว่า หลังจากที่เราซื้อรถมาแล้วเราจะมีค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับรถเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย ซึ่งในส่วนนี้เราควรเตรียมพร้อมให้ดี ไม่เช่นนั้น สภาพการเงินของเราอาจจะแย่ลงได้ง่ายๆ และวันนี้ MoneyGuru.co.th ก็มีเรื่องของ ค่าใช้จ่าย ที่มักจะตามมาหลังจากซื้อรถ ที่ยากจะหลีกเลี่ยง มาฝากพวกเราที่กำลังวางแผนจะซื้อรถกัน เพื่อที่จะได้หาทางรับมือกับค่าใช้จ่ายเหล่านี้กัน ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

        ค่าใช้จ่ายที่มักจะตามมาหลังจากซื้อรถ ที่ยากจะหลีกเลี่ยง

        1.ค่าน้ำมันรถหรือค่าแก๊ส

        ค่าน้ำมันรถหรือค่าแก๊ส ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่จะตามมาหลังจากเราซื้อรถอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งนอกจากจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ยังถือเป็นค่าใช้จ่ายประจำที่เราต้องจ่ายด้วย เพราะว่ารถของเราต้องใช้เชื้อเพลิงเหล่านี้ในการขับขี่นั่นเอง ซึ่งโดยปกติแล้ว ค่าน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่เยอะมากๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ โดยจะต้องจ่ายค่าน้ำมันมากหรือน้อยนั้น ก็อยู่ที่ขนาดของรถเราว่าใหญ่หรือเล็ก และรุ่นของรถ รวมถึงการใช้งานบ่อยครั้งด้วย หากเรามีการใช้รถอยู่บ่อยๆ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะเพิ่มขึ้น

        แต่ก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะว่ามีอยู่หลากหลายวิธีที่จะช่วยให้เราลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ลงไปได้ และหนึ่งในวีที่หลายๆ คนเลือกก็คือ การดัดแปลงรถให้สามารถใช้แก๊สแทนน้ำมันได้ ซึ่งก็พอจะลดค่าใช้จ่ายลงมาได้ แต่ว่าก็ต้องแลกกับการที่เครื่องยนต์ของรถเราจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นด้วย

        2.ค่าประกันภัยรถยนต์ทั้งภาคบังคับและภาคสมัครใจ

        เข้าใจง่ายๆ ว่าประกันภัยรถยนต์มีอยู่ 2 ประเภทคือ

• ค่าประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ
  • คือ พ.ร.บ. รถยนต์นั่นเอง ที่กฏหมายบังคับว่ารถทุกคันต้องมี เพื่อไว้ให้ความคุ้มครองกับบุคคลที่ประสบเหตุในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น
• ค่าประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ
  • คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 2 2+ 3 3+ นั่นเอง ที่เราสามารถจะเลือกทำหรือไม่ทำก็ได้ตามใจชอบ หากเราไม่ได้ทำประกันส่วนนี้ไว้แล้วเราเกิดอุบัติเหตุขึ้น เราจะต้องเป็นคนรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอง แต่หากว่าเราทำประกันภัยรถยนต์ไว้ ในส่วนของค่าเสียหายประกันก็จะดูแลให้ แต่จะไม่เกินขอบเขตที่ได้กำหนดไว้ในกรมธรรม์ที่เราทำไว้ครับ

        3.ค่าดูแลรักษาและซ่อมแซมรถ

        รถยนต์ก็เป็นสิ่งของอย่างหนึ่งที่เมื่อเราใช้ไปนานๆ ก็ย่อมมีการเสียหายเกิดขึ้นได้ ซึ่งเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น  ก็มักจะมีค่าใช้จ่ายตามมานั่นเอง ถึงต่อให้ไม่เสียหายอะไรจากการใช้งาน เราก็จะยังมีค่าใช้จ่ายในส่วนของการบำรุงรักษารถอีกอยู่ดี เช่น เอารถเข้าศูนย์เพื่อเช็คสภาพหลังจากวิ่งมาได้ 10,000 กิโลเมตร เป็นต้น ซึ่งโดยปกติแล้วค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาท

        4.ค่าที่จอดรถและค่าทางด่วน

        ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เหมือนจะไม่มีแต่ดันมีนะครับ เพราะว่าค่าใช้จ่ายทั้งสองอย่างนี้ เป็นค่าใช้จ่ายที่คนมีรถคุ้นเคยกันเป็นดี ในส่วนของค่าที่จอดรถนั้นหากใครอยู่บ้านส่วนตัวก็จะสบายหน่อยตรงที่ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเรานำรถไปจอดนอกบ้านตามสถานที่ต่างๆ นั่นเอง แต่หากใครอยู่หอพักนี่อาจจะทำใจซักหน่อยนะครับ เพราะหลายๆ หอพักนั้นมีการเก็บค่าบริการที่จอดรถด้วย ตรงส่วนนี้ทำให้แม้ว่าเรานั้นไม่ได้นำรถไปจอดที่อื่น เราก็ยังมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นอยู่ดี ดังนั้นใครที่อยู่หอพักและต้องการซื้อรถก็อย่าลืมคิดถึงค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วยนะครับ  

        ส่วนค่าทางด่วนนั้น จะมีค่าใช้จ่ายมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้งานบ่อยหรือไม่ครับ หากใช้บ่อยค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็อาจจะเยอะ แต่หากใช้น้อย ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็จะน้อยตามไปด้วยนั่นเอง

        5.ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดจากตัวเราเจ้าของรถเอง

        หลายๆ คนที่มีรถยน์ก็จะรักรถยนต์ของตัวเองมาก อยากจะซื้อโน่นนี่มาคอยแต่งเติมรถของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งส่วนนี้ก็ถือเป็นค่าใช้จ่ายนะครับ เพราะเราต้องซื้อหามาด้วยเงินนั่นเอง หรือบางครั้งเราทำผิดกฏจราจรจนถูกคุณตำรวจจับ เราก็ต้องจ่ายค่าปรับด้วย ดังนั้นอย่าลืมเก็บเงินสำรองเผื่อไว้สำหรับส่วนนี้ด้วยนะครับ ไม่อย่างนั้นได้เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างแน่นอน

        หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังวางแผนจะซื้อรถนะครับ จะได้หาทางรับมือกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะเจอขึ้นมาได้ และก่อนที่จะตัดสินใจซื้อรถนั้นควรที่ลองคำนวณค่าใช้จ่ายที่จะเกิดดูก่อน ว่าเรานั้นสามารถที่จะจ่ายไหวหรือไม่ เพื่อที่การตัดสินใจซื้อรถครั้งนี้จะไม่เป็นการเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายที่มากจนเกินไปให้กับตัวเราเองครับ

ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th