BAAN 365 By LPN ขึ้นแท่นเรือธงใหม่ ตอกย้ำกลยุทธ์ Year of Change ขยายฐานคนมีกำลังซื้อสูง นำร่องย่านพระราม 3มูลค่าโครงการ 3,200 ล้าน เปิดขาย 14-15 ก.ค. นี้ เริ่ม 18 - 60 ล้าน เจาะกลุ่มเจ้าของธุรกิจ ครอบครัวขยาย และคนทำงานในเมืองที่มีรายได้สูง ตอบโจทย์ด้วยแบบบ้านเรียบหรูสะท้อนความเป็นจริงของการอยู่อาศัย ภายใต้แนวคิด Livable Simple Luxury House ที่พิถีพิถันทุกรายละเอียด เชื่อความสำเร็จนี้ส่งรายได้หมวดบ้านพักอาศัยขยับขึ้น 100 พร้อมปักหมุดทำเลต่อไปทันที

 

 

          นายสุรวุฒิ สุขเจริญสิน เจ้าหน้าที่บริหารระดับสูงด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (LPNเปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีที่บริษัทได้กำหนดกลยุทธ์ Year of Change โดยเริ่มจากการรุกตลาดอาคารสำนักงานเพื่อขยายธุรกิจในโครงการลุมพินี ทาวเวอร์ วิภาวดี จตุจักร ในไตรมาส 3 นี้ บริษัทได้เตรียมเปิดตัว BAAN 365 By LPN ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์เพื่อเป็นเรือธงสำคัญในการพัฒนาโครงการประเภทบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับไพร์ม เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในระดับ B+ ขึ้นไป โดยเน้นความพิถีพิถันตั้งแต่การเลือกที่ดิน โดยเหตุผลที่บริษัทเลือกพัฒนาโครงการนี้บนทำเลพระราม 3 เนื่องจากเป็นทำเลที่อยู่ในเมือง ลักษณะของที่ดินมีความเหมาะสมที่จะพัฒนาทั้งบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมที่ให้ความเป็นส่วนตัว  มีความสงบ อากาศบริสุทธิ์ และมลภาวะน้อยเนื่องจากตั้งอยู่บนถนนเส้นรอง แต่ยังคงเดินทางเข้า - ออกนอกเมืองได้สะดวกเพราะใกล้กับถนนเส้นหลัก การพัฒนาโครงการในย่านนี้จึงตอบโจทย์ความต้องการบ้านในเมืองสำหรับลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง และมีแนวโน้มขยายครอบครัวเพื่อรองรับการอยู่อาศัยที่รวมคน 3 วัยไว้ด้วยกัน  ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าตลาดนี้ยังมีความต้องการอยู่ ดังนั้น การพัฒนาโครงการ BAAN 365 จะสามารถทำให้รายได้ในหมวดบ้านพักอาศัย (Housing) ของบริษัทเติบโตขึ้นถึง 100 %   

 

          “โครงการ BAAN 365 ที่บริษัทพัฒนาขึ้นในครั้งนี้ เป็นความตั้งใจของผู้บริหารที่มีจะสร้างบ้านภายใต้แนวคิด Livable Simple Luxury House เรียบง่ายแต่พิถีพิถันกับทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกที่ดิน การออกแบบที่เข้าใจ ให้ความสำคัญ และคำนึงถึงการอยู่อาศัยจริง จึงลดทอนความซับซ้อนและสิ่งที่เกินความจำเป็นออกไป มีการวางผังพื้นที่ใช้งานให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการอยู่อาศัยของคนหลายวัยในครอบครัว สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นทั้งพื้นที่ส่วนตัว และพื้นที่สังสรรค์ร่วมกันได้ เลือกใช้วัสดุที่คงทน ดูแลง่าย เพื่อเน้นคุณค่าของการใช้งานอย่างแท้จริง ผนวกกับการก่อสร้างที่พิถีพิถัน อันสะท้อนตัวตนของ LPN ที่เข้าใจการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญที่สุดคือ การบริหารโครงการภายใต้กลยุทธ์ “Livable Community” หรือ “ชุมชนน่าอยู่” เพื่อสร้างความสุขที่แท้จริงของการอยู่อาศัยให้กับทุกครอบครัว”

 

 

          BAAN 365 พระราม 3 มูลค่าโครงการ 3,200 ล้านบาท ประกอบด้วยบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม โดยบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 41 หลัง เริ่ม 35-60 ล้านบาท บนที่ดิน 56-100 ตร.วา (ตามลำดับ) แบ่งเป็น 3 สไตล์ ได้แก่ The Garden Villa พื้นที่ใช้สอย 340 ตร.ม. ให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียวในบริเวณบ้าน The Pool  Villa พื้นที่ใช้สอย 490 ตร.ม. เหมาะกับผู้ที่ต้องการสระว่ายน้ำส่วนตัว และ The Pavilion Villa พื้นที่ใช้สอย 490 ตร.ม. เป็นแปลงที่ดินพิเศษ มีพื้นที่ขนาดใหญ่  และสระว่ายน้ำส่วนตัว โดยทุกหลังมีลิฟต์อำนวยความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัย   

 

 

          ส่วนทาวน์โฮม 4 ชั้นครึ่งของ BAAN 365 พระราม 3 นั้น มีจำนวน 58 หลัง ราคาเริ่มต้น 18 ล้านบาท บนที่ดิน 26 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 310-320 ตร.ม. ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการจัดวางผังให้แต่ละยูนิตสลับหน้า-หลังกันเพื่อความเป็นส่วนตัวของผู้อยู่อาศัย ขณะเดียวกัน ภายในโครงการยังมีคลับเฮ้าส์ที่โดดเด่นทางภูมิสถาปัตยกรรมที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยผ่านวัสดุเซรามิก ผสมผสานแนวคิด Functionalism เหมาะสำหรับชีวิตทุกสไตล์ทั้ง Slow Life และ Fast  Move บริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียว พร้อมโอโซนธรรมชาติที่หาได้ยากขึ้นในปัจจุบัน

 

“สำหรับ BAAN 365 พระราม 3 แบ่งเป็น 2 เฟส โดยเฟสแรกมูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เปิดขายวันที่ 14-15 ก.ค. นี้ ในราคา 18 - 60 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขาย 6 เดือนไว้ที่ 1,200 ล้านบาท และในอนาคตบริษัทเตรียมพัฒนาโครงการ BAAN 365 By LPN เพิ่ม โดยยังคงเลือกทำเลในเมือง ภายใต้แนวคิด Livable Simple Luxury House ที่สะท้อน A Place of mind” นายสุรวุฒิ กล่าวปิดท้าย

 
บทวิเคราะห์ตลาดบ้าน Premium
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ตลาดบ้านแนวราบระดับ Premium จากปี 2558 ถึงไตรมาสที่ ปี 256มีอุปทานผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ และรายย่อย 42โครงการ จำนวน 1,554 ยูนิต โดยในปี 2560 มีที่อยู่อาศัยแนวราบระดับ Premium มีการเปิดตัวเข้าสู่ตลาดประมาณ 400 กว่าหน่วย สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการบ้านระดับ Premium ที่มีอย่างต่อเนื่อง โดยทำเลที่เป็นที่สนใจหลักเรียงตามความหนาแน่นของโครงการที่เปิดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ได้แก่

 1) สุขุมวิท (พร้อมพงษ์-เอกมัย)
(2) ลาดพร้าว-เกษตรนวมินทร์
(3) พระรามเก้า-ศรีนครินทร์-พัฒนาการ
(4) ราชพฤกษ์
(5) สาทร พระราม 3

(ที่มา: เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ มาร์เก็ตติ้ง)

เมื่อพิจารณาจากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่าการพัฒนาบ้านแนวราบระดับ Premium นั้น มีปัจจัยเรื่องขนาดที่ดินและราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นมาเกี่ยวข้องด้วยในการพัฒนาโครงการ โดยในช่วง 5 เดือนแรกปี 2561 มีบ้านเดี่ยวที่ระดับราคา 10–20 ล้านบาท เข้าสู่ตลาดกว่า 600 หน่วย และทาวน์เฮาส์ราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปประมาณ 30 หน่วย

 

 

 
พระราม 3

          จจุบันบ้านแนวราบที่เปิดขายในทำเลนี้ ทาวน์โฮมมีจำนวนมากที่สุดคือ ประมาณ 2,700 หน่วย รองลงมาคืออาคารพาณิชย์/โฮมออฟฟิศ และบ้านแฝด โดยมีบ้านเดี่ยวพื้นที่ 200 หน่วย ย่านพระราม 3 ช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมานั้น ทาวน์โฮมถือว่ามีการตอบรับจากผู้ซื้อสูงมาก สามารถขายได้เกือบ 100% ทุกโครงการ โดยในพื้นที่มีจำนวนหน่วยเหลือขายน้อยมาก

 
          จากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าทาวน์โฮมได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากผู้ประกอบการและผู้ซื้อ ซึ่งทาวน์โฮมในย่านนี้ช่วงก่อนปี 2558 ราคาเริ่มต้นที่ 7-8 ล้านบาท มีเนื้อที่ประมาณ 28 ตร.วา พื้นที่ใช้สอยเฉลี่ยอยู่ที่ 250-280 ตร.ม. แต่ปัจจุบันราคาทาวน์โฮมย่านพระราม 3 เริ่มต้นที่ราคาประมาณ 14 ล้านบาทขึ้นไป จนถึง 20-30 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอยและFunctionalism สิ่งอำนวยความสะดวก Facility และด้วยปัจจุบันราคาที่ดินสูงขึ้น ขนาดที่ดินสำหรับพัฒนาบ้านแนวราบมีจำนวนไม่มากนัก ผู้ประกอบการจึงได้ปรับรูปแบบบ้านและขนาดพื้นที่ใช้สอยให้มีขนาดมากขึ้น ด้วยการออกแบบทาวน์โฮม หรือบ้านให้มีลักษณะเป็นบ้านแนวสูง มีจำนวนชั้นที่เริ่มตั้งแต่ 4- 4.5 ชั้นขึ้นไป สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้กับผู้อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้นได้เป็น 300 ตร.ม. ขึ้นไป ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่อยู่จะค่อนข้างสูงแต่เมื่อเทียบกับหลายทำเล แต่ด้วยปัจจัยด้านพื้นที่ใช้สอยประกอบกับ Facility ที่ได้รับ และปัจจัยต่างๆ ต่อไปนี้ ทำให้บ้านในย่านพระราม 3 เป็นที่สนใจของกลุ่มผู้ซื้อ

1. ทำเลติดกับย่านธุรกิจ การค้าที่สำคัญของประเทศ CBDสาทร–พระราม 4 แวดล้อมไปด้วยสถานศึกษา ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาลชั้นนำ

2. มีทางขึ้น – ลง ทางด่วน สามารถเดินทางไปอีกฝากฝั่งของเมืองและสนามบินได้สะดวก รวมถึงใกล้ทางเข้า-ออก สู่ต่างจากหวัด

3. โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาในอนาคต ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างพิจารณา

    (หากผ่านการอนุมัติให้ก่อสร้างได้ จะทำให้โครงการอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าในระยะไม่เกิน 1 กิโลเมตร)

4. ราคาเช่าทาวน์โฮมพื้นที่นี้ ประมาณ 45,000 – 50,000 บาทต่อเดือน

5. เป็นย่านที่อยู่อาศัยระดับกลางสูงถึง Hi-end มีสภาพแวดล้อมที่ดี ไม่แออัดเกินไป เงียบสงบ แต่อยู่ติดกับย่านธุรกิจการค้า CBD

 

 
จากปัจจัยต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับ Hi-end ทั้งภายในบ้านและพื้นที่ส่วนกลาง ทำให้บ้านที่ขายในย่านนี้มีราคาสูง แต่ถือว่าสิ่งที่ผู้ซื้อได้รับนั้นคุ้มค่าจึงทำให้บ้านแนวราบทำเลนี้ยังคงเป็นที่ต้องการจากผู้ซื้อเห็นได้จากโครงการบ้านแนวราบในบริเวณนี้มียอดขายเฉลี่ยในปัจจุบันเกือบ 100% และขายหมดในเวลาไม่นาน

 

 

ผู้ประกอบการบ้านแนวราบย่านพระราม 3

           เมื่อศึกษาลงไปในพื้นที่พบว่าผู้ประกอบการบ้านแนวราบในย่านพระราม 3 ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายย่อยท้องถิ่นซึ่งพัฒนาโครงการขนาดย่อม ดังต่อไปนี้

 

บริษัท

คิดเป็น%

บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน)

10%

ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้

12%

บมจ. ไรมอนแลนด์

<1%

บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

2%

บริษัท สุพรีม ทีม จำกัด

1%

เอ-ลิสท์ ดีเวลลอปเมนท์

<1%

ห้างหุ้นส่วนจำกัดถาวรพาณิชย์ก่อสร้ง

1%

บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

2%

บริษัท ซิตี้ รีสอร์ท ลิฟวิ่งโฮม จำกัด

3%

บริษัท บ้านศรีกรุง ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

1%

บริษัท ภัทรา เอสเตท จำกัด

1%

บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)

4%

ผู้ประกอบการรายอื่นๆ

62%

 

 

จากข้อมูลอาจกล่าวได้ว่าปัจจัยด้านการถือครองที่ดินและขนาดที่ดินบริเวณนี้มีจำนวนไม่มากทำให้ไม่สามารถหาที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการบ้านแนวราบขนาดใหญ่ได้ รูปแบบการพัฒนาจึงเป็นการพัฒนาโครงการขนาดย่อม จำนวนหน่วยไม่มากนัก และส่วนมากเป็นการพัฒนาทาวน์โฮม ทำให้ความต้องการบ้านแนวราบย่านพระราม 3 ยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีราคาสูงก็ตาม

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก www.lpn.co.th