กรุงเทพฯ, 14 มกราคม 2561 – ซีบีอาร์อี ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกเผยว่า แม้ตลาดอพาร์ทเมนต์ให้เช่าสำหรับชาวต่างชาติในกรุงเทพมหานครจะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้นจากการที่เจ้าของคอนโดมิเนียมนำห้องชุดของตนมาปล่อยเช่า แต่ตลาดอพาร์ทเมนต์ดังกล่าวในย่านใจกลางเมืองยังมีแนวโน้มที่ดี ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯ เลือกเช่ามากกว่าซื้อที่พักอาศัย
ตลาดให้เช่าพักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติมีการแข่งขันที่สูง เนื่องจากชาวต่างชาติที่ทำงานในกรุงเทพฯ นั้นไม่ได้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น มีเพียงสัญชาติเดียวที่เพิ่มขึ้นก็คือชาวจีน แต่โดยทั่วไปชาวจีนส่วนใหญ่มีงบประมาณในการเช่าที่พักอาศัยต่ำกว่าผู้เช่าชาวญี่ปุ่น ชาวอเมริกัน และชาวยุโรปอยู่มาก ซึ่งเป็นที่มาของความต้องการในตลาดแต่เดิมสำหรับการเช่าที่พักอาศัยในย่านใจกลางกรุงเทพฯ
จากการที่ซีบีอาร์อีปล่อยเช่าที่พักอาศัยในกรุงเทพฯ มากกว่า 3,000 ธุรกรรมในช่วงสิบปีที่ผ่านมา พบว่า งบประมาณในการเช่าที่พักอาศัยของชาวต่างชาติไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้นเลย และมีค่ามัธยฐาน (Median)ของค่าเช่ารายเดือนหรือค่ากลางของค่าเช่ารายเดือนที่ประมาณ 90,000 บาทสำหรับขนาดสามห้องนอน และ 80,000 บาทสำหรับขนาดสองห้องนอน ทั้งนี้ เนื่องจากซีบีอาร์อีมีตลาดหลักเป็นกลุ่มผู้เช่าในระดับบนจึงทำให้ค่ากลางดังกล่าวสูงกว่าค่าเช่าโดยเฉลี่ยของตลาดให้เช่าที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติโดยรวม
ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต้องการพักอาศัยในไม่กี่ทำเล ได้แก่ ช่วงอโศกกับทองหล่อบนถนนสุขุมวิท ย่านลุมพินี และบางส่วนของย่านสาทร
ตัวเลือกสำหรับชาวต่างชาติโดยส่วนใหญ่ ก็คือ การเช่าอพาร์ทเมนท์จากบุคคลเดียวเป็นเจ้าของทั้งอาคาร หรือจากนักลงทุนรายย่อยที่ซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อนำมาปล่อยเช่า
จากการสำรวจโดยแผนกวิจัยซีบีอาร์อี พบว่า มีอพาร์ทเมนท์ให้เช่าที่ได้มาตรฐานสำหรับชาวต่างชาติเพียงประมาณ 10,000 ยูนิตเท่านั้นที่ตั้งอยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ ในขณะที่มีคอนโดมิเนียมราว 80,000 ยูนิตในทำเลเดียวกัน และซีบีอาร์อีประเมินว่า 35-40% ของคอนโดมิเนียมเหล่านี้เป็นของนักลงทุนที่ซื้อห้องชุดเพื่อนำมาปล่อยเช่า ในด้านของซัพพลาย อพาร์ทเมนท์ใหม่นั้นมีจำนวนจำกัด แต่คอนโดมิเนียมใหม่ยังคงจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เปรียบเทียบจำนวนอพาร์ทเมนท์และคอนโดมิเนียมในย่านใจกลางกรุงเทพมหานคร
ที่มา: แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี
ผู้เช่าจำนวนมากโดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นนิยมเช่าอพาร์ทเมนท์มากกว่า เพราะสามารถติดต่อทุกเรื่องได้โดยตรงกับผู้ดูแลอาคาร โดยที่ส่วนใหญ่จะมีช่างประจำอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการบริหารอาคารหรือการซ่อมบำรุงภายในห้องพัก ในขณะที่คอนโดมิเนียม ผู้จัดการอาคารจะรับผิดชอบเฉพาะการบริหารจัดการพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาภายในห้องพัก
“แม้ว่าจำนวนผู้เช่าชาวต่างชาติและงบประมาณในการเช่าจะไม่เพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีสำหรับผู้พัฒนาโครงการอพาร์ทเมนท์อยู่ และการแข่งขันจะเพิ่มมากขึ้นจากการปล่อยเช่าห้องชุดในคอนโดมิเนียมก็ตาม” นายธีราธร ประพันธ์พงศ์ หัวหน้าแผนกให้เช่าที่พักอาศัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย ซึ่งมีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในตลาดให้เช่าที่พักอาศัยสำหรับชาวต่างชาติกล่าว
กุญแจสู่ความสำเร็จในการปล่อยเช่านั้นไม่ได้มีเพียงเรื่องทำเล แต่การมีขนาดห้องที่เหมาะสมซึ่งสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ได้สูงสุด และการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ และการตกแต่งภายในห้องที่มีคุณภาพดีและสวยงามก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
ล่าสุด ซีบีอาร์อีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนแต่เพียงผู้เดียวในการปล่อยเช่าและเป็นผู้บริหารอาคารให้กับ จิติมนต์ เรสซิเด้นซ์ โครงการอพาร์ทเมนท์ใหม่ที่เพิ่งแล้วเสร็จในซอยทองหล่อ 16 ซอยตรงข้ามเจ อเวนิว โครงการนี้นับเป็นตัวอย่างหนึ่งที่ดีที่แสดงให้เห็นว่า อพาร์ทเมนท์ซึ่งมีบุคคลเดียวเป็นเจ้าของยังคงสามารถแข่งขันกับคอนโดมิเนียมได้ โดยมีห้องให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 1 – 3 ห้องนอน พร้อมด้วยการออกแบบและการเลือกใช้วัสดุต่างๆ ที่ดึงดูดผู้เช่าชาวต่างชาติ
หากมองไปในปี 2562 นายธีราธรไม่ได้คาดว่าจะมีจำนวนผู้เช่าชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก หรืองบประมาณในการเช่าของผู้เช่าชาวต่างชาติจะปรับตัวสูงขึ้น แต่โครงการอพาร์ทเมนท์ที่มีคุณภาพจะยังคงได้รับค่าเช่าและมีอัตราการเข้าพักในระดับที่สูงอยู่
ขอบคุณข้อมูลจาก www.cbre.co.th