แสนสิริปลุกกระแสแบรนด์ เดอะ เบส จากความสำเร็จของ “You are where you live” สู่คอนเซ็ปต์ใหม่ “MARK MY BASE” ปักหมุด 3 โครงการปี 61 มูลค่ารวมกว่า 6,100 ลบ. ล่าสุดเปิดตัวเดอะ เบส สะพานใหม่ ภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส กรุ๊ป และเดอะ เบส สุขุมวิท 50 ภายใต้ความร่วมมือกับโตคิว คอร์ปอเรชัน
แสนสิริปลุกกระแสแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE ต่อยอดหลังประสบความสำเร็จมาแล้วถึง 13 โครงการ มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท เผยโฉมTHE BASE New Series ในแบบที่สะท้อนความเป็นคุณ เปิดตัว 3 โครงการใหม่ในปี 61 บนทำเลศักยภาพทั้งอยู่อาศัยและลงทุน มูลค่ารวมกว่า 6,100 ล้านบาท ชูเดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต โครงการแรก ประสบความสำเร็จปิดการขายทันทีในวันพรีเซลล์ เดินหน้าตามแผนเปิดตัวอีก 2 โครงการใหม่ ในกรุงเทพฯ“เดอะ เบส สะพานใหม่” ภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส กรุ๊ป และ“เดอะ เบส สุขุมวิท 50” ภายใต้ความร่วมมือกับโตคิว คอร์ปอเรชัน มั่นใจ เดอะ เบส ภายใต้ คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASE โดดเด่นด้านดีไซน์ที่เข้าใจการใช้ชีวิตและฟังก์ชั่นการอยู่อาศัยในแต่ละทำเล สามารถตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างแน่นอน ส่งผลยอดขายรวมคอนโดมิเนียมของแสนสิริตามเป้าหมาย 30,000 ล้านบาท ก้าวสู่ปีแห่ง Sansiri Best Year Ever
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทประสบความสำเร็จในการพัฒนาคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ เดอะ เบส (THE BASE) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีความแข็งแกร่งของแสนสิริ เน้นการตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทันสมัย มีความเป็นตัวของตัวเอง การออกแบบในแต่ละโครงการสะท้อนบุคลิกภาพและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าในทำเลนั้นๆ ซึ่งเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ You are where you live โดยเปิดตัวมาแล้วถึง 13 โครงการ จำนวน 9,440 ยูนิต มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท
ล่าสุดเพื่อเป็นการตอกย้ำความสำเร็จและความแข็งแกร่งของแบรนด์ เดอะ เบส บริษัทจึงได้เปิดตัว เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “MARK MY BASE” สู่แบรนด์คอนโดมิเนียมที่มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น สะท้อนความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง ชูแนวคิดการออกแบบจากตัวตนของผู้อยู่อาศัยโดยการผสมผสานเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละทำเลเข้ากับการออกแบบที่ร่วมสมัย เกิดเป็นเอกลักษณ์และเรื่องราวที่สะท้อนถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัย โดยเดอะ เบส ที่ตั้งอยู่ในทำเลต่างๆ จะมีความโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ แตกต่างกัน ในแต่ละทำเล
เพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังเติมเต็มการใช้ชีวิตในทุกๆ ด้าน ตามมาตรฐานของแสนสิริที่พัฒนาและลงมือทำมาโดยตลอด ทั้งดีไซน์สวยงามที่มาพร้อมกับฟังก์ชั่นพร้อมใช้งานได้จริง ใส่ใจในทุกรายละเอียดและเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของลูกบ้านและการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ผสมผสานกับการอยู่อาศัยเพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อาทิ สมาร์ท ล็อคเกอร์ และโฮม เซอร์วิส แอปพลิเคชัน รวมถึงบริการที่ครบถ้วนเพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยที่ดีทั้งก่อนและหลังการขาย อาทิ Sansiri Security System มั่นใจกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. และสิทธิพิเศษต่างๆ ในแสนสิริ แฟมิลี่ ซึ่งทั้งหมดเพื่อ เติมเต็มการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์แบบแก่ลูกบ้านแสนสิริ
“บริษัทมีแผนเปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์ เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ MARK MY BASEในปี 2561 จำนวน 3 โครงการ ทำเลกรุงเทพฯ และภูเก็ต ได้แก่ เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต, เดอะ เบส สะพานใหม่ และเดอะ เบส สุขุมวิท 50 มูลค่ารวมกว่า 6,100 ล้านบาท โดยหลังจากที่บริษัทได้เผยโฉม THE BASE New Series ในแบบที่สะท้อนความเป็นตัวคุณ โครงการแรก เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต จำนวน จำนวน 590 ยูนิต มูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาปรากฎว่าได้รับการตอบรับที่ดีจนสามารถปิดการขายได้ทันทีในวันพรีเซลล์” นายภูมิภักดิ์ กล่าว
สำหรับโครงการ “เดอะ เบส สะพานใหม่” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอส กรุ๊ป จำนวน 820 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,800 ล้านบาท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด MY BASE REVEALS NEW PERSPECTIVES (มาย เบสมีหลายมุม) ผสมผสานองค์ประกอบของความแตกต่างอย่างลงตัวภายใต้คอนเซ็ปต์ความย้อนแย้ง (Irony) สะท้อน ไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าจับตามองในอนาคตเพียง 0 เมตรจากสถานีสายหยุด ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่จะเปิดให้บริการในปี 2563 และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ พร้อมเชื่อมต่อถนนหลายสายหลักอย่างวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน และสนามบินดอนเมือง ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและสถานที่ราชการหลายแห่ง เต็มอิ่มกับการใช้ชีวิตด้วยพื้นที่ส่วนกลางเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งมีพื้นที่รวมสูงถึง 4,800 ตารางเมตร จากพื้นที่โครงการทั้งหมด 4 ไร่ พร้อมโดดเด่นด้วย Rooftop Facilities เต็มพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการที่รวบรวมทั้งสวนสวย พื้นที่ดูดาว ลู่วิ่ง และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และ Panoramic Gym ที่ชั้น 14 เข้าไว้ด้วยกันพร้อมเชื่อมต่ออาคาร 2 ฝั่งด้วยทางเชื่อมแบบ Spiral Bridge ซึ่งออกแบบขึ้นด้วยหลัก Universal Design รองรับการใช้งานของคนทุกวัย นอกจากนี้ยังนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยแนวสูงด้วยยูนิตแบบลอฟท์ (Loft Unit) เพดานสูง 4.55 เมตร ที่ชั้น 14 ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้นกว่าเดิมโดยมีพื้นที่ใช้สอยให้เลือกสรรหลายขนาดตามความต้องการ พร้อมเปิดขายแบบแต่งครบ (Fully Furnished) ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท
โครงการเดอะ เบส สุขุมวิท 50 ภายใต้ความร่วมมือกับโตคิว คอร์ปอเรชั่น จำนวน 415 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 1,600 ล้านบาท พัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด MY BASE DISCOVER THE UNEXPECTED (มาย เบส คือ การค้นพบ) เพื่อให้คนรุ่นใหม่สามารถเข้ามาค้นพบความแตกต่าง อย่างเป็นตัวเอง ตั้งอยู่บนซอยสุขุมวิท 50 เชื่อมต่อทุกการเดินทางด้วยทางด่วน 2 สายหลักทั้งฉลองรัช และเฉลิมมหานคร สามารถเดินทางสู่พื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ อย่างรวดเร็ว ด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส เพียง 2 นาที จากบีทีเอสอ่อนนุช พร้อมบริการรถรับ-ส่งจากโครงการ อีกทั้งยังมีศักยภาพสูงในเรื่องของการลงทุนด้วย Rental Yield ของคอนโดมิเนียม แสนสิริในย่านนี้ที่เฉลี่ยสูงถึง 5-10% พร้อมสะท้อนตัวตนของคุณด้วยดีไซน์การออกแบบโครงการที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งภายนอกและภายในโครงการ อาทิ การออกแบบฟาสาด (Façade) ที่เล่นสนุกกับสีสัน คู่ตรงข้าม (Contrast) และลวดลายพรางสายตา (Camouflage) รวมถึงการดีไซน์ภายในส่วนกลางของโครงการด้วย หินเทอร์ราซโซ (Terrazzo) จากประเทศอิตาลีที่สั่งผลิตในลวดลายพิเศษสำหรับโครงการนี้โดยเฉพาะ เป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง และโคมไฟคอลเลคชั่น เมลท์เพนแดนท์ (Melt Pendant) จากดีไซน์เนอร์ชื่อดังทอม ดิกซอน (Tom Dixon) ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการหลอมละลายที่เกิดขึ้นในปรากฏการณ์ธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถรองรับการใช้งานหลากฟังก์ชั่น ด้วยความลงตัวของการออกแบบพื้นที่ภายในห้องพัก และสิ่งอำนวยความสะดวกในพื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่าง ให้ความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน พร้อมเปิดขายแบบแต่งครบ (Fully Furnished) ในราคาเริ่มต้นเพียง 2.29 ล้านบาท
โดยทั้ง 2 โครงการจะเปิดพรีเซลอย่างเป็นทางการในวันที่ 22-23 กันยายน 2561 นี้ พร้อมมอบข้อเสนอสุดพิเศษ! ฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยลูกค้าที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.sansiri.com โทร. 1685
“ด้วยปัจจัยภาพรวม อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาที่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจไทยที่ดี มีการปรับเป้าการส่งออกเพิ่มขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาที่สูงสุดในรอบ 5 ปี รวมถึงกำลังซื้อลูกค้าและทิศทางความต้องการที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เมื่อรวมกับการสร้างกระแสแบรนด์เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ “MARK MY BASE” เชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้ทั้ง 2 โครงการคอนโดมิเนียมเดอะ เบส ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั้งในด้านราคา ทำเล พื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชั่นการใช้งาน ส่งผลให้ยอดขายรวมคอนโดมิเนียมของแสนสิริในปีนี้เป็นไปตามเป้าหมาย 30,000 ล้านบาท ก้าวสู่ปีแห่ง “Sansiri Best Year Ever ” ได้อย่างสมบูรณ์” นายภูมิภักดิ์กล่าว #SansiriBestYearEver
ขอบคุณข้อมูลจาก www.sansiri.com