ความร่ำรวยถือเป็นสิ่งที่คนมากมายใฝ่ฝันอยากจะมี ใครบ้างล่ะจะไม่อยากรวย จริงไหม? แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถร่ำรวยได้ เพราะอะไรน่ะหรือ? ก็เพราะยังคงเข้าใจผิดเกี่ยวกับหนทางสู่ความร่ำรวยอยู่น่ะสิ เลือกเดินทางผิดมันจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไรล่ะจริงไหม MoneyGuru.co.th ขอนำเสนอ สิ่งที่ คนอยากรวย คิดว่าทำแล้วจะรวย แต่ผลลัพธ์กลับไม่ทำให้พวกเขารวยเสียที

หวังโชคลาภ คนอยากรวย จะได้เป็นเศรษฐีข้ามคืน

เชื่อเถอะ ว่าคนไทยกว่า 90% ยังคงซื้อหวยซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคเสี่ยงดวง เพราะหวังจะถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 กลายเป็นเศรษฐีข้ามคืนแบบง่าย ๆ ไม่ต้องเหนื่อย ซึ่งเปอร์เซนต์ที่มันจะเกิดขึ้นกับคุณตลอดในชีวิตนี้ เรียกได้ว่าน้อยกว่า 1% เสียอีก สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอนก็คือ การเสียเงินไปเปล่า ๆ และไม่ทำให้คุณร่ำรวยขึ้นเลยแต่อย่างใด คุณลองคิดดูสิ ถ้าคุณเสียเงิน 1,000 บาททุกงวดเพื่อเล่นหวยซื้อลอตเตอรี่ (เดือนละ 2 ครั้ง เท่ากับเป็นเงิน 2,000 บาท) คุณจะเสียเงินไปฟรี ๆ 24,000 บาทในปีนั้นหากคุณไม่ถูกรางวัลเลย แต่ถ้าคุณนำเงินส่วนนี้เป็นเงินเก็บ, ทำธุรกิจ, หรือนำไปลงทุน คุณคงเริ่มเห็นหนทางรวยแบบจริง ๆ ไปแล้วล่ะ

มีไลฟ์สไตล์แบบคนรวย (ทั้งที่คุณไม่ได้รวยจริง)

ในหัวข้อนี้ เรากำลังพูดถึงคนที่พยายามสร้างภาพลักษณ์ให้คนอื่นเห็นว่าร่ำรวย หากคุณเป็นคนรวยจริงมันคงไม่ใช่ปัญหา ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนสุดหรูทุกครั้งที่ออกมาใหม่ ไปเที่ยวสถานที่หรูหราที่มีค่าใช้จ่ายแพงหูฉี่ หรือซื้อรถยนต์คันหรูเอาไว้ถ่ายภาพอวดชาวโซเชียล ซึ่งแน่นอนสิ่งเหล่านี้ล้วนต้องมีการลงทุน แต่หากคุณไม่ใช่คนรวยล่ะ การมีไลฟ์สไตล์แบบคนรวยอาจจะไม่ทำให้คุณรวยตามภาพลักษณ์ที่คุณสร้าง แต่ตรงกันข้าม อาจจะทำให้คุณจนลงเรื่อย ๆ ด้วยซ้ำ เพราะต้องกู้หนี้ยืมสินหรือรูดบัตรเครดิตซื้อของราคาแพงมาใช้ จนทำให้เงินเดือนที่คุณได้มาหมดไปแต่กับการใช้หนี้ แล้วแบบนี้คุณจะมีเงินเก็บเมื่อไหร่กันล่ะ?

คิดว่ามีบ้านเท่ากับมั่นคง

“บ้าน” เป็นสิ่งที่คนใช้บ่งชี้ว่าเจ้าของบ้านนั้นมีความ “มั่นคงในชีวิต” แต่ลืมนึกไปว่าบ้านนั้นคือภาระหนี้ ที่ไม่อาจจะการัยตีได้ว่าคุณจะมี “มั่นคงทางการเงิน” หากคุณรีบซื้อบ้านโดยที่ยังไม่พร้อม ก็ไม่ต่างอะไรจากการที่คุณมีไลฟ์สไตล์เกินตัวเหมือนหัวข้อที่แล้วเลย เพราะเงินเดือนของคุณ จะหมดไปกับการจ่ายค่างวดบ้านทุกเดือน ๆ โดยที่คุณไม่สามารถเก็บเงินเอาไว้ได้ ถ้าหากจะบอกว่าบ้านมีแต่จะเพิ่มมูลค่ามากขึ้น ไม่มีลดลงเหมือนกับรถยนต์ แต่คุณจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าคุณจะสามารถผ่อนบ้านไปได้ตลอดรอดฝั่ง ไม่ว่างงานตกงาน? คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณจะไม่เจอเรื่องฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา? หากจะขายบ้านเอาเงินมาเพื่อแก้ปัญหาฉุกเฉินนั้น คุณจะแน่ใจได้อย่างไรว่าจะขายบ้านได้ทันทีทันใดดั่งใจนึก? ดังนั้น การมีบ้านไม่ได้แปลว่ามั่นคง แต่ต้องมีบ้าน มีเงินเก็บสำรองเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน และมีรายได้มากกว่ารายจ่าย ทั้งหมดรวมกันนี้ต่างหาก จึงจะเรียกว่ามีความ “มั่นคงในชีวิต” ได้

ออมเงิน แต่ไม่คิดจะลงทุน

คนบางคนออมเงินเอาไว้ในบัญชีออมทรัพย์ (ซี่งดีแล้ว เพราะมันเป็นเรื่องที่ทุกคนควรทำ) แต่ไม่เคยมองเรื่องการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น เราไม่เถียงว่ามันจะทำให้คุณมีเงินเอาไว้ใช้หากมีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น หรือแม้แต่มีเงินเอาไว้ใช้ในยามเกษียณ แต่คุณไม่มีทางเป็นคนรวยจริง ๆ ได้ เพราะเงินเหล่านี้ไม่สร้างประโยชน์อะไรให้กับคุณเลย นอกจากเก็บเอาไว้ใช้จ่ายในอนาคตเท่านั้น คนที่ร่ำรวยมักจะทำให้เงินต่อเงิน ทำให้เงินงอกเงิย ใช้เงินทำงานแทนตัวเอง ด้วยการนำไปลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำธุรกิจ, ลงทุนในหุ้น, พันธบัตรรัฐบาล, LTF, RMF, กองทุนรวม, หรือแม้แต่ทอง หากคุณรู้จักลงทุนอย่างเหมาะสม ศึกษาหาข้อมูลอย่างดี และวางแผนอย่างรัดกุม เงินที่คุณมีอยู่แล้วก็จะเพิ่มพูนเป็นเท่าทวีคูณ ทำให้คุณกลายเป็นคนรวยได้แน่นอน
หากคุณอยากรวย ต้องเลือกเดินให้ถูกทางเพื่อจะไปถึงจุดหมายปลายทางของความมั่งคั่ง และแน่นอน มันไม่มีทางที่การพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทำบุญขอพรบนบานศาลกล่าว จะทำให้คุณจู่ ๆ จากคนที่ไม่มีอะไรกลายเป็นคนรวยขึ้นมาได้ในพริบตา ต่อให้คุณทำบุญมากมายแค่ไหน แต่หากไม่เคยคิดเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อที่จะได้ร่ำรวยขึ้นมา คุณก็ไม่มีทางรวยได้อย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก www.moneyguru.co.th