TITLE รุกตลาดคอนโดเทล จับมือ Best Western Inc. แบรนด์โรงแรมยักษ์ใหญ่ของโลก บริหารห้องพัก “The Title หาดราไวย์ เฟส 5” คาดสร้างรายได้ประจำหนุนการเติบโตอย่างมั่นคง
TITLE รุกตลาดคอนโดเทล จับมือพันธมิตรแบรนด์โรงแรมยักษ์ใหญ่ของโลก Best Western เพื่อบริหารห้องพักโครงการ The Title หาดราไวย์ เฟส 5 คาดว่าจะเปิดการขายภายในเดือนพ.ย.นี้ มูลค่าประมาณ 800-900 ลบ. หวังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการลงทุน เพื่อให้เกิดรายได้นอกเหนือจากการพักอาศัย “ศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม มั่นใจสร้างรายได้ประจำให้บริษัท และสนับสนุนการเติบโตในอนาคต
นายศศิพงษ์ ปิ่นแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2561 TITLE ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งกลุ่มบริษัท เบสท์ เวสเทิร์น (Best Western Inc. : BWI) เพื่อบริหารห้องพักโครงการ The Title หาดราไวย์ เฟส 5 ซึ่งเป็นคอนโดมิเนียมในรูปแบบคอนโดเทล
โดย The Title หาดราไวย์ เฟส 5 เป็นโครงการต่อเนื่องบนเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ และเป็นคอนโดมิเนียมในรูปแบบคอนโดเทล จำนวน 4 ตึก สูง 5 ชั้น 226 ยูนิต มูลค่าโครงการประมาณ 800-900 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดการขายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้ การเปิดตัวในรูปแบบคอนโดเทล ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าที่มีความต้องการลงทุน เพื่อให้เกิดรายได้นอกเหนือจากการพักอาศัยในบางช่วงเวลา ซึ่งความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้มีแนวโน้มที่สูงขึ้นมาก
สำหรับ BWI เป็นกลุ่มบริษัทที่มีความชำนาญในการบริหารโรงแรมและคอนโดเทล ภายใต้เชน (Chain) Best Western ถือเป็น 1ใน 10 ของผู้บริหารโรงแรมใหญ่สุดของโลก มีโรงแรมในเครือกว่า 4,000 แห่ง ใน 88 ประเทศ
การแต่งตั้ง BWI ในครั้งนี้ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะส่งผลดีต่อ TITLE ในอนาคต เพราะนอกจากจะให้ความเชื่อมั่นต่อลูกค้าที่ซื้อห้องในโครงการของเราแล้ว ยังทำให้เกิดรายได้ประจำ (Recurring Income) ในอนาคตอีกด้วย
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม TITLE กล่าวอีกว่า ในส่วนของความคืบหน้าของโครงการที่เปิดขายอยู่ทั้งที่หาดราไวย์และหาดในยางนั้น ปัจจุบันถือได้ว่าเกือบปิดการขายแล้ว เนื่องจากเหลือห้องรอการขาย 2-3% ซึ่งได้ทยอยโอนมาโดยตลอด โดยยอดโอนจะเริ่มสูงตั้งแต่ไตรมาส 4/61 เป็นต้นไป เนื่องจากจะเป็นการเริ่มโอนโครงการหาดในยาง มูลค่าโครงการประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยคาดว่าการก่อสร้างจะทันตามกำหนด ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเป้าหมายรายได้ของปี 2561 และ 2562 ได้ตามที่วางไว้ คือ 600 ล้านบาท และ 900 ล้านบาทตามลำดับ
สำหรับกรณีความกังวลในประเด็นที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีมาตรการออกมาคุมเข้มสินเชื่อบ้าน และต้องรอดูผลการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง(เฮียริ่ง) ก่อน ซึ่งธปท. จะเปิดชี้แจงกับผู้เกี่ยวข้อง 11 ต.ค.นี้นั้น ประเมินว่า กรณีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อ TITLE เนื่องจากฐานลูกค้าหลักของ TITLE เป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ ซึ่งโดยปกติไม่ได้มีการขอสินเชื่อจากสถาบันทางการเงินแต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูลจาก www.rhombho.co.th