ถอดบทเรียนจาก ‘หน่วยซีล’ สู่ ‘วิถีผู้นำยุคดิจิทัล’
ซีล หรือ SEAL เป็นคำที่ย่อมาจาก SEa - Air – Land หน่วยรบพิเศษที่สามารถปฏิบัติการได้ทั้งในทะเล บนฝั่ง และจากอากาศ ถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง แต่มาเปลี่ยนชื่อเป็น SEAL ในภายหลัง หน่วย SEAL ได้ชื่อว่าเป็นหน่วยที่ถูกฝึกหนักที่สุดในบรรดาหน่วยรบพิเศษด้วยกันเองของทุกเหล่าทัพ และได้สร้างผลงานมากมายไว้ให้โลกจดจำมากมาย
ทั้งนี้ในหนังสือ Extreme Ownership: How U.S. Navy SEALs Lead and Win เขียนโดยจัคโก้ วิลลิงค์ และ เลฟ บาบิน หน่วย SEAL ที่เข้าไปปฏิบัติการในรามาดี ประเทศอิรัก ทั้งคู่ไม่เพียงถ่ายทอดเรื่องราวจากการฝึกของหน่วย SEAL และการปฏิบัติการในสนามรบแต่ยังสอดแทรกแนวคิดในเชิงธุรกิจ และ การเป็นผู้นำไว้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้นำในยุคดิจิทัลที่ต้องเผชิญกับความท้าทายรอบด้านไม่แพ้อยู่ในสนามรบ
1.ผู้นำแบบ SEAL ต้องรับผิดชอบในทุกเรื่อง ไม่ว่าสิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นหรือเกิดขึ้นแล้ว เหตุผลที่เป็นเช่นนี้ก็เพื่อฝึกให้ผู้นำทุกคนย้อนกลับมามองที่ตัวเองให้มาก แทนที่จะเอาแต่โบ้ยความผิดให้คนอื่น หรือ โทษว่าเหตุการณ์ต่างๆ ไม่เป็นดั่งใจ เพราะปัจจัยรอบตัวที่ไม่อาจควบคุม ควรหันกลับมามองที่ตัวเองและพยายามมองหาหนทางเพื่อแก้ปัญหาต่างๆ
2.ไม่มีทีมที่เลว มีแต่หัวหน้าที่แย่ หัวใจสำคัญที่สุดของหน่วย SEAL คือ การทำงานเป็นทีม จัคโก้ วิลลิงค์ และ เลฟ บาบิน ได้ถ่ายทอดถึงส่วนหนึ่งของการฝึกหฤโหดที่สะท้อนภาวะผู้นำได้เป็นอย่างดี คือ การฝึกที่เรียกว่า BUDS (Basic Underwater Demolition Seal Training) ที่ชี้ชัดว่า ทีมที่เคยประสบความสำเร็จในการฝึกนี้ อาจล้มเหลวไม่เป็นท่าได้เมื่อผู้นำไร้ความสามารถ
3.วินัยนำมาซึ่งอิสรภาพ การจะเป็นเรียกตัวเองว่าเป็นหน่วย SEAL ได้นั้นต้องมีระเบียบวินัยขั้นสูงสุด เพราะยิ่งฝึกหนักเท่าไหร่ ยิ่งมีโอกาสเรียนรู้ที่จะรับมือกับเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นเท่านั้น เปรียบเหมือนนักดนตรี ยิ่งมีโอกาสได้ฝึกซ้อมมากเท่าไหร่ ยิ่งเพิ่มความคุ้นเคยกับเครื่องดนตรี ลดโอกาสที่จะนำไปสู่ความผิดพลาด สามารถทำการแสดงได้อย่างไร้กังวล
4.ตั้งหลักและทำในสิ่งที่จำเป็นก่อน ไม่ว่าจะเป็นปฏิบัติการของหน่วย SEAL หรือ การทำธุรกิจ ถ้าจะให้ภารกิจลุล่วง คุณไม่สามารถอาศัยความใจร้อนเพื่อพาไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี แต่ต้องตั้งสติ เพื่อจัดลำดับความสำคัญก่อน-หลังของสิ่งที่กำลังเผชิญหน้า และค่อยๆ วางแผนเพื่อสะสางปัญหาเหล่านั้นไปทีละชั้น
5.กระจายอำนาจ การทำงานของหน่วย SEALแตกต่างจากหน่วยการรบทั่วไป เพราะในแต่ละภารกิจมีความยืดหยุ่นสูง นอกจากจะต้องเข้าไปในสถานที่ที่อันตรายและไม่คุ้นเคย บางครั้งยังเป็นการทำงานกลุ่มย่อย ดังนั้นการกระจายอำนาจในสั่งการจึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่หน่วย SEAL นำมาใช้ เพื่อเพิ่มความคล่องตัว และบรรลุภารกิจ ซึ่งเป็นวิธีที่ผู้นำยุคใหม่ควรนำมาใช้ เพราะ บางครั้งการสั่งการจากบนลงล่างเพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช่คำตอบที่ดีที่สุดเสมอไป การกระจายอำนาจสั่งการลงมายังผู้ใต้บังคับบัญชาในสายงานนั้นๆ นอกจากจะเพิ่มความยืดหยุ่นในการทำงาน ยังทำให้การทำงานรวดเร็ว และ ได้ผลลัพธ์ที่ดีด้วย
7.การวางแผน การทำงานใดๆ จะประสบความสำเร็จไม่ได้ ถ้าขาดการวางแผนที่ดี ผู้นำที่ดีควรวางแผนให้รอบด้าน คิดเผื่อไว้ล่วงหน้าเสมอว่า ถ้าแผนที่คิดไว้ไม่เป็นเช่นนั้น จะรับมืออย่างไร หรือ ถ้ารับมือไปตามแผน A แล้วไม่เวิร์ก จะมีแผน B อย่างไร ข้อสำคัญคือ เมื่อมีแผนรับมือที่ดีและรอบด้านต้องมั่นใจว่าผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าใจในแผนต่างๆ ตรงกัน
8.รู้ทันอีโก้ของตัวเอง สิ่งที่อันตรายที่สุด ไม่ว่าจะปรากฏตัวที่ไหนคือ คนที่มีอีโก้สูง คิดว่าตัวเองเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่ว่าจะในสนามรบหรือสนามธุรกิจก็ตาม ผู้นำที่ลูกน้องจะศรัทธา ต้องรู้ให้ทันอีโก้ตัวเอง คนเราไม่จำเป็นต้องรู้ครอบจักรวาล เพราะบางครั้งการยอมรับฟังความคิดเห็นลูกน้อง หรือ ยอมรับในสิ่งที่ไม่รู้ คือ การพาตัวเองอัพเลเวทสู่การเป็นผู้นำที่เหนือขึ้นอีกขั้น